ตามที่ธนาคารผู้แทนสมาคมธนาคารไทย ได้มีโอกาสเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน สถานการณ์หนี้ครัวเรือน รวมถึงการดูแลช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของกลุ่มเปราะบางนั้น
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมธนาคารไทยได้ตระหนักและเห็นถึงความจำเป็นในการออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ในระหว่างที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และไม่ทั่วถึง ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) 0.25% สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และSME เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และมีโอกาสฟื้นตัว ปรับตัว ซึ่งเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่มีทั้งมาตรการระยะสั้นรองรับการเปลี่ยนผ่าน และมาตรการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะกลางและระยะยาว สอดคล้องกับมาตรการการแก้หนี้อย่างยั่งยืน และการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยธนาคารสมาชิกจะเร่งพิจารณาดำเนินการตามหลักการดังกล่าว และเตรียมความพร้อมของระบบงาน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเปราะบางของแต่ละธนาคารตามบริบทที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในตลาดเงินตลาดทุน สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก ให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้า และตระหนักถึงการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสียในวงกว้าง (Corporate Responsibility) ซึ่งการช่วยเหลือลูกค้า ประชาชน และผู้ประกอบการรายย่อย ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคส่วนอื่นๆในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการระยาวในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อนำไปสู่ความสามารถในการแข่งขัน และการสร้างรายได้ที่พอเพียงและยั่งยืน
Kubix ชี้อินไซต์ RWA Tokenization ทั่วโลกโตกว่า 5.8 แสนล้านบาท
SCB WEALTH เปิดมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2569 ผ่านธีม Storm Shift ตอกย้ำบทบาทประภาคารส่องนำทางฝ่าคลื่นความผันผวนสู่ความมั่งคั่งในระยะยาว
Italian-Thai Business Forum Marks 10 Years Uniting Global Business Leaders to Drive Thailand-Italy Economic Cooperation and Trade-Investment Opportunities
10 ปี อิตาเลียน-ไทย บิสซิเนส ฟอรั่ม รวมทัพนักธุรกิจระดับโลก ขับเคลื่อนความร่วมมือเศรษฐกิจไทย-อิตาลี สู่โอกาสการค้า-การลงทุน
'AIMIRT' ปิดดีลลงทุน โครงการปิ่นทอง ครั้งที่ 3 มูลค่า 430 ล้านบาท ต่อยอดพอร์ตอสังหาฯ ใน EEC เสริมเสถียรภาพรายได้ค่าเช่าและกระแสเงินสดระยะยาว