"แอล ดับเบิลยู เอส" ระบุการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 ต้องให้ความสำคัญใน 3 มิติ คือ ผู้คน(Population), สังคมและวัฒนธรรม(Social & Culture) และ สิ่งแวดล้อม(Environment) ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมภายหลังการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส 2019
 
                                                                                                                                        นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล พี เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ว่า จากการรวบรวมและวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในปี 2567 ของฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์(Product Design Center:PDC) พร้อมกับนำบทวิเคราะห์ของ 'คิด' Creative Thailand ในฐานะสื่อสร้างสรรค์ที่มีบทบาทในการรวบรวมองค์ความรู้ด้านความคิดสร้างสรรค์ ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ได้นำเสนอ E-book Trend 2024: REMADE ANEW ที่ได้รวบรวมบทวิเคราะห์เจาะลึก เกาะติดแนวโน้มและความเคลื่อนไหวในภาคธุรกิจสร้างสรรค์ที่จะเกิดขึ้น ในปี 2567 มาประมวลผล พบว่า การพัฒนาที่อยู่อาศัยและงานบริการในปี 2567 จะต้องคำนึงถึง 3 มิติ ประกอบด้วย ผู้คน (Population), สังคมและวัฒนธรรม (Social&Culture) และนิเวศและสิ่งแวดล้อม (Environment)
                                                             
                                                                                                                            
ด้านผู้คน Population
ปัจจุบันผู้คนในแต่ละ Generation ต่างมีความต้องการที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่อยู่อาศัยและงานบริการที่เกี่ยวข้องเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการที่แตกต่างกันในรูปแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว(Uniqueness) เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการที่แตกต่างกันสำหรับผู้ซื้อในแต่ละ Generation ยกตัวอย่างเช่น
Ageless Marketing หรือการตลาดแบบไม่จำกัดอายุ ปัจจุบันไม่มีผู้บริโภคที่อยากจะถูกเรียกว่า ผู้สูงอายุ แต่ผู้บริโภคมักจะเลือกผลิตภัณฑ์/บริการที่สะท้อนภาพลักษณ์ของสิ่งที่พวกเขาอยากเป็น ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเป็น และสิ่งนี้ใช้ได้กับผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการคืออิสระในการใช้บริการต่างๆโดยไม่จำกัดอายุ เช่น การออกกำลังกาย เสื้อผ้าแฟชั่น การออกแบบเฟอร์นิเจอร์สำหรับทุกวัย
Solo Service จากรูปแบบการใช้ชีวิตที่ต้องการอิสระ อยู่เป็นโสดและเดินทางคนเดียวมากขึ้น ทำให้ความต้องการที่จะได้รับบริการสำหรับลูกค้าที่มาเพียงลำพัง จึงเป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เช่น ร้านอาหารที่มีพื้นที่สำหรับการนั่งคนเดียว หรือการออกแบบพื้นที่สำหรับคนโสด แต่ต้องการได้บรรยากาศที่เชื่อมต่อกับผู้คนภายนอก เช่น Co-working Space หรืออพาร์ทเมนต์สำหรับคนโสด ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
Build-to-Rent (BTR) คือการสร้างบ้านให้เหล่าคนโสดมารวมตัวกัน อาจเป็นได้ทั้งการแชร์บ้านกับคนแปลกหน้า หรือการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนแกงค์คนโสด วัฒนธรรมการเช่าบ้านนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในจีน เอเชีย และสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2561 รวมไปถึงคู่สมรสที่ไม่อยากมีลูก โดย 60% ให้เหตุผลว่าการไม่มีลูกทำให้มีเงินเก็บเพื่อนำไปท่องเที่ยว และ 74% บอกว่าการมีสัตว์เลี้ยงก็ช่วยเติมเต็มสมาชิกในครอบครัวได้ก็ต้องการที่อยู่อาศัยในรูปแบบของการเช่ามากขึ้น
