AH โชว์ผลงาน 3Q23 แกร่ง กำไรสุทธิหลัก 432 ล้านบาท รายได้รวมโตแตะ 7,792 ล้านบาท จากออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ สวนทางภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยอดการผลิตลดลง 6% ย้ำการยุติกิจการฮุนไดไม่กระทบธุรกิจหลัก มั่นใจรายได้รวมปี 2566 เติบโตตามเป้า
นาย เย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาปิโก ไฮเทค หรือ AH ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ และศูนย์บริการหลังการขาย และธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ และ IoT (Internet of Things) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีรายได้รวม 7,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 242 ล้านบาท หรือเติบโต 3.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 7,550 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิหลัก (ไม่รวมกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน) 432 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่ทำไว้ 426 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 23,308 ล้านบาท หรือเติบโต 12.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิหลัก (ไม่รวมกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน) 1,328 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ไว้ 1,113 ล้านบาท
โดยผลประกอบการไตรมาส 3/2566 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เติบโต เนื่องจากมีการส่งออกของผลิตภัณฑ์ใหม่ ไปยังประเทศอาร์เจนตินา และแอฟริกาใต้ ประกอบกับมีการเพิ่มขึ้นของปริมาณคำสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ของลูกค้าต่างประเทศ และการกระจายผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและหลากหลาย ส่งผลให้ยอดขายเติบโตทั้งในประเทศไทย, จีน และโปรตุเกส ขณะที่ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ในประเทศมาเลเซีย มียอดขายที่สูงขึ้นเป็นผลมาจากการเปิดโชว์รูมรถยนต์ Proton ในเดือนตุลาคมปี 2565
รวมถึง Proton ได้มีการออกโมเดลรุ่นใหม่หลายรุ่นในช่วงปี 2566 อย่างไรก็ตามการเติบโตดังกล่าวได้ถูกลดทอนลงจากการชะลอตัวลงของยอดขายรถยนต์สำหรับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทย สอดคล้องกับ สภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถทำรายได้รวมเติบโตได้ดีกว่าการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมในเชิงปริมาณการผลิต (คัน) ที่ลดลงที่ 6%
ทั้งนี้ บริษัทได้ยุติการดำเนินกิจการ ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ที่ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 20% ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นมา จึงส่งผลให้ไม่มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทดังกล่าวในไตรมาสนี้ แต่บริษัทยังคงเน้นย้ำถึงการยุติการดำเนินการดังกล่าวว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลักแต่อย่างใด
"ท่ามกลางสภาวะความท้าทายทางเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง อาปิโกคาดผลประกอบการทั้งปียังสามารถเติบโตได้ตามแผน และเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรม ประกอบกับจะเริ่มมีการเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจผลิตชิ้นส่วน รถยนต์จาก Avee กลุ่มบริษัทโปรตอนในมาเลเซีย ที่ทางบริษัทได้เข้าไปลงทุนในสัดส่วน 60% โดยกลยุทธ์การต่อยอดธุรกิจ ไปในหลากหลายประเทศนี้ จะทำให้อาปิโกสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคตได้อย่างแน่นอน" นายเย็บ ซู ชวน กล่าว
นายเย็บ ซู ชวน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเป้าหมายรายได้ในปี 2566 บริษัทมั่นใจว่า สามารถทำรายได้รวมเติบโต 10-15% ได้ตามแผน เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 28,348 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์เสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วน ยานยนต์ที่มีความน่าเชื่อถือในระดับสากล จากการมีฐานการผลิตในหลากหลายประเทศทั่วโลก และมองหาโอกาสขยาย การเติบโตในประเทศที่มีฐานลูกค้าหลักอย่างต่อเนื่อง อย่างในประประเทศสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น นอกจากนี้ บริษัทยังมีกำลังการผลิตที่เพียงพอ พร้อมรองรับการเติบโตควบคู่ไปกับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอีกด้วย
KP EV Store ศูนย์รวมอุปกรณ์รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์คนไทย มาตรฐานเดียวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ออกแบบทันสมัยตอบโจทย์เทรนด์ของลูกค้ายุคปัจจุบัน
AH คิกออฟ 2 โรงงานระบบคุมไอเสียแห่งใหม่ "มาเลฯ-ไทย" กำลังการผลิตรวมกว่า 7 แสนชิ้น/ปี เสริมทัพแกร่ง
finbiz by ttb แนะ 9 เคล็ดลับให้ธุรกิจพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง และเติบโตอย่างยั่งยืน
Siam Motors Group ผนึกกำลัง WhatsEGG รุกตลาดขายชิ้นส่วนยานยนต์ออนไลน์แบบ B2B
ทีทีบี ติดอาวุธให้ลูกค้าธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน กับความสำเร็จหลักสูตร LEAN for Sustainable Growth by ttb รุ่นที่ 1
ทีทีบี จัดหลักสูตร LEAN for Sustainable Growth by ttb รุ่น 18 สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจยุคดิจิทัล สู่ความยั่งยืน
"ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย (TATG)" ผู้ผลิตแม่พิมพ์โลหะ และชิ้นส่วนยานยนต์ ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 100 ล้านหุ้น จ่อเทรดใน SET
ทีทีบี เปิดรับสมัครหลักสูตรอบรม LEAN for Sustainable Growth by ttb รุ่น 18 สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจยุคดิจิทัล