สกสว. ร่วมมือ รัฐสภา สอวช. PMU โชว์ผลงาน 4 ปีแห่งการลงทุนด้านวิจัยและนวัตกรรม มุ่งพัฒนาและต่อยอดตอบโจทย์ภาคนโยบาย สู่การขับเคลื่อนประเทศด้วย ววน.

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

สกสว. ร่วมกับ รัฐสภา สอวช. และ 9 PMU จัดการแสดงผลงานวิจัยตลอด 4 ปี แห่งการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) พร้อมเสวนา Policy Forum ภายใต้ 6 ธีมสำคัญ เพื่อสนับสนุนการทำงานในกระบวนการนิติบัญญัติ สู่เป้าหมายการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศได้ด้วย ววน.

สกสว. ร่วมมือ รัฐสภา สอวช. PMU โชว์ผลงาน 4 ปีแห่งการลงทุนด้านวิจัยและนวัตกรรม มุ่งพัฒนาและต่อยอดตอบโจทย์ภาคนโยบาย สู่การขับเคลื่อนประเทศด้วย ววน.

เนื่องด้วย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ว่าด้วยการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ต่อสถาบันนิติบัญญัติ โดยความร่วมมือนี้ถือเป็นกลไกสำคัญในการส่งผ่านข้อมูล ข้อค้นพบ และองค์ความรู้จากงานวิจัยเข้าไปในกระบวนการนิติบัญญัติ ทาง สกสว. พร้อมด้วย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และ 9 หน่วยบริหารและจัดการทุน (Program Management Unit : PMU) จึงได้จัดงานนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยของหน่วยงานในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และเสวนา Policy Forum เพื่อสนับสนุนการทำงานในกระบวนการนิติบัญญัติ ให้สามารถนำองค์ความรู้ด้าน ววน. ไปใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนและขยายผลการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ พร้อมหารือถึงแนวทางในการกำหนดทิศทางก้าวต่อไปของประเทศสู่การขับเคลื่อนไทยด้วย ววน. ได้อย่างมั่งคงและยั่งยืน ระหว่างวันที่ 3 - 4 ตุลาคม 2566 ณ อาคารรัฐสภา เกียกกาย สกสว. ร่วมมือ รัฐสภา สอวช. PMU โชว์ผลงาน 4 ปีแห่งการลงทุนด้านวิจัยและนวัตกรรม มุ่งพัฒนาและต่อยอดตอบโจทย์ภาคนโยบาย สู่การขับเคลื่อนประเทศด้วย ววน.

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวว่า การวิจัยถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาในทุกภาคส่วนของประเทศ ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่และบทบาทสำคัญในการตรากฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ และเกิดความสอดคล้องและเหมาะสมกับบริบททางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองที่แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ดังนั้น การวิจัยซึ่งถือเป็นองค์ความรู้ที่ผ่านกระบวนการศึกษา กลั่นกรองแล้ว ด้วยระเบียบวิธีที่น่าเชื่อถือ ผ่านการวิเคราะห์และสังเคราะห์จากคณาจารย์ นักวิชาการ ผู้มีความรู้และประสบการณ์ตรง จนได้ข้อมูลที่มีความถูกต้อง ชัดเจน ซึ่งผลการวิจัยสามารถนำมาปรับใช้ประโยชน์ในการสนับสนุนการปฏิบัติงานในกระบวนการนิติบัญญัติได้เป็นอย่างดี

รศ. ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า จากการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ว่าด้วยการนำผลงานทางวิชาการและผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ในกระบวนการนิติบัญญัติ แล้วนั้น ทาง สกสว. มีบทบาทหน้าที่เป็นหน่วยงานบริหารจัดการกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) มีหน้าที่ในการ 1) จัดทำแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) 2) จัดสรรงบประมาณจากกองทุน ววน. ให้แก่หน่วยบริหารและจัดการทุน 9 แห่ง และหน่วยงานในระบบ ววน. ทั้งในและนอกกระทรวง อว. รวมถึงสถาบันอุดมศึกษากว่า 180 แห่ง 3) เสริมพลังและขับเคลื่อนระบบ ววน. 4) สร้างระบบการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ และ 5) ติดตามประเมินผลด้าน ววน. ของประเทศ

โดยมีการจัดสรรงบประมาณตามทิศทางและจุดมุ่งเน้นในแผนด้าน ววน. ของประเทศ พ.ศ. 2566-2570 ใช้ ววน. ในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน และมีศักยภาพเพียงพอในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง พร้อมรองรับความท้าทายใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศ ภายใต้การดำเนินงาน 4 ยุทธศาสตร์หลัก คือ "ยุทธศาสตร์ที่ 1" การพัฒนาเศรษฐกิจไทยด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ "ยุทธศาสตร์ที่ 2" การยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อม "ยุทธศาสตร์ที่ 3" การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรมระดับขั้นแนวหน้า และ "ยุทธศาสตร์ที่ 4" การพัฒนากำลังคนและสถาบันด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผ่านกลไกการทำงานร่วมกับ PMU 9 แห่ง ได้แก่ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) หน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สถาบันวัคซีนแห่งชาติ (สวช.) และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (ศสช.)

อย่างไรก็ตาม 4 ปีที่ผ่านมานี้ กำลังเป็นช่วงเก็บดอกออกผลจากการลงทุนที่ผ่านมา มีพระราชบัญญัติที่สนับสนุนการนำงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ มีการปลดล็อคข้อจำกัด และเพิ่มมาตรการ กลไกต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการนำผลงานใช้ประโยชน์ในวงกว้างและสร้างผลกระทบต่อประเทศ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการสร้างองคาพยพและองค์ความรู้ด้าน ววน. เพื่อตอบโจทย์การทำงานร่วมกับภาคนโยบาย เอกชน ประชาสังคม ชุมชน/พื้นที่ และสาธารณชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ มุ่งเป้าหมายให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากรายได้ปานกลาง และเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ภายในปี พ.ศ.2580

"ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นกลไกสำคัญในการส่งผ่านข้อมูลและองค์ความรู้จากงานวิจัยเข้าไปสนับสนุนในกระบวนการนิติบัญญัติ เพื่อให้เกิดการพัฒนางานและตอบโจทย์การทำงานร่วมกับภาคนโยบาย ตั้งแต่การเข้าถึงความต้องการในระดับพื้นที่ สู่การสะท้อนถึงมิติของผลลัพธ์และผลกระทบในระดับประเทศ ผลงานวิจัยและนวัตกรรมได้ถูกนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจและช่วยให้ทุกฝ่ายสามารถขับเคลื่อนประเทศนี้ได้ด้วยนวัตกรรมอันจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศได้อย่างแท้จริง" ผอ.สกสว. กล่าวสรุป

ทั้งนี้ ภายในงานมีการจัดโซนนิทรรศการแสดงผลงานภายใต้กองทุน ววน. การเสวนาห้องย่อยภายใต้ 6 ธีมหลัก คือ ธีม 1: "ปาก ท้อง ดี" ขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างเศรษฐกิจฐานราก ธีม 2: เกษตรและอาหาร พลังเพื่ออนาคตไทย ธีม 3: สิ่งแวดล้อมดี "ดังและร้อน: ลด และ รับ กับภาวะโลกรวน" ธีม 4: สุขภาพดี "ก้าวที่มั่นคงของสุขภาพคนไทยด้วย ววน." ธีม 5: สูงวัยมีดี มีพฤฒิพลัง และ ธีม 6: สร้างกำลังคนดี ประเทศมีอนาคต "การพัฒนากำลังคนด้าน ววน. และการสร้างกำลังคนทักษะสูง" เพื่อให้เห็นถึงการตอบโจทย์ประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศกำลังพัฒนาหรือขับเคลื่อน โดยในส่วนของการจัดนิทรรศการผลงานวิจัยและนวัตกรรมของกองทุน ววน. จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 2566 บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา เกียกกาย

"สกสว. เป็นหน่วยงานกลางในการบริหารจัดการกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) มีหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน และขับเคลื่อนระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศในทุกด้าน เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน"


ข่าวสำนักงานเลขาธิการ+วิจัยและนวัตกรรมวันนี้

วว. /สทนช. /MRCS ร่วมสานสัมพันธ์ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทย กับ สปป.ลาว ผ่านผลงานนวัตกรรมสู่ชุมชนลุ่มน้ำโขง ส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และคณะผู้บริหาร บุคลากร วว. ร่วมให้การต้อนรับ H.E. Assoc. Prof. Dr. Linkham Douangsavanh รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกสิกรรมและสิ่งแวดล้อม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พร้อมด้วย H.E. Ms. Busadee Santipitaks, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission Secretariat : MRCS) และ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล

ไทยพีบีเอสผนึกกำลังภาครัฐ ภาคเอกชน และภาค... ไทยพีบีเอส - ภาคีฯ จัด "FutureED Fest 2025" ขับเคลื่อนการศึกษาไทยสู่อนาคตด้วย AI — ไทยพีบีเอสผนึกกำลังภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายด้านการศึกษา จัด "Fu...

ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา... "บอร์ดคุรุสภา"เห็นชอบร่างข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย — ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า จากนโยบาย "เรียนดี มีความสุข"...

ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา... "คุรุสภา"ขับเคลื่อน Thailand Teacher Academy พัฒนาครูด้วยองค์ความรู้เฉพาะด้านอย่างมืออาชีพ — ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า จากนโยบาย ...