วันที่ 14 เมษายน 2567 เวลา 9.00 น.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สำรวจโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย ล่าสุดได้รับรายงานจากทูตพาณิชย์ฟิลิปปินส์ ถึงโอกาสในการส่งออกข้าวไทยไปขาย หลังจากที่ฟิลิปปินส์มีความต้องการนำเข้าข้าวในปี 2567 เพิ่มขึ้น จากการที่ผลผลิตในประเทศลดลง ทำให้ผลผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานยืนยันว่า หน่วยงาน Foreign Agricultural Service ในฟิลิปปินส์ ภายใต้กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) ระบุว่าในปี 2567 ฟิลิปปินส์จะนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เพราะผลผลิตในประเทศขาดแคลน โดยจะยังคงเป็นประเทศผู้ซื้อข้าวรายใหญ่ที่สุดในตลาดโลก คาดว่าฟิลิปปินส์จะนำเข้าข้าวปริมาณ 4.1 ล้านตันในปีนี้ เพิ่มขึ้น 200,000 ตัน หรือร้อยละ 5.1 จากการประมาณการครั้งก่อนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งอยู่ที่ 3.9 ล้านตัน เนื่องจากมีผลผลิตข้าวเปลือกในท้องถิ่นน้อยลง และหากเป็นไปตามการคาดการณ์ดังกล่าว จะทำให้ฟิลิปปินส์มีการนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 14 จากในปี 2566 ที่มีปริมาณ 3.6 ล้านตัน และจะเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ตามด้วยอินโดนีเซีย จีน และสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ยังได้ปรับลดประมาณการการผลิตข้าวของฟิลิปปินส์ในปีนี้ลงเหลือ 12.3 ล้านตัน จากประมาณการครั้งก่อนที่ปริมาณ 12.5 ล้านตัน ซึ่งตรงกันข้ามกับแนวโน้มของสถานการณ์ผลผลิตข้าวทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 515.4 ล้านตัน เนื่องจากคาดว่าจะมีการเพาะปลูกขนาดใหญ่จากประเทศอินเดีย
ขณะเดียวกัน ได้รับรายงานอีกว่า ฟิลิปปินส์เป็นตลาดที่มีบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก มีการบริโภคเฉลี่ยมากถึงปีละประมาณ 16 ล้านตัน แต่ผลผลิตในประเทศมีประมาณ 12 ล้านตัน ทำให้ต้องนำเข้ากว่า 3 ล้านตัน และยังเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงด้านอาหาร อีกทั้งฟิลิปปินส์ยังเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พายุไต้ฝุ่น การขาดแคลนเทคโนโลยี ขาดแคลนแรงงานภาคเกษตร และล่าสุดได้รับผลกระทบจากเอลนีโญ ทำให้ผลผลิตข้าวลดลง รัฐบาลฟิลิปปินส์จึงต้องหามาตรการต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีข้าวเพียงพอบริโภค และประเมินว่าต้องนำเข้ามากถึง 4.1 ล้านตัน
"ปัจจุบันฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในตลาดข้าวสำคัญของไทย โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา มีการนำเข้าจากไทย 3.42 แสนตัน สัดส่วน 9.46% นำเข้าจากเวียดนามอันดับ 1 ปริมาณ 2.97 ล้านตัน สัดส่วน 82.23% และนำเข้าจากเมียนมา 1.56 แสนตัน สัดส่วน 4.33% โดยได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ และทูตพาณิชย์ในฟิลิปปินส์ เดินหน้าขายข้าวไทยให้กับฟิลิปปินส์ เนื่องจากราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ แต่คุณภาพดีกว่า และได้มอบหมายให้เร่งพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีความหลากหลาย โดยเฉพาะข้าวพื้นนุ่มที่ฟิลิปปินส์ต้องการ ซึ่งจะทำให้ข้าวไทยได้ส่วนแบ่งตลาดกลับคืนมาได้"นายภูมิธรรมกล่าว
ทีทีบี สำรองเงินสด 11,000 ล้านบาท รองรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569
"HANN" จับธุรกิจแพทย์เฉพาะด้าน เตรียมเปิดคลินิกสุขภาพผู้ชาย แห่งแรกของอีสาน
Liberator ส่งท้ายปีด้วยจุดยืน "Liberate You" วางรากฐานแพลตฟอร์มการลงทุนยุคใหม่ มุ่งสู่ความครบครันในปีหน้า
GI ยกระดับข้าวไทยหลากสายพันธุ์ สร้างมูลค่าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 3 ไตรมาสแรกของปี 2568 กว่า 8,000 ล้านบาท
TOA ยืนหนึ่ง! คว้าหุ้นยั่งยืน ระดับสูงสุด 'AAA' จากการประเมิน SET ESG Ratings ปี 2568ตอกย้ำผู้นำอุตสาหกรรมสี - เคมีภัณฑ์ พร้อมยกระดับสู่มาตรฐานความยั่งยืนระดับสากล
AXA Thailand elevates customer experience with new claim submission portal
SKR คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2568 ระดับ "A" ตอกย้ำการบริหารจัดการธุรกิจอย่างยั่งยืน
Thailand Rice Fest 2025 เผยศักยภาพข้าวไทยช่วยลดโลกเดือด ชูแนวทาง Carbon Farming สร้างโอกาสใหม่ให้ชาวนาไทย
ธ.ก.ส. จัดกิจกรรมบุญใหญ่ส่งท้ายปีผ่านแคมเปญ "ไถ่ชีวิตโค-กระบือ" ชวนสมาชิก LINE OA BAAC Family คลิกร่วมบุญทะลุ 100,000 คลิกใน 14 วัน