JMT ปี 66 กำไรแข็งแกร่งที่ 2,011 ลบ. ทำนิวไฮตามนัด พร้อมซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเพิ่มเติมดันพอร์ตหนี้เติบโต

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

JMT ผู้นำธุรกิจ AMC ทำสถิติใหม่อีกครั้ง สำหรับผลงานปี 2566 กำไรนิวไฮอยู่ที่ 2,011 ล้านบาท เติบโต 15% โชว์ยอดจัดเก็บรวมของทั้งกลุ่ม (รวม JK AMC) อยู่ที่ 8,710 ล้านบาท โดยทำได้ดีแม้ภาวะเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และเป็นโอกาสในการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารต่อเนื่อง โดยในปี 2566 เป็นอีกปีที่ JMT ซื้อหนี้แบบ Unsecure เข้ามาในพอร์ตมากที่สุดโดยใช้งบลงทุนปี 2566 อยู่ที่ 7,311 ล้านบาท มองปี 2567 โตต่อ วางงบลงทุนซื้อหนี้อย่างระมัดระวัง โดยพิจารณาที่ผลตอบแทนของกองหนี้เป็นสำคัญ

JMT ปี 66 กำไรแข็งแกร่งที่ 2,011 ลบ. ทำนิวไฮตามนัด พร้อมซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเพิ่มเติมดันพอร์ตหนี้เติบโต

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานงวดประจำปี 2566 เป็นไปตามเป้าหมาย กำไรทำ All Time High ต่อเนื่องอยู่ที่ 2,011 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 15% มีรายได้รวม 5,087 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน หน้า 15% มาจากรายได้ที่ทำสัญญากับลูกค้า รายได้ดอกเบี้ย-กำไรจากเงินให้สินเชื่อการซื้อลูกหนี้ และรายได้รายรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้น

ซึ่งบริษัทฯ มียอดจัดเก็บกระแสเงินสด (Cash Collection) รวมส่วนของบริษัทและของบริษัทร่วมทุน JK AMC ในปี 2566 เท่ากับ 8,710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ด้วยการบริหารจัดการที่รัดกุม นำเทคโนโลยี และแอปพลิเคชันเข้ามาสนับสนุน และความเชี่ยวชาญในฐานะผู้นำธุรกิจ AMC มีหนี้ในพอร์ตที่ซื้อมาบริหารในช่วง 10 ปีที่ผ่านมายังสามารถดำเนินการจัดเก็บและสร้างผลตอบแทนให้กับ JMT ได้จนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี สำหรับปี 2566 JMT ทำสถิติเป็นปีที่ซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารมากที่สุด โดยใช้เงินลงทุนในการซื้อหนี้รวมทั้งปีที่ 7,311 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังมองปี 2567 เป็นโอกาสสำหรับธุรกิจบริหารหนี้ตั้งเป้างบลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพอย่างระมัดระวัง โดยจะคัดเลือกลงทุนในหนี้ด้อยคุณภาพที่มีผลตอบแทนสูงที่สุด


ข่าวo:editor+o:finวันนี้

EPG เผยทิศทางธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมยกระดับประสิทธิภาพทุกมิติ ภายใต้นโยบาย 'USE' หนุนผลประกอบการแข็งแกร่ง เตรียมจ่ายเงินปันผล 7 สตางค์ 9 ธ.ค.นี้

ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน ปีบัญชี 68/69 (เม.ย. ก.ย.68) บริษัทมียอดขาย 6,771 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดขาย 7,182 ล้านบาท ลดลง 6% มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 33.2% เป็นไปตามเป้าหมาย มีกำไรสุทธิ 587 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการตั้งสำรองผลขาดทุนทางเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน... กรุงศรีออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ — กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ)ห่วงใยลูกค้าแ...

แพทย์หญิงศิเรมอร ทองสิมา (ซ้าย) ผู้อำนวยก... NKT เตรียมเปิดโรงพยาบาลนครธน 2 หนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง — แพทย์หญิงศิเรมอร ทองสิมา (ซ้าย) ผู้อำนวยการสายงานแพทย์ และคุณสุภาวดี ลอยแก้ว (ขวา) ผู้อำนวยการส...

บลจ.อีสท์สปริง แนะจัดพอร์ตกองทุนประหยัดภา... บลจ.อีสท์ปสริง คัด 5 กองทุนเด็ดประหยัดภาษี "RMF-ThaiESG" จัดพอร์ตลงทุนช่วงท้ายปี 68 — บลจ.อีสท์สปริง แนะจัดพอร์ตกองทุนประหยัดภาษี RMF และ ThaiESG ช่วงท้าย...