จากผลการสำรวจของ LWS พบว่า ปัจจุบันราคาที่อยู่อาศัยมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลมาจากราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นผนวกกับราคาวัสดุก่อสร้าง ราคาพลังงาน และต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นสวนกับความสามารถในการสร้างรายได้ของผู้บริโภคในปัจจุบัน จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้การซื้อที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มลดลง โดยปี 2565 ตลาดคอนโดมิเนียม (กทม.-ปริมณฑล) มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์สัดส่วนหดลงมาอยู่ที่ 34% จากเดิมเคยสูงถึง 45% ของ 6.5 แสนล้านบาท
ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าระหว่างการเช่ากับซื้อ พบว่า จากราคาขายคอนโดมิเนียม กทม.-ปริมณฑล มีการปรับเพิ่มเทียบกับปี 2561 ถึง 29% ในขณะที่อัตราค่าเช่ากลับมีทิศทางที่ลดลงประมาณ 7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน ส่งผลให้ทิศทางการเลือกคอนโดมิเนียมในรูปแบบการเช่าไตรมาส 1 ปี 2566 เพิ่มขึ้นถึง 56% เมื่อเทียบกับความต้องการซื้อที่ลดลงราว 5% เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน ส่งผลให้เข้าสู่ยุค Generation Rent ที่เน้นการเช่ามากกว่าซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z(First Jobber), Gen Y ที่มีสถานะเป็นผู้เช่ามากกว่า 50% และมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 6,000-9,000 บาท/เดือน โดยที่มีสัดส่วนรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ในช่วง 20,000-40,000 บาท และมีสถานภาพโสดมากกว่า 70% สะท้อนถึงพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ชอบอยู่คนเดียว, ชอบความสะดวกสบาย, ชอบเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่
Hybrid Work หรือการทำงานแบบผสมผสาน วางแผนการเข้างานที่บริษัทและทำงานจากทางไกลได้อย่างสมดุล เป็นสิ่งที่ชาว Gen Z แสวงหามากที่สุด โดยหางานที่ระบุเงื่อนไขบน LinkedIn ว่า "Flexibility" มากที่สุดถึง 77%
จากข้อมูลแนวโน้มดังกล่าว LWS ได้มีการสำรวจพฤติกรรมของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันพบว่า การบริการที่จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตในรูปแบบของ Hybrid Work คือ บริการด้านการขนส่ง หรือ เดินทาง เช่น MuvMi, Grab, Line Man, Bolt, Cabb ฯลฯ ที่ให้บริการ Application เป็นพื้นฐานของความสะดวกของคนรุ่นใหม่ ซึ่งตอบรับไลฟ์สไตล์ได้เป็นอย่างดี และคาดว่า ภายในปี 2571 มูลค่าตลาดการเรียกใช้บริการรถผ่าน Application จะอยู่ที่ 153,800 ล้านบาท โดยเริ่มเห็นการฟื้นตัวของตลาดอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565 มีชาวต่างชาติที่ใช้บริการเรียกรถของแกร็บสูงถึง 45%
ในขณะที่ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มคอนโดและบ้านพักอาศัย การออกแบบที่ตอบโจทย์ผู้คนในยุคนี้ คือการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถรองรับ"การใช้งานคนเดียวท่ามกลางผู้คนในพื้นที่ส่วนรวม" มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย มีการออกแบบที่รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุและคนทุกวัย ในขณะที่พื้นที่พักอาศัยควรคำนึงถึงการอยู่อาศัยของคนโสด ตอบรับตลาดการเช่า และครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
สังคมและวัฒนธรรม (Social & Culture)
Digital Nomad เป็นรูปแบบการทำงานแบบ Flexible ที่เกิดขึ้นจากกระแสการอพยพครั้งใหญ่ในช่วงปี 2563-2568 ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์บทใหม่ การที่เทคโนโลยี่ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันที่สามารถทำงานได้ในทุกที่ทุกเวลา ทำให้มีการคาดการณ์ว่าจะมี Digital Nomad 1,000 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2578 แนวโน้มดังกล่าวจำเป็นที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับแนวคิดในการพัฒนาโครงการที่ต้องตอบโจทย์กับความต้องการของพฤติกรรมของผู้ซื้อในปัจจุบันโดยการออกแบบพื้นที่และบริการเสริมเข้ามาเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้พื้นที่สำหรับทำงานดังนี้
- ด้านการออกแบบ พื้นที่พักอาศัยรองรับการเช่าระยะสั้น-กลาง และพื้นที่ส่วนกลางที่รองรับการทำงานทางไกลได้อย่างสะดวก เช่น มีโต๊ะทำงานที่เหมาะสมพร้อมปลั๊กไฟและสัญญาณอินเตอร์เนตที่ทั่วถึง จัดให้มีพื้นที่ประชุมออนไลน์ได้โดยอาจแบ่งเป็นโซนที่เงียบสงบ หรืออาจจัดพื้นที่บริการเครื่องถ่ายเอกสาร ซุ้มกาแฟและของว่าง ในขณะที่มีพื้นที่พักผ่อนหลังจากการทำงานที่สงบและผ่อนคลาย
- การปรับระยะเวลาในการเข้าใช้บริการในพื้นที่ส่วนกลาง : สืบเนื่องจากการปรับเปลี่ยนช่วงระยะเวลาในการทำงาน ทำให้ระยะเวลากับความต้องการใช้พื้นที่ส่วนกลางไม่สอดคล้องกัน ส่งผลให้เกิดปัญหาความยุ่งยากในเรื่องเวลาการให้บริการพื้นที่ส่วนกลางกว่า 40% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด ทำให้ต้องมีการเปิดขยายเวลาให้บริการมากกว่า 20 ชั่วโมง/วัน หรือ 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกับปัจจุบันที่มีทั้ง Co-Working 24 ชั่วโมงและฟิตเนส 24 ชั่วโมง
- การจองร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวพร้อมไกด์ท้องถิ่นที่มีความรู้พร้อมล่าม : จากการเปลี่ยนสถานที่ในการทำงานไปยังสถานที่พักผ่อนและแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ผู้ใช้บริการต้องการได้ประสบการณ์เพิ่มเติมจากการท่องเที่ยว ดังนั้นการให้บริการค้นหา เลือก จอง ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงกิจกรรมการท่องเที่ยวชื่อดังและสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่น พร้อมกับมีบริการไกด์นำเที่ยวและมีบริการล่ามเพิ่มเติมหากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีการใช้ภาษาท้องถิ่น จะช่วยทำให้ผู้ใช้บริการได้รับประสบการณ์เพิ่มเติมจากการเปลี่ยนสถานที่ทำงาน
- บริการอำนวยความสะดวกการเดินทางตามแหล่งท่องเที่ยว : นอกเหนือจากการใช้บริการท่องเที่ยวจากไกล์ บริการงานเช่ารถเดินทางด้วยตนเองถือเป็นอีกทางเลือกที่นักท่องเที่ยวที่นิยมใช้บริการ เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆที่ต้องการไปพักผ่อน บริการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่มาเติมเต็มการกระแส Digital Nomad
ด้านนิเวศและสิ่งแวดล้อม (Environment)
ปี 2567 นี้ เป็นปีแห่งความรับผิดชอบและเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสิ้นเชิง จากรายงานของ Mastercard พบว่า 58% ของผู้บริโภคตระหนักถึงผลกระทบทางนิเวศที่ตนเองมีส่วนร่วมมากขึ้นนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่ 2019 (COVID-19) และ 85% เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมส่วนตัวเพื่อร่วมรับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศ โดยข้อมูลจาก Edelman Trust Barometer ในปี 2565 รายงานว่า 52% ของผู้บริโภคใน 28 ประเทศ ต้องการเห็นธุรกิจต่างๆรับมือกับวิกฤติทางสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในขณะที่ข้อมูลจาก Uniliver ได้รายงานข้อมูลเชิงลึกว่าผู้บริโภคกำลังเรียกร้องความเปลี่ยนแปลงและเลือกสนับสนุนแบรนด์ที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
Regenerative คือแนวคิดหมุนเวียนเกิดใหม่ นำมาปรับใช้กับแบรนด์ที่สนับสนุนความยั่งยืนโดยเน้นชุดความคิด 4 ด้านคือ ลดความเสี่ยง ทำลายเป็นศูนย์(Zero Harm) สร้างสิ่งดี และคำนึงถึงการหมุนเวียนเกิดใหม่ได้ นำมากำหนดยุทธศาสตร์ กำหนดกรอบการทำงานตั้งแต่การเริ่มต้นธุรกิจ การบริหารต้นทุนและกำไร ก่อนจะเปลี่ยนแปลงให้เติบโตเป็นธุรกิจที่ไม่เพียงแต่ตักตวงแต่รู้จักตอบแทนกลับคืนให้โลก
Politics of Plastic คำว่ายั่งยืน(sustainable) อาจฟังดูไกลตัวมากกว่า จึงมีเทรนด์ที่จะใช้คำว่า Politics of Plastic ที่ฟังดูใกล้ตัวกว่า จับต้องได้ และสื่อชัดเจนถึงปัญหาขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
จากแนวโน้มดังกล่าว การพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในปี 2567 จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการก่อสร้าง จากการสำรวจของ LWS พบว่าการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในปี 2567 และในอนาคตจำเป็นต้องให้ความสำคัญในประเด็นดังต่อไปนี้
                                                                                                                            
- จัดพื้นที่และบริการคัดแยกขยะ : จากผลสำรวจของ LWS พบว่า คนรุ่นใหม่กว่า 77% ให้ความสำคัญกับการคัดแยกขยะ จนนำไปสู่จุดเปลี่ยน ที่หันมาสนใจซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่า 70% ดังนั้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจำเป็นต้องให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ โดยมีทั้งจุดคัดแยกขยะ ไปจนถึงตู้รับขยะรีไซเคิลอัตโนมัติสำหรับโครงการประเภทอาคารชุด เป็นต้น
- ติดตั้ง Solar Roof : ปัจจุบันต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์เฉลี่ย 10 บาทต่อวัตต์ จาก 80 บาทต่อวัตต์เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ในขณะที่การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิลมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยปัจจุบันในกรุงเทพฯ มีครัวเรือนกว่า 3 ล้านหลัง แต่มีการติดตั้งโซลาร์เซลล์อยู่ ไม่ถึง 10% คาดว่า 3 ปีจากนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็น 20% โดยค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอยู่ที่ประมาณ 110,000 บาทต่อ 3 Kwp สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้เฉลี่ย 2,000-3,000 บาทต่อเดือน จากแนวโน้มดังกล่าว การติดตั้ง Solar Roof ในโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยกำลังกลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องนำมาติดตั้งให้กับที่อยู่อาศัยในทุกรูปแบบทั้งโครงการแนวราบและอาคารชุดพักอาศัย เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อ นอกจากการติดตั้งในพื้นที่ที่อยู่อาศัยแล้ว การพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางก็จำเป็นที่จะต้องติดตั้งระบบ Solar Cell เพื่อประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายของโครงการ จากการศึกษาของ LWS พบว่า จากกำลังไฟฟ้าประมาณ 3.2 kWp - 5.4 kWp สามารถลดค่าใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยประมาณ 3,000 - 6,000 บาท ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งโดยประมาณอยู่ที่ 170,000 บาท ใช้ระยะเวลาคืนทุนประมาณ 5 ปี
- เพิ่มการติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า : การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ในปี 2567 จะมีรถไฟฟ้าสะสมสูงถึง 120,000 คัน ซึ่งผู้พัฒนาอสังหาฯปัจจุบัน เห็นถึงความสำคัญของการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยผู้อยู่อาศัยในคอนโดมากกว่า 20% ต้องการเพิ่มช่องจอดรถที่มี EV Charger ส่วนใหญ่โครงการคอนโดปัจจุบันมี EV Charger อยู่แล้วโดยเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 2 ช่องจอด แต่คาดว่าจะไม่เพียงพอ ดังนั้นจำเป็นต้องปรับเพิ่มโดยประมาณให้ได้มากกว่า 4 ช่องจอด เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และเพื่อสนับสนุนการมีสิ่งแวดล้อมที่ดีในอนาคต
- ในส่วนด้านการออกแบบอสังหาฯ มีข้อเสนอแนะการยึดหลัก 3 ประการคือ ออกแบบไร้ขยะ(Zero Waste Design) ลดคาร์บอน (Carbon Footprint) และใช้วัสดุที่ช่วยฟื้นฟูธรรมชาติ โดยอาจอ้างอิงแนวทางการออกแบบอาคารพลังงานศูนย์ (Zero Energy Building, ZEB) ที่มีหลักการออกแบบตั้งแต่เปลือกอาคารลดความร้อน ระบบแสงสว่างที่ใช้แสงธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบปรับอากาศประสิทธิภาพสูง การใช้พลังงานทดแทน และการปรับภูมิทัศน์โครงการเพื่อลดอุณหภูมิโดยรอบ
"กล่าวโดยสรุปในปี 2567 เป็นปีที่ภาคอสังหาฯ ถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยสำคัญคือ การพัฒนาอยู่บนพื้นฐานของความยั่งยืน โดยคำนึงถึงการออกแบบที่อยู่อาศัยและบริการที่คำนึงถึงสภาพของสังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิดที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืนโดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรและเทคโนโลยี่อย่างเหมาะสมท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังมคม สภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อม " นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว
 
                             แอล ดับเบิลยู เอสฯ แนะ ใช้เทคโนโลยี IoT พลิกโฉม การก่อสร้างไทย เพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการ และความปลอดภัยในการก่อสร้าง
                            แอล ดับเบิลยู เอสฯ แนะ ใช้เทคโนโลยี IoT พลิกโฉม การก่อสร้างไทย เพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการ และความปลอดภัยในการก่อสร้าง
                         "แอล ดับเบิลยู เอสฯ" ชี้ กำลังซื้อที่อยู่อาศัยทำเล EEC มาแรง
                            "แอล ดับเบิลยู เอสฯ" ชี้ กำลังซื้อที่อยู่อาศัยทำเล EEC มาแรง
                         "แอล ดับเบิลยู เอสฯ" ระบุ 3 เมกะเทรนด์ในการพัฒนาอสังหาฯ ปี 2568
                            "แอล ดับเบิลยู เอสฯ" ระบุ 3 เมกะเทรนด์ในการพัฒนาอสังหาฯ ปี 2568
                         คาด ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ-ปริมณฑล ปี 67 ลบ 10%-40%(YoY)
                            คาด ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ-ปริมณฑล ปี 67 ลบ 10%-40%(YoY)
                         "แอล ดับเบิลยู เอสฯ" ระบุ 3 ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคอนโดฯ เพื่อผู้หญิงยุคใหม่
                            "แอล ดับเบิลยู เอสฯ" ระบุ 3 ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคอนโดฯ เพื่อผู้หญิงยุคใหม่
                         แอล ดับเบิลยู เอสฯ คาดตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง 2568 ยังชะลอตัว
                            แอล ดับเบิลยู เอสฯ คาดตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง 2568 ยังชะลอตัว
                         LPN ตอกย้ำผู้นำองค์กรแห่งความยั่งยืน เดินหน้าสร้าง Carbon Neutrality รับรองโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6
                            LPN ตอกย้ำผู้นำองค์กรแห่งความยั่งยืน เดินหน้าสร้าง Carbon Neutrality รับรองโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6
                         แอล ดับเบิลยู เอส ระบุ 5 ประเด็นหลักที่ต้องรู้ ในการขายห้องชุดให้ต่างชาติ
                            แอล ดับเบิลยู เอส ระบุ 5 ประเด็นหลักที่ต้องรู้ ในการขายห้องชุดให้ต่างชาติ