ยูแอล โซลูชันส์ (UL Solutions) ผู้นำด้านวิทยาศาสตร์ความปลอดภัยระดับโลก เผยแพร่รายงานการศึกษาความคุ้มค่าด้านการลงทุนสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์โมดูลรุ่นเวอร์เท็กซ์ เอ็น (Vertex n-type) ของทรินา โซลาร์ (Trina Solar) โดยระบุว่า โมดูลในซีรีส์ดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือด้านผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น และมีต้นทุนเฉลี่ยตลอดอายุการใช้งานที่ต่ำกว่า มอบความคุ้มค่าด้านการลงทุนที่เหนือกว่า
คุณเซิง หงเล่ย (Sheng Honglei) ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของยูแอล โซลูชันส์ กล่าวเกี่ยวกับรายละเอียดของเทคโนโลยีประเภท n-type การเงินที่แข็งแกร่ง และมาตรฐานการจัดการระดับสูงของทรินา โซลาร์ว่า "อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์มอบความไว้วางใจอย่างมากแก่ทรินา โซลาร์ เมื่อพิจารณาจากสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง"
โมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็น ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ด้วยต้นทุนเฉลี่ยตลอดอายุการใช้งานที่ต่ำกว่า
การศึกษาความคุ้มค่าด้านการลงทุนนี้ตรวจสอบโมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็น ทั้งหมด ครอบคลุมรุ่นขนาด 700 วัตต์, 610 วัตต์, 450 วัตต์, 440 วัตต์ และ 430 วัตต์ ทั้งโมดูลขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กในสถานการณ์การใช้งานด้านสาธารณูปโภค ที่พักอาศัย การพาณิชย์และอุตสาหกรรม ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า โมดูลเหล่านี้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและมอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่า นอกจากนี้ยังพบว่ามีต้นทุนเฉลี่ยตลอดอายุการใช้งานที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับโมดูลประเภททั่วไปภายใต้การกำหนดค่าโรงงานเดียวกัน ตัววอย่างเช่น การเปรียบเทียบกับโมดูล n-type ของบริษัทอื่น ๆ และ โมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็นขนาด 700 วัตต์ของทรินา โซลาร์ พบว่าสามารถลดต้นทุนเฉลี่ยตลอดอายุการใช้งานลงถึง 5.8%
การจัดส่งชั้นนำตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ยูแอล โซลูชันส์ ระบุว่า ทรินา โซลาร์ เป็นผู้ผลิตแบบครบวงจรในแนวตั้ง ทรินา โซลาร์ สามารถรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมตลอดห่วงโซ่การผลิตทั้งหมด เนื่องจากกระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพทั้งหมดได้รับการจัดการภายในองค์กร
ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ทรินา โซลาร์ ได้จัดส่งโมดูลขนาด 210 มม. รวมแล้วกว่า 90 กิกะวัตต์ ครองอันดับหนึ่งทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดส่งโมดูล 210R รวมแล้วมากกว่า 15 กิกะวัตต์ ณ ปลายเดือนตุลาคมปีนี้
ทรินา โซลาร์ กำลังเร่งสร้างโรงงาน n-type แบบครบวงจรในแนวดิ่ง มอบการจัดส่งเซลล์ i-TOPCon ชนิด n สำหรับโมดูลที่มั่นคง ภายในสิ้นปีนี้ บริษัทคาดการณ์กำลังการผลิตโมดูลไว้ที่ 95 กิกะวัตต์ กำลังการผลิตเวเฟอร์ n-type ที่ 50 กิกะวัตต์ และกำลังการผลิตเซลล์ที่ 75 กิกะวัตต์ ซึ่ง 40 กิกะวัตต์เป็นเซลล์ประเภท n-type ทั้งหมดมาพร้อมเทคโนโลยี n-type i-TOPCon Advanced
ระบบอัตโนมัติขั้นสูงและสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อการทำงาน
ยูแอล โซลูชันส์ ยังระบุถึงการเยี่ยมชมโรงงานของทรินา โซลาร์ โดยแสดงมุมมองเชิงบวกต่อระบบการผลิตอัตโนมัติที่สมบูรณ์แบบซึ่งมีการรบกวนจากมนุษย์น้อยที่สุด ยูแอล โซลูชันส์ ได้ตรวจสอบสายการผลิตสำหรับเซลล์แสงอาทิตย์ซีรีส์ 210R และโมดูลซีรีส์เวอร์เท็กซ์ เอสพลัส รวมถึงตัวโรงงานเอง โดยพบว่ามีสภาพแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัย และเป็นมิตรสำหรับคนงาน
ทรินา โซลาร์ เป็นที่ยอมรับอย่างรอบด้าน
ด้วยประสิทธิภาพทางการเงินที่ยอดเยี่ยม นวัตกรรมระดับแนวหน้าแห่งอุตสาหกรรม ระบบอัตโนมัติที่สร้างเกณฑ์มาตรฐาน ระบบการจัดการคุณภาพขั้นสูง และปิดท้ายด้วยผลการศึกษาความคุ้มค่าด้านการลงทุนที่เหนือกว่าในครั้งนี้ ทั้งหมดนี้ทำให้ทรินา โซลาร์ ได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากสถาบันระหว่างประเทศ
ยูแอล โซลูชันส์ ยังยกย่องทรินา โซลาร์ สำหรับโมดูลรุ่นเวอร์เท็กซ์ เอ็น ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมในด้านการผลิตเซลล์ การผลิตโมดูล การรับประกัน และบริการหลังการขาย ทั้งหมดนำไปสู่ต้นทุนตลอดอายุการใช้งานที่ต่ำกว่า นำคุณค่ามาสู่ลูกค้ามากขึ้น และได้รับความไว้วางใจจากทั่วโลก
ในฐานะผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ ทรินา โซลาร์ จะยึดมั่นในพันธกิจ "พลังงานแสงอาทิตย์สำหรับทุกคน" และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงพลังงานทั่วโลกไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
ยูโอบี และ กสิกรไทย สนับสนุนสินเชื่อสีเขียวแก่ Levanta Renewables เข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 34 โครงการ ในประเทศไทย
TSE โชว์กำไร 100 ล้านบาท! ลุยขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าขยะ-โซลาร์ชุมชน
เปิดงาน IEEE PES GTD Asia 2025
SUPER สตรอง! ทริสฯ คงเครดิตองค์กรระดับ "BBB" ตอกย้ำคุณภาพพอร์ตโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ 1.4 GW หนุนกระแสเงินสดมั่นคง เดินหน้าขยายการลงทุน ดันอนาคตเติบโตยั่งยืน
NPS เปิดบ้านต้อนรับ กลุ่มผู้นำชุมชน เยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ
ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย สู่ Net Zero
สมดุลพลังงานยุคเปลี่ยนผ่าน มองบทบาทโรงไฟฟ้าฐาน ด้านเสถียรภาพและความมั่นคงทางพลังงานไทย ก่อนเดินหน้าสู่พลังงานหมุนเวียนเต็มตัว
Carbon Markets Club ลงนามข้อตกลงกับตลาดคาร์บอนนานาชาติมาเก๊า (MEX) ร่วมเชื่อมโยงและเสริมสร้างศักยภาพตลาดคาร์บอนในเอเชีย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในภูมิภาค