จีเอเบิล ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน รายได้ Software Platform ที่เป็น Growth Engine เติบโตสูง 55% จากปีก่อน พร้อมรุกธุรกิจมีศักยภาพต่อเนื่อง

15 Nov 2023

จีเอเบิล (GABLE) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 ยังคงความแข็งแกร่งและเติบโต โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 1,342 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากไตรมาสก่อน อีกทั้งมีกำไรสุทธิเป็น 67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาสก่อน

จีเอเบิล ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน รายได้ Software Platform ที่เป็น Growth Engine เติบโตสูง 55% จากปีก่อน พร้อมรุกธุรกิจมีศักยภาพต่อเนื่อง

ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนและความผันผวนของตลาดในช่วงที่ผ่านมานั้น ในไตรมาส 3 ปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ มีผลประกอบการเป็นที่น่าพึงพอใจเติบโตจากไตรมาสก่อน และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และส่วนที่เป็น Growth Engine มีรายได้จากซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 55 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากไตรมาสก่อน โดยมีทิศทางที่สอดคล้องกับ 9 เดือนแรก ปี 2566 มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าว เพิ่มขึ้นร้อยละ 77 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นางสาวรวีรัตน์ สัจจวโรดม ประธานบริหารสายงานการเงินและกลยุทธ์ บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ไตรมาส 3/2566 มีรายได้จากการขายและบริการ 1,342 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีกำไรขั้นต้น 275 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับร้อยละ 20.5 ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเติบโตร้อยละ 11 จากไตรมาสก่อน โดยไตรมาส 3/2566 มีอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 5.0 เพิ่มขึ้นจากอัตรากำไรสุทธิในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ระดับร้อยละ 4.9

สำหรับช่วง 9 เดือนแรก ปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ มีอัตราส่วนรายได้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง (Recurring Income) อยู่ในระดับร้อยละ 51.5 ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) แข็งแกร่งในระดับ 3,933 ล้านบาท รองรับการรับรู้รายได้ในอนาคต

จากความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง และการมีวินัยทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตราส่วนที่มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน ในระดับ 0.01 เท่า ลดลงจากสิ้นไตรมาสสอง ปี 2566 ที่ระดับ 0.14 เท่า และสิ้นปี 2565 ที่ระดับ 0.59 เท่า ซึ่งการมีหนี้สินอยู่ในระดับต่ำ รองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ ในการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพในการเติบโตที่สูงเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ

ทั้งนี้ จีเอเบิลเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล มุ่งเน้นกลุ่มโซลูชั่นระดับองค์กร (Enterprise Solution and Services) ที่ครอบคลุมเทคโนโลยีที่สำคัญในโลกยุคดิจิทัล ด้วยจุดเด่น การนำเสนอโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลที่ครบวงจรในหลากหลายอุตสาหกรรม ตลอดจน ความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและเจ้าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลก นอกจากนี้ การมีรายได้จากการให้บริการที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในสัดส่วน ที่สูง (Recurring Income) และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการให้บริการโซลูชั่นที่ติดตั้งใหม่ในแต่ละปี

"จีเอเบิล เป็นเจ้าของเทคโนโลยี พัฒนาซอฟต์แวร์เป็นของตนเอง (Software Platform) ซึ่งมีการเติบโตในระดับสูง โดยในช่วง 9 เดือนแรกปี 2566 รายได้จากกลุ่มธุรกิจบริการซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม เพิ่มขึ้นร้อยละ 77 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงเกิน 50% และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการสร้างความแตกต่างทางการแข่งขันของกลุ่มบริษัทฯ ที่เหนือกว่าคู่แข่ง โดยกลุ่มซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม ถือเป็น Growth Engine ที่พร้อมสำหรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มด้านการบริหารจัดการข้อมูล Big Data ของ Blendata แพลตฟอร์มด้านการตลาดดิจิทัลของ InsightEra หรือว่าจะเป็น แพลตฟอร์มด้านการบริหารพื้นที่เช่าของ Mverge ที่อยู่ในทิศทางที่มีความต้องการของตลาดและมีการเติบโตสูง มาจากประสบการณ์ตรงที่ได้จากการทำโครงการให้กับลูกค้า นอกจากนี้ จีเอเบิลยังมีซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มเป็นของตนเองเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการพัฒนาและพร้อมนำเสนอแก่ลูกค้าเพื่อสร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทฯ ในอนาคต รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ และพร้อมต่อยอดไปยังซอฟต์แวร์ด้านอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้าง Ecosystem ของกลุ่มบริษัทฯ ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น" ดร.ชัยยุทธ กล่าวทิ้งท้าย