OR เผยภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2566 มีกำไรสุทธิจำนวน 10,901 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 1.9% โดยยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันและผลิตภัณฑ์หล่อลื่น PTT Lubricants เป็นอันดับหนึ่ง พร้อมเดินหน้าสร้างโอกาสขยายธุรกิจในต่างประเทศ ล่าสุดได้รับการประเมินผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ประจำปี 2566 ที่ระดับ "AAA"
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2566 ว่า OR มีรายได้ขายและบริการ 576,682 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 10,901 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 213 ล้านบาท หรือลดลง 1.9% จากรายได้ขายและบริการและ EBITDA ที่ลดลง โดยหลักเป็นผลมาจากราคาจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงโดยเฉลี่ยตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีระดับต่ำกว่ารวมทั้งมีความผันผวนน้อยกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะมีปริมาณขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของทั้งประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ทั้งนี้ OR ยังคงสามารถรักษาการเป็นผู้นำตลาดน้ำมันและผลิตภัณฑ์หล่อลื่น PTT Lubricants เป็นอันดับหนึ่งในประเทศ และยังคงมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแรงของธุรกิจหลัก (Core Business) เพื่อเป็นฐานสำหรับการเติบโตในอนาคต โดยกลุ่มธุรกิจ Mobility ของ OR มีความหลากหลาย ไม่ได้มีเพียงการขายปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น เท่านั้น แต่ยังมีธุรกิจด้านพลังงานอื่น ๆ ในกลุ่ม Energy Solution ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายน้ำมันอากาศยานที่เติบโตกว่า 60% เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนของปีก่อน หรือกว่า 80% เมื่อเทียบกับก่อนสถานการณ์ COVID-19 โดยมีแนวโน้มเติบโตดีจากเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว การจำหน่ายน้ำมันเชิงพาณิชย์ ก๊าซหุงต้ม น้ำมันหล่อลื่น และผลิตภัณฑ์พิเศษ เช่น ยางมะตอย เป็นต้น เช่นเดียวกับ ธุรกิจ Lifestyle ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งปริมาณการจำหน่ายของ Cafe Amazon เพิ่มขึ้นกว่า 3% และยังสามารถรักษาระดับ EBITDA Margin ได้ในระดับกว่า 25% ถือว่าเป็นธุรกิจที่ยังแข็งแกร่ง และยังมีโอกาสทางธุรกิจอยู่อีกมาก
นายดิษทัต กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของ OR ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 มีปัจจัยที่อาจส่งผลการดำเนินการของ OR ได้แก่ สภาพเศรษฐกิจ ทั้งจากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง และการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดย OR ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น Flagship Station ต้นแบบสถานีบริการในอนาคตที่ครบครันทั้งด้านบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการผลักดันการสร้างยอดขาย และกำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม Energy Solution อีกทั้งยังคงมุ่งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์ อาทิ ด้านสุขภาพและความงาม (Health & Beauty) ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนาความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ และด้านการท่องเที่ยว (Tourism) สำหรับด้านต่างประเทศ OR มุ่งเป้าเพิ่มสัดส่วน EBITDA ของกลุ่มธุรกิจ Global เป็น 15% ในปี 2570 โดยมุ่งเสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศที่ OR ดำเนินการอยู่ และเพิ่มความหลากหลายในการดำเนินธุรกิจ ได้วางกลยุทธ์ให้ประเทศกัมพูชาซึ่งยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากเป็นบ้านหลังที่ 2
ล่าสุด OR ได้รับการประเมินผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ประจำปี 2566 ที่ระดับ "AAA" ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายใน 3 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวทาง SDG ในแบบฉบับของ OR เพื่อตอบโจทย์เป้าหมาย OR 2030 อย่างมีประสิทธิภาพ
OR คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2567 ระดับดีเด่น จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม
OR เปิดโครงการ OR Seeding the Future ASEAN Camp 2024 ครั้งที่ 8
OR จัดงาน "OR TECH SPARK: DIGITAL DAY" ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการทำ Digital Transformation ขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคตในยุค Digital & AI
OR เปิดแผนปฏิรูปดิจิทัล มุ่งยกระดับธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกสู่อนาคต
ครอบครัวสุขสันต์ ปุ้มปุ้ย - กวินท์ ควงน้องไซอัลบลู เปิดประสบการณ์ใหม่ที่ OR Space รามคำแหง 129 ศูนย์รวมความสุขใกล้บ้าน
OR เปิดตัว "OR Space รามคำแหง 129" มิติใหม่ของศูนย์การค้า "พื้นที่ความสุข ครบทุกไลฟ์สไตล์ใกล้บ้านคุณ"
OR ตอกย้ำผู้นำธุรกิจยั่งยืน ในฐานะหุ้นยั่งยืนระดับ AAA คว้ารางวัล Highly Commended Sustainability Awards จาก SET Awards 2024 ขับเคลื่อนแนวคิด OR SDG สร้างการเติบโตจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ
OR เปิดจุดหมายแห่งใหม่ OR Space เณรแก้ว สุพรรณบุรี อย่างเป็นทางการ ก้าวสู่มิติใหม่ ของการช้อปปิ้งและเลือกซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันใกล้บ้าน