เสนา ประกาศเดินหน้าสู่องค์กร Net Zero ตั้งเป้าเป็นเจ้าแรกในกลุ่มอสังหาฯ ล่าสุดจับมือ Zeroboard แพลตฟอร์มคำนวณและแสดงผลคาร์บอนจากญี่ปุ่น

14 Nov 2023

เสนา ประกาศเดินหน้าสู่องค์กร Net Zero ตั้งเป้าเป็นเจ้าแรกในกลุ่มอสังหาฯ ล่าสุดจับมือ Zeroboard แพลตฟอร์มคำนวณและแสดงผลคาร์บอนจากญี่ปุ่น พร้อมมุ่งมั่นสร้างสนับสนุนการใช้ชีวิตแบบ Low Carbon

เสนา ประกาศเดินหน้าสู่องค์กร Net Zero ตั้งเป้าเป็นเจ้าแรกในกลุ่มอสังหาฯ ล่าสุดจับมือ Zeroboard แพลตฟอร์มคำนวณและแสดงผลคาร์บอนจากญี่ปุ่น

เสนาดีเวลลอปเม้นท์ สะท้อนข้อมูลโลกเดือด TDRI ย้ำปัจจุบันคนเราอยู่ในยุคที่ต้องปรับตัวใน 2 แนวทาง คือ ปรับลดคาร์บอนลดโลกร้อน และปรับตัวอยู่กับโลกที่ร้อนขึ้น ซึ่งดีเวลลอปเปอร์ทุกที่ก็ต้องปรับตัวตาม แต่สำหรับเสนาฯ ถือว่าสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ "The Essential Lifelong Trusted Partner" ที่ทำมาโดยตลอด คือ เคียงข้างและพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกช่วงอายุ และยังพัฒนาที่พักอาศัยที่ช่วยให้ทุกคนสามารถปรับตัวกับการลดคาร์บอนได้ง่ายขึ้น อาทิ แนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์, คอนโด Low-Carbon โดยให้ความสำคัญกับการคิด พัฒนา และสนับสนุนนวัตกรรมด้านความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดแสดงความมุ่งมั่นในการร่วมลดโลกร้อนอย่างจริงจัง จับมือกับ Zeroboard บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติญี่ปุ่น ที่ใช้คลาวด์เทคโนโลยีในการคำนวณและแสดงผลลัพธ์ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของธุรกิจต่างๆ และเตรียมเดินหน้าสู่แผนการจัดการคาร์บอนองค์กร และการชดเชยคาร์บอนอย่างเต็มระบบ เพื่อก้าวไปสู่องค์กร Net Zero ในเร็วๆ นี้ โดยตั้งเป้าเป็นบริษัทแรกในกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ

ดร.ยุ้ย-ผศ ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บ.เสนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปัจจุบันภาวะโลกร้อน มีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทางยูเอ็น ได้ออกมาบอกว่า โลกเราได้สิ้นสุดภาวะโลกร้อนแล้วและกำลังเข้าสู่ภาวะโลกเดือดจะเห็นได้จากข่าวผลกระทบจากภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง และมีความถี่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดข้อมูลโดย TDRI ซึ่งช่วยย้ำถึงสถานการณ์ดังกล่าวไว้ว่า เราจะต้องอยู่กับ 4 ยมทูตแห่งยุคโลกร้อน ประกอบด้วย น้ำท่วมใหญ่ ไฟป่าแรง แห้งแล้งจัด วิบัติคลื่นร้อน และมนุษย์จะตั้งปรับตัวใหญ่ใน 2 แนวทางควบคู่กันไป คือ การปรับลดคาร์บอนเพื่อลดโลกร้อน (Mitigation) และปรับตัวอยู่กับโลกที่ร้อนขึ้น (Adaptation)

"จะเห็นได้ว่าปัญหาโลกร้อนทำให้คนเราต้องปรับตัวเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องให้ความสำคัญ เมื่อผู้คนต้องปรับตัว ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การสร้างบ้าน ที่พักอาศัยต่างๆ ก็ต้องปรับตัวตามไปด้วยเช่นกัน โดยที่เสนา เรามองว่าเป็นความท้าทาย ที่ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง จาก DNA แนวคิดละเอียดแบบ MADE FROM HER ที่ได้สะท้อนออกมาเป็นวิสัยทัศน์ของเรา คือ The Essential Lifelong Trusted Partner คือมุ่งมั่นในการพัฒนาที่พักอาศัยและธุรกิจที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ดีในทุกช่วงอายุ ซึ่งการพัฒนาฟังก์ชันของบ้านนั้น จะคำนึงถึงการช่วยให้คนปรับตัวกับการใช้ชีวิตในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมสนับสนุน Decarbonized Lifestyle หรือการใช้ชีวิตแบบ Low Carbon ไปพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะเรื่องประหยัดพลังงาน ที่ปัจจุบันเป็นสาเหตุของการสร้างคาร์บอนเกือบ 50% พิสูจน์ได้จากการที่เราเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ เจ้าแรกที่ติดโซล่าเซลล์ให้บ้านทุกหลังตั้งแต่เริ่ม รวมถึงต่อยอดการพัฒนาแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ และ คอนโด Low-Carbon"

ดร.ยุ้ย กล่าวต่อว่า โครงการแนวราบของ เสนา มี แนวคิดบ้านพลังงานเป็น 0 หรือ ZEH คอนเซ็ปต์หลัก คือ การออกแบบ Passive และ Active Design ที่ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน ใช้วัสดุประหยัดพลังงาน และการใช้วัสดุก่อสร้างที่ช่วยกันความร้อนรวมถึงการใช้พลังงานสะอาดจากโซล่าเซลล์ ช่วยให้เราซื้อไฟฟ้ามาใช้น้อยที่สุด ประหยัดไฟได้สูงสุดถึง 38% ขณะที่ คอนโด Low-Carbon ได้ประยุกต์แนวคิด Smart City เข้ามาใช้ โดย ใช้วัสดุกันความร้อนและประหยัดไฟ รวมถึงมีการติดตั้วโซลาเซลล์แล้ว ยังมี EV Station และ Smart Mobility แอปข้อมูลการเดินทางแบบไร้รอยต่อที่มีบริการ V MOVE หรือรถรับส่งพลังงานสะอาด ที่จะรับลูกบ้านจากโครงการไปส่งยังสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดเข้ามาบริการด้วยซึ่งบริการเหล่านี้เราสามารถวัดค่าการสร้างคาร์บอนได้ เพราะสิ่งใดที่เราวัดค่าได้ สิ่งนั้นก็สามารถบริหารจัดการได้ "What can be measured, can be managed" ทั้งนี้นอกจาก คอนโด Low-Carbon จะเป็นคอนโดที่ประหยัดพลังงานแล้ว การส่งเสริม Decarbonize Lifestyle ให้ลูกบ้านลดใช้รถส่วนตัว และมาใช้บริการ V MOVE เพื่อต่อรถสาธารณะกันมากขึ้น ก็ยังถือว่าเป็นการช่วยลดการสร้างคาร์บอนได้อีกทางแต่การวัดค่าการสร้างหรือการลดคาร์บอน ก็จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับจึงเป็นที่มาของความร่วมมือครั้งสำคัญในวันนี้ กับ Zeroboard

"Zeroboard" เป็น บริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศญี่ปุ่นที่ใช้คลาวด์เทคโนโลยีในการคำนวณและการแสดงผลลัพธ์ของการสร้างคาร์บอนสามารถใช้ได้กับทั้งองค์กร หรือผลิตภัณฑ์ ผ่านการทดลองใช้ในระดับเมืองใหญ่ๆ ในประเทศญี่ปุ่น โดยภาครัฐของญี่ปุ่น มีความน่าเชื่อถือและยังง่ายต่อการใช้งาน โดยเสนาฯ จะนำระบบนี้เข้ามาใช้กับตัวองค์กร และในโครงการเพื่อเก็บข้อมูลคาร์บอนที่เกิดขึ้น หรือการลดลงของคาร์บอนจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของลูกบ้าน เสนา ให้ความสำคัญ และมุ่งมั่นในการจัดการคาร์บอนอย่างจริงจัง เราลงมือทำจริง วัดจริง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกของเรา และยังช่วยส่งเสริมการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันที่ต้องปรับตัวอย่างมาก และจากความร่วมมือครั้งนี้กับ Zeroboard เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของเป้าหมายต่อไปด้านความยั่งยืนของเรา คือ The road to NET ZERO และเราตั้งเป้าเป็นบริษัทอสังหาฯ เจ้าแรก ที่ประกาศเป็น Net Zero" ดร. ยุ้ย กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน Mr.Shintaro Suzuki, Director & Head of APAC Regional Business, Zeroboard (Thailand) Co., Ltd. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ"Zeroboard"เพิ่มว่าZeroboardเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการคำนวณและแสดงผลลัพธ์ การ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศได้ตลอดจนวัดผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ต่อ ผลิตภัณฑ์หรือบริการ (Product Carbon Footprint: PCF) ผ่านระบบคลาวด์ พร้อมทั้งมีทีมผู้เชี่ยวชาญในการนำเสนอวิธีการในการลดก๊าซเรือนกระจกที่คำนึงถึงความเหมาะสมกับลูกค้า ธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรม ฟังก์ชันหลักในการทำงานของZeroboard ที่ช่วยในการลดคาร์บอน ได้แก่ การคำนวณค่าปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ค่า Emission Factor จากองค์กรระดับประเทศและชุดข้อมูลจากมาตรฐานสากล, แสดงผลลัพธ์ที่หน้าแดชบอร์ด เพื่อการวิเคราะห์ผล และส่งข้อมูลออกเป็นเอกสารรายงานทั้งในรูปแบบสรุปผลและรายงานตามมาตรฐานขององค์การบริหารจัดการ ก๊าซเรือนกระจก รวมถึงแนะนำให้พันธมิตรของเราจัดหาวิธีแก้ปัญหาในการลดคาร์บอนต่อไป

"Zeroboard"ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายได้ไวขึ้นและสามารถปฏิบัติตาม หลักการที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมได้ ด้วยแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมทั้งการคำนวณที่มีความแม่นยำ, การเปิดเผยที่โปร่งใสและได้รับการรับรองตามาตรฐานสากล,และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมี ประสิทธิภาพ (GHG)

จุดเด่นของ "Zeroboard" คือความสามารถในการคำนวณอย่างละเอียด แม่นยำ และการแสดงผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งรองรับทั้งหมด 6 ภาษา รวมถึงภาษาไทย ทำให้สะดวกต่อการใช้งานสำหรับบริษัทที่มีสาขาในหลายประเทศทั้งยังมีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ สามารถประเมินปล่อยก๊าซต่อหน่วยสินค้าหรือบริการ (Product Carbon Footprint: PCF) ด้วยวิธี Life Cycle Assessment (LCA) ผ่านแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นบนคลาวด์

"การลงนามความร่วมมือกันในฐานะพันธมิตร ระหว่าง SENA และ Zeroboard ในวันนี้ ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยความเชี่ยวชาญในการให้บริการคลาวด์สำหรับคำนวณและแสดงผลลัพธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ของ Zeroboard ทาง SENA จะสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปพัฒนากลยุทธ์เพื่อลดการปล่อยก๊าซฯ ให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากยิ่งขึ้นอีกทั้งยังสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกลุ่มลูกค้าและช่วยประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนในระดับสากลได้อีกด้วย" Mr.Shintaro กล่าว