NER ได้ปรับระดับจาก AA เป็น AAA จาก Yuanta ESG Ratings ประจำปี 2566 ตอกย้ำการดำเนินงานภายใต้กรอบ ESG ในทุกมิติ

05 Feb 2024

บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า Yuanta ESG Ratings ได้ปรับขึ้นจากระดับจาก AA เป็น AAA สำหรับการประเมินคะแนน ESG ประจำปี 2566 ซึ่งจัดทำโดย บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด จากปัจจุบันหุ้นใน Coverage ทั้งหมด 157 บริษัท ได้รับการประเมินด้าน ESG แล้ว

NER ได้ปรับระดับจาก AA เป็น AAA จาก Yuanta ESG Ratings ประจำปี 2566 ตอกย้ำการดำเนินงานภายใต้กรอบ ESG ในทุกมิติ

สำหรับการประเมินคะแนน ESG ประจำปี 2566 เราได้มีการรวบรวมข้อมูลด้าน ESG ระหว่างปี 2564 -2566(ข้อมูลปี 2566 เป็นข้อมูลตั้งแต่เดือน ม.ค. -ต.ค.) ของแต่ละบริษัทภายใต้ Coverage ของเราและจัดทำแบบซักถามใหม่โดยอิงเกณฑ์ จาก ESG Metrics ซึ่งเชื่อมโยงกับกรอบการรายงานความยั่งยืนสากล (GRI Standards) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDG) เพื่อให้สามารถประเมินมาตรฐานและแนวทางการพัฒนาด้าน ESG ของแต่ละบริษัทได้ละเอียดและแม่นยำมากขึ้น (เมื่อเทียบกับแบบซักถามในปี 2565 ที่ใช้ข้อมูลเพียง 1ปีย้อนหลังในการประเมิน) ในขั้นแรกนักวิเคราะห์ของแต่ละกลุ่มอุตสากรรมจะเป็นผู้ประเมิน โดยใช้เวลาในการประเมินทั้งสิ้น 3 เดือน (พ.ย. 2566 ม.ค. 2567) และภายหลังจากการประเมินขั้นแรกเสร็จสิ้น ผู้ประเมินจะต้องตอบข้อซักถามเกี่ยวกับบริษัทที่ได้รับการประเมินจากคณะกรรมการด้าน ESGของ Yuanta Research(รูปแบบ Peer Review) เพื่อสร้างมาตรฐานในการให้คะแนนด้าน ESG ที่เท่าเทียมกันในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม

NER From AA to AAA

  • E (Environment)
    • บริษัทมีการตั้งเป้าหมายสู่ Carbon Neutrality ที่ชัดเจนคือภายในปี 2583
    • มีการใช้พลังงาน และทรัพยากรน้ำในการดำเนินงานลดลงแม้ว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นและสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    • ปริมาณขยะและของเสียจากการดาเนินงานเพิ่มขึ้นในปี 2565 แต่ลดลงในปี 2566 จาก 33.0 ตันเป็น 32.5 ตัน
    • บริษัทเป็นผู้นำร่องการพัฒนาสวนยางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เข้ามาตรฐานของ EUDR
    • สนับสนุนการใช้วัสดุ Recycle เช่น เสื้อพนักงานทำจากขวดพลาสติก การจัดตลาดนัดสินค้าสีเขียว เป็นต้น
  • S (Social)
    • ไม่มีข้อพิพาทด้านสิทธิมนุษยชน มีการประเมินความพึงพอใจของพนักงานสม่ำเสมอ และพนักงานมีความพึงพอใจมากขึ้นต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
    • สัดส่วนพนักงานหญิงยังต่ำกว่า 50% เนื่องจากข้อจำกัดในบางส่วนงานต้องใช้แรงในการทำงานมาก แต่แนวโน้มสัดส่วนพนักงานหญิง ในช่วงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
    • อัตราการขึ้นเงินเดือนของพนักงานมากกว่าอัตราเงินเฟ้อ และมีการเพิ่มเงินลงทุนเกี่ยวกับการพัฒนาพนักงานต่อเนื่อง อัตราการลาออก โดยสมัครใจของพนักงานลดลงต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
    • มีการให้ทุนการศึกษา อุปกรณ์สนับสนุนการศึกษาแก่โรงเรียนในชุมชน
    • มีการพัฒนาการผลิตที่ทำให้เกิดกลิ่นน้อยลง ไม่กระทบสิ่งแวดล้อมและชุมชน
  • G (Governance)
    • บริษัทมีความสม่ำเสมอในการจัดกิจการ opportunity day ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์เป็นประจำไตรมาสละ 1 ครั้ง มีการจัดกิจกรรม ประชุมนักวิเคราะห์สม่ำเสมอไตรมาสละ 1 ครั้งเช่นกัน และมีทีมนักลงทุนสัมพันธ์ที่สามารถตอบคำถามนักลงทุน และนักวิเคราะห์ได้ในเวลาอันรวดเร็ว และข้อมูลเป็นประโยชน์โดยที่ไม่ต้องรอผู้บริหารระดับสูงเพียงอย่างเดียว
    • รายงานวิเคราะห์ผลประกอบการมีข้อมูลครบถ้วนในเนื้อหาที่มีความสำคัญ และจำเป็นในการตัดสินใจลงทุน
    • มีการตั้งบลงทุนด้าน ESG โดยเฉพาะเป็นปีแรกในปี 2566 ที่ผ่านมา

โดยการประเมินดังกล่าวนับว่าเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง ในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างเข้มแข็งและรอบด้าน สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) พร้อมเผชิญกับทุกความเสี่ยงใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ด้วยแผนการบริหารจัดการรองรับประเด็นต่างๆ อย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยที่ตอกย้ำความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืน