กลุ่ม KTIS โชว์กำไรสุทธิปี 2566 โตลิ่ว 325% อยู่ที่ 1,939.4 ล้านบาท เปิดรายได้รวมเกือบ 2 หมื่นล้านบาท สายธุรกิจน้ำตาล และไฟฟ้า โตเด่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กลุ่ม KTIS เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2566 สิ้นสุด 30 กันยายน 2566 เติบโตกว่าปี 2565 ถึง 325.0% โดยมีกำไรสุทธิ 1,939.4 ล้านบาท และมีรายได้รวม 19,878.8 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 43.2% เผยปัจจัยหลักมาจากปริมาณและคุณภาพอ้อยที่ดีขึ้น โดยรายได้สายธุรกิจน้ำตาลเติบโต 45.0% สายธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลเติบโต 69.1% และสายธุรกิจเอทานอลเติบโต 10.5%

กลุ่ม KTIS โชว์กำไรสุทธิปี 2566 โตลิ่ว 325% อยู่ที่ 1,939.4 ล้านบาท เปิดรายได้รวมเกือบ 2 หมื่นล้านบาท สายธุรกิจน้ำตาล และไฟฟ้า โตเด่น

นายสมชาย สุวจิตตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจอ้อยและน้ำตาล กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่ม KTIS ในรอบบัญชีปี 2566 (ตุลาคม 2565 - กันยายน 2566) มีรายได้รวม 19,878.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.2% จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 13,886.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,939.4 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 325.0%

"ปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้มีรายได้และกำไรสุทธิที่สูงขึ้นมาจากปริมาณและคุณภาพอ้อยในปีการผลิต 2565/2566 ที่ดีขึ้นมาก ทำให้ได้ผลผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อยสูงขึ้น และมีวัตถุดิบที่ส่งต่อไปยังสายธุรกิจต่างๆ มากขึ้น" นายสมชายกล่าว

ทั้งนี้ จากปริมาณอ้อยปี 2565/2566 ของกลุ่ม KTIS ที่มีจำนวน 6.9 ล้านตัน สามารถผลิตน้ำตาลทรายได้มากถึง 8.0 ล้านกระสอบ เทียบกับฤดูการผลิตปีก่อนหน้านั้น ซึ่งอ้อย 6.2 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลทรายได้เพียง 6.4 ล้านกระสอบ ทำให้รายได้ในสายธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายปี 2566 เติบโตถึง 45.0% มาอยู่ที่ 15,033.0 ล้านบาท

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า นอกเหนือจากสายธุรกิจน้ำตาลทรายแล้ว ในสายธุรกิจชีวภาพก็มีการเติบโตที่ดีเช่นกัน โดยเฉพาะธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล ซึ่งมีรายได้ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 69.1% จาก 847.3 ล้านบาท เป็น 1,432.8 ล้านบาท เนื่องจากทั้งราคาและปริมาณการขายไฟฟ้าที่สูงขึ้น

สำหรับสายธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลมีรายได้ปี 2566 จำนวน 1,131.7 ล้านบาท สูงกว่าปี 2565 ซึ่งมีรายได้ 1,024.0 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 10.5% เนื่องจากราคาขายที่สูงขึ้น ส่วนรายได้ของสายธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษชานอ้อย ปี 2566 ทำได้ 414.4 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2565

"หากดูสัดส่วนรายได้ของสายธุรกิจต่างๆ เทียบกับรายได้รวมของกลุ่ม KTIS สำหรับงวดปี 2566 พบว่า สายธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายมีสัดส่วนรายได้ 79.4% สายธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล มีสัดส่วน 7.6% สายธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล มีสัดส่วน 6.0% สายธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษชานอ้อย มีสัดส่วน 2.2% และอื่นๆ อีก 4.9%" นายสมชายกล่าว


ข่าวสมชาย สุวจิตตานนท์+อินเตอร์เนชั่นแนลวันนี้

กลุ่ม KTIS สุดปัง ผลิตน้ำตาลทรายได้มากกว่าปีก่อน 31.4% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งระบบ รณรงค์ส่งอ้อยสดเข้าหีบได้ผล คุณภาพอ้อยสูง-ยิลด์พุ่ง หนุนผลการดำเนินงานปี 68 โตเด่น

กลุ่ม KTIS เปิดข้อมูลหลังปิดรับอ้อยเข้าหีบของฤดูการผลิตปี 2567/68 พบว่า ได้ผลผลิตอ้อยเข้าหีบรวมทั้ง 3 โรงงาน จำนวน 6.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 28.0% ผลิตน้ำตาลได้ 6.7 ล้านกระสอบ มากกว่าปีก่อนถึง 31.4% เนื่องจากคุณภาพอ้อยดีขึ้นมาก จากการรณรงค์ให้ชาวไร่ตัดอ้อยสด ลดอ้อยไฟไหม้อย่างได้ผล โดยโรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ มีสัดส่วนอ้อยไฟไหม้เพียง 2% เป็นอ้อยสดถึง 98% ชี้จากปริมาณอ้อยและน้ำตาลที่สูงขึ้น จะส่งผลให้ผลการดำเนินงานของกลุ่ม KTIS ปี 2568 ดีกว่าปี 2567 อย่างมีนัยสำคัญ นายสมชาย สุวจิตตานนท์

นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าท... ผู้บริหารกลุ่ม KTIS มั่นใจปี 2568 ผลการดำเนินงานจะดีกว่าปี 2567 — นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายสมชาย สุวจิตตานนท์ ประธานเจ้าหน้...

นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าท... กลุ่ม KTIS โชว์รายได้ปี 2566 เกือบ 2 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิโต 325% จ่ายปันผลหุ้นละ 0.10 บาท — นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายสมชา...

นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าท... กลุ่ม KTIS โชว์กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 66 โต 379% — นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายสมชาย สุวจิตตานนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร...