"กองวัณโรค" เผยตัวเลขน่ากังวล สถานการณ์ติดเชื้อวัณโรคในไทย ย้ำเร่งนำกลุ่มเสี่ยงตรวจ ชี้พบเชื้อเร็วหายได้ไว เดินหน้าขับเคลื่อน แผน "ยุติวัณโรค" ของประเทศ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กองวัณโรค กรมควบคุมโรค เดินหน้าสร้างความตระหนักรู้เรื่องความรุนแรงของการติดเชื้อวัณโรคในไทยและทั่วโลก พร้อมเน้นย้ำการตรวจคัดกรองเชื้อในวงกว้างเป็นหนทางสู่การบรรลุเป้าหมายการยุติวัณโรคของประเทศไทย ล่าสุด กองวัณโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดย พญ.ผลิน กมลวัทน์ แพทย์ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค ที่ปรึกษากองวัณโรค อดีตผู้อำนวยการกองวัณโรค และวันนี้ท่านเป็นตัวแทนผู้อำนวยการกองวัณโรค (นายแพทย์ไกรสร โตทับเที่ยง) เผยสถิติอันน่าเป็นห่วงของการติดเชื้อวัณโรคในประเทศไทย ร่วมส่งเสริมให้สังคมไทยเห็นภาพรวมสถานการณ์ล่าสุด พร้อมกระตุ้นให้เกิดการตรวจคัดกรองในวงกว้าง ชี้วัณโรคเป็นภัยสุขภาพร้ายแรงที่มีความท้าทายในการควบคุม เนื่องจากผู้ติดเชื้ออาจไม่แสดงอาการเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดสู่คนใกล้ชิดโดยไม่รู้ตัว ย้ำแผนการตรวจคัดกรองเชื้อเชิงรุกระยะยาว เป็นกลไกสำคัญในการต่อสู้วัณโรค

"กองวัณโรค" เผยตัวเลขน่ากังวล สถานการณ์ติดเชื้อวัณโรคในไทย ย้ำเร่งนำกลุ่มเสี่ยงตรวจ ชี้พบเชื้อเร็วหายได้ไว เดินหน้าขับเคลื่อน แผน "ยุติวัณโรค" ของประเทศ

พญ.ผลิน กมลวัทน์ แพทย์ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค ที่ปรึกษากองวัณโรค เล่าถึงสถานการณ์วัณโรคล่าสุดในไทยว่า "ไทยมีผู้ป่วยวัณโรค 155 คนต่อประชากรแสนคน เทียบกับญี่ปุ่นที่จริงจังเรื่องการต่อสู้กับวัณโรค ปัจจุบันญี่ปุ่นจึงเหลือผู้ป่วยเพียง 8 คนต่อประชากรแสนคน เราคาดการณ์ว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ในไทยปีละกว่า 111,000 คน แต่ที่ตรวจพบเชื้อมี 72,000 คน คิดเป็น 65% อีกราว 35% หรือกว่า 40,000 คน ไม่ได้เป็นผู้ป่วยในระบบ ทำให้มีความเสี่ยงสูงในการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น ส่วนอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 12,000-14,000 คนต่อปี หรือคิดเป็นกว่า 40 คนต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก ขณะที่ทั่วโลกมีผู้ป่วยวัณโรคราว 10.6 ล้านคน และเสียชีวิตปีละ 1.3 ล้านคน โดยประเทศไทยมีแผนการยุติวัณโรค ซึ่งเป้าหมายคือการควบคุมตัวเลขผู้ป่วยให้เหลือต่ำกว่า 10 คนต่อประชากรแสนคน ภายในปี 2578 แต่ปัจจุบันสถานการณ์ถือว่ายังน่ากังวล
อยู่มาก" "กองวัณโรค" เผยตัวเลขน่ากังวล สถานการณ์ติดเชื้อวัณโรคในไทย ย้ำเร่งนำกลุ่มเสี่ยงตรวจ ชี้พบเชื้อเร็วหายได้ไว เดินหน้าขับเคลื่อน แผน "ยุติวัณโรค" ของประเทศ

ในประเทศไทย อุปสรรคในการต่อสู้กับวัณโรคนั้นมีหลายประการ "จริง ๆ วัณโรคไม่เคยหายไปจากไทย และเราจำเป็นต้องรณรงค์เรื่องการตรวจคัดกรองเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เพราะความท้าทายคือ โรคนี้ใช้เวลาฟักตัวนานตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป หรือบางรายอาจนานถึง 5-10 ปี หลาย ๆ คนไม่แสดงอาการ การใช้เครื่องเอกซเรย์ปอดดูความผิดปกติเป็นสิ่งจำเป็นในการคัดกรองค้นหาผู้ป่วยให้เจอและรักษาให้หาย คือหัวใจของการต่อสู้กับโรคนี้ โดยเมื่อพบความผิดปกติที่ปอด จะส่งต่อไปตรวจเสมหะเพื่อยืนยันผลการติดเชื้อทันที จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยการรับประทานยาทุกวันจนครบ 6-8 เดือนก็สามารถหายจากโรคได้ ซึ่งจริง ๆ หากทำให้การออกตรวจคัดกรองเป็นวาระสำคัญแห่งชาติในระยะยาว เราจะเจอผู้ป่วยได้อีกมาก ก็จะช่วยให้ขยับใกล้เป้าหมายการยุติวัณโรคมากขึ้น" พญ.ผลิน กมลวัทน์ อธิบาย

ปัจจุบัน มีนวัตกรรมที่ช่วยในการคัดกรองผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ คือเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลแบบพกพาขนาดเล็กพร้อมระบบประมวลผล AI ทีมแพทย์สามารถพกไปออกตรวจในชุมชนได้ ใช้เวลาตรวจรวดเร็วเพียง 1 นาที มีความแม่นยำเหมือนกับเครื่องเอกซเรย์ตัวใหญ่ในโรงพยาบาล โดย พญ.ผลิน กมลวัทน์ กล่าวว่า "เมื่อเครื่องตรวจพบรอยโรคจะส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ทราบ ก็จะได้นำคนไข้ไปตรวจเสมหะ และเมื่อพบโรคก็จะเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไปได้ หากมีการใช้เครื่องเอกซเรย์พกพาในพื้นที่เสี่ยง ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจคัดกรองได้เป็นอย่างดี ซึ่งล่าสุดกองวัณโรคได้รับการสนับสนุนจากกองทุนโลก (Global Fund) ในการต่อสู้กับวัณโรค จึงได้จัดซื้อเครื่องเอกซ์เรย์แบบพกพาทั้งสิ้น 16 เครื่อง และได้ส่งมอบให้แก่หลายโรงพยาบาลเพื่อใช้การคัดกรองวัณโรคเรียบร้อยแล้ว"

มร.โซ มารูโอะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ฟูจิฟิล์ม ตระหนักถึงความเร่งด่วนในการยุติการแพร่ระบาดของวัณโรค และได้ร่วมทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานสาธารณสุขต่าง ๆ ในประเทศไทยและทั่วโลกเพื่อนำเสนอนวัตกรรมเครื่องเอกซเรย์แบบพกพาเพื่อใช้ในการตรวจคัดกรองวัณโรคได้อย่างสะดวก แม่นยำ รวดเร็ว โดยเป้าหมายหลักของเราคือการยกระดับด้านการแพทย์และสุขภาพให้สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในการยุติวัณโรคภายในปี ค.ศ. 2030 เราจึงเร่งเดินหน้าต่อสู้กับวัณโรค โดยมุ่งเน้นที่การตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ ผ่านนวัตกรรมอันล้ำสมัยของเรา"

"ปีนี้และต่อไปในอนาคต ทุกภาคส่วนยังต้องเดินหน้าช่วยกันรณรงค์เรื่องความสำคัญของการตรวจคัดกรองวัณโรคในเมืองไทยต่อไป ตอนนี้เรามีนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาช่วยคัดกรอง ช่วยให้พบผู้ป่วยวัณโรคได้รวดเร็วเพื่อมอบการรักษาอย่างทันท่วงที หากเราเร่งตรวจคัดกรองต่อเนื่องเช่นนี้ ในปี พ.ศ. 2578 ก็มีความหวังว่าประเทศไทยจะคว้าชัยเป็นหนึ่งในประเทศที่ยุติวัณโรคได้จริง ๆ" พญ.ผลิน กมลวัทน์ กล่าวย้ำทิ้งท้าย


ข่าวo:editor+o:healวันนี้

มุ่งเป้าคัดกรองพาร์กินสัน ป้องกันการสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคม

ศูนย์ความเป็นเลิศโรคพาร์กินสันเดินหน้าตรวจเช็กความเสี่ยงการเป็นโรคพาร์กินสัน พร้อมเปิดอบรมการใช้งานแอปพลิเคชัน CheckPD แก่อสม.และเจ้าหน้าที่อาสากาชาด เพื่อนำไปใช้คัดกรองเบื้องต้นแก่สมาชิกชุมชน ศ.นพ.รุ่งโรจน์ พิทยศิริ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ทางศูนย์ฯ ได้เดินหน้าภารกิจสำคัญในการคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคพาร์กินสันตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยมุ่งหวังให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว

ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท ... ธ.ทิสโก้ผนึกพันธมิตร จัดสัมมนา "Unlock Long Life" ชวนคิดเรื่องสุขภาพและการเงินในยุคอายุยืน — ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชี...

หลายคนใฝ่ฝันอยากมีหุ่นนาฬิกาทราย เอวเล็ก ... สูตรปั้นหุ่นนาฬิกาทราย! ดูดไขมันหน้าท้องสร้างเอวเอส สวยจบในครั้งเดียว — หลายคนใฝ่ฝันอยากมีหุ่นนาฬิกาทราย เอวเล็ก หน้าท้องแบนราบ และมีสัดส่วนชัดเจน เพราะนอ...

"การกรน" เป็นสัญญาณของภัยเงียบที่ร้ายแรงก... "ใครกรนต้องรู้! มจธ. พัฒนา 'หมอนรองคออัจฉริยะ' สั่นเตือนก่อนคุณหยุดหายใจ" — "การกรน" เป็นสัญญาณของภัยเงียบที่ร้ายแรงกว่าที่หลายคนคิด เพราะคือเสียงเตือนของ...