แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ (AS) เผยผลประกอบการปี 2566 พร้อมแผนเดินทัพปี 2567 ตั้งเป้าโต 24% รุกตลาดต่างประเทศพร้อมลุยตลาดเกมเว็บ 3.0

04 Mar 2024

บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) แถลงผลประกอบการปี 2566 โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 1,449.2 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 218.3 ล้านบาท ปรับลดจากปีก่อนหน้า 126.5 ล้านบาท (ร้อยละ 8) และ 50.2 ล้านบาท (ร้อยละ 19) ตามลำดับ เนื่องจากมีการเลื่อนเปิดให้บริการเกมโมบายล์ใหม่ 2 เกมจากไตรมาส 4 ไปเป็นช่วงต้นปี 2567 และปัจจัยหลักในการชะลอตัวของกำไรสุทธิมาจากการด้อยค่าลิขสิทธิ์เกมออนไลน์ (Impairment) 98.6 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นรายการพิเศษ (non-recurring expenses costs) ที่เกิดขึ้นเฉพาะปี 2566 สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 388.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 63.4 ล้านบาท ปรับลดจากไตรมาสก่อนหน้าจำนวน 34.3 ล้านบาท (ร้อยละ 8) และ 19.2 ล้านบาท (ร้อยละ 23) ตามลำดับ โดยสาเหตุมาจากในไตรมาส 3 บริษัทฯ มีผลกำไรจากการขายบริษัทย่อยในประเทศมาเลเซีย 66.4 ล้านบาท จึงส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 3 มีจำนวนที่สูงกว่าไตรมาสอื่น

แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ (AS) เผยผลประกอบการปี 2566 พร้อมแผนเดินทัพปี 2567 ตั้งเป้าโต 24% รุกตลาดต่างประเทศพร้อมลุยตลาดเกมเว็บ 3.0

ด้านการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจเกมออนไลน์ได้เปิดให้บริการเกมใหม่ จำนวน 6 เกม โดยเป็นเกมโมบายล์ทั้งหมด และกลุ่มธุรกิจ Blockchain & Innovation Technologies ได้ร่วมลงทุนใน 2 บริษัทที่เป็นผู้นำทางเทคโนโลยี ได้แก่ บจก.บิทคับ ออนไลน์ ผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิตอลอันดับหนึ่งในประเทศไทย และ บจก. เดอะ บิ๊กแบง ทิออรี่ย์ บริษัทชั้นนำด้าน Metaverse ที่ให้บริการด้าน Metaverse ในรูปแบบแพลตฟอร์มพร้อมใช้ (Metaverse Infrastructure as a service) รายแรกของโลก

สำหรับแผนการดำเนินการในปี 2567 กลุ่มธุรกิจเกมออนไลน์วางกลยุทธ์หลักไว้ 3 ด้านเพื่อเพิ่มการเติบโตทางธุรกิจ ได้แก่

  1. การเปิดให้บริการเกมใหม่: เพลย์พาร์คเตรียมเปิดให้บริการเกมใหม่ทั้งสิ้น 11 เกม (9 เกมโมบายล์และ 2 เกมพีซี) โดยจะรุกตลาดเกมแนวแคชชวลเพิ่มเติมนอกเหนือจากเกมแนว RPG (Role-Playing Game) เนื่องจากมีรูปแบบการเล่นที่ง่ายและสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างกว่า
  2. การรุกตลาดเกมในต่างประเทศ: มุ่งขยายฐานสู่ตลาดเกมในประเทศอินโดนีเซียและเวียดนามที่มีศักยภาพสูง ด้วยการเน้นเปิดให้บริการเกมในรูปแบบ Regional เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจาก 11 เกมใหม่จะเป็นเกม Regional จำนวน 4 - 5 เกม รวมถึงมีการจัดตั้งทีมทำงานเพื่อดูแลตลาดอินโดนีเซียโดยเฉพาะ และปรับโครงสร้างทีมเวียดนามเพื่อลดค่าใช้จ่ายควบคู่กับปรับกลยุทธ์ในการเปิดให้บริการเกมใหม่
  3. การขยายโมเดลธุรกิจ: เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ด้วยการขยายโมเดลทางธุรกิจในด้าน 'Service Platform' เน้นเจาะกลุ่มผู้พัฒนาเกมที่ต้องการเข้าสู่ตลาดเกมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเพลย์พาร์คมีความพร้อมและประสบการณ์ โดยผู้พัฒนาเกมสามารถเลือกรับบริการเฉพาะทางตามความเหมาะสมทางธุรกิจได้ อาทิ บริการด้านการตลาด, การดูแลกลุ่มคอมมูนิตี้, ช่องทางการเติมเงิน

ด้านกลุ่มธุรกิจ Blockchain & Innovation Technologies มีการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Astronize (Hybrid Web 3.0 Game) อย่างเป็นทางการในงานแถลงข่าววันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และขณะนี้เกมแรก TSX by Astronize กำลังเปิดให้ทดสอบช่วง Closed Beta วันที่ 29 กุมภาพันธ์ - 6 มีนาคม 2567 โดยเตรียมเปิดอย่างเป็นทางการครอบคลุม 26 ประเทศในเดือนมีนาคม 2567 นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดให้บริการเพิ่มอีก 1 เกมในช่วงปลายปี 2567 ทั้งนี้ จากแผนงานข้างต้น แอสเฟียร์ฯ ตั้งเป้าในการเติบโตทางด้านรายได้เป็น 1,800 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 จากปี 2566 ที่ผ่านมา

 

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit