พีดีเฮ้าส์ชี้พิษเศรษฐกิจ-ค่าก่อสร้างพุ่ง ฉุดตลาดชะลอตัวสุดรอบ 3 ปี เร่งปรับทัพดันผู้บริหารรุ่นใหม่ พร้อมทำใจยอดขายพลาดเป้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

พีดีเฮ้าส์ สรุปตลาดบ้านสร้างเองทั่วปท.ปี 66 มูลค่า 1.72 แสนล้านบาท ลดลง 14% เทียบกับปีก่อน ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านทั่วปท.ปีเดียวกัน มูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท หดตัวแรง 18% จากปีก่อนมูลค่าตลาด 2.5 หมื่นล้านบาท เป็นที่มาของการปรับตัวเร่งขยายสาขาใหม่ ๆ ลาดกระบัง ชัยภูมิ ลพบุรี ดูดซับยอดขายใหม่แทนพื้นที่เดิมที่ชะลอตัว ประเมินแนวโน้มตลาดบ้านสร้างเอง และตลาดรับสร้างบ้านปี 67 ชะลอตัวมากสุดในรอบ 3 ปี ผลกระทบจากเศรษฐกิจซบ ดอกเบี้ยธนาคาร ราคาวัสดุ-ค่าก่อสร้างบ้านพุ่งสูง นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลที่ไม่ชัดเจน คาดแข่งขันเดือดจากตลาดหดตัว กอปรกับรับสร้างบ้านรายเดิม-รายใหม่-วัสดุก่อสร้างรายใหญ่รุกหนักหวังชิงเค้กส่วนแบ่งตลาด เผยปี 67 เล็งปรับกลยุทธ์ลดการแข่งขัน หันปรับโครงสร้างองค์กรเตรียมดันผู้บริหารรุ่นใหม่ขึ้นแท่นแทนรุ่นบุกเบิก พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์เอาใจกลุ่ม Gen X Gen Y ตั้งเป้ายอดขายปี 67 เหลือแค่ 30-50 ล้านบาทต่อสาขา แต่พร้อมทำใจหากยอดขายพลาดเป้า

พีดีเฮ้าส์ชี้พิษเศรษฐกิจ-ค่าก่อสร้างพุ่ง ฉุดตลาดชะลอตัวสุดรอบ 3 ปี เร่งปรับทัพดันผู้บริหารรุ่นใหม่ พร้อมทำใจยอดขายพลาดเป้า

นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของสิทธิ์และผู้บริหารมาตรฐานศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่าปริมาณและมูลค่าตลาดบ้านสร้างเองทั่วประเทศปี 2566 (มิใช่ บ้านจัดสรร) ชะลอตัวตามที่คาดการณ์ไว้ โดยในปี 2565 ปริมาณและมูลค่าตลาดบ้านสร้างเองอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท แต่ในปี 2566 พบว่าตัวเลขมูลค่าตลาดลดลงเหลือ 1.72 แสนล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 14% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจประเทศที่ซบเซา ส่งผลให้กำลังซื้อและความต้องการสร้างบ้านของประชาชนลดลง ในส่วนของตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศ โดยกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านหรือศูนย์รับสร้างบ้าน พบว่าปริมาณและมูลค่าตลาดปรับตัวลดลงไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ในปี 2565 ขนาดตลาดรับสร้างบ้านมีมูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท แต่ปรากฎว่าปี 2566 ปรับตัวลดลงเหลือ 1.8 หมื่นล้านบาท หรือลดลงเฉลี่ย 18% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน โดยมูลค่าตลาดที่ชะลอตัวและปรับลดลงมากที่สุดตามลำดับได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคอีสาน นับเป็นสัดส่วนที่ปรับลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา พีดีเฮ้าส์ชี้พิษเศรษฐกิจ-ค่าก่อสร้างพุ่ง ฉุดตลาดชะลอตัวสุดรอบ 3 ปี เร่งปรับทัพดันผู้บริหารรุ่นใหม่ พร้อมทำใจยอดขายพลาดเป้า

สำหรับ พีดีเฮ้าส์ ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ลดลงเช่นกัน จนต้องมีการปรับตัวด้วยการขยายสาขาในพื้นที่ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีก 3 จังหวัด ประกอบด้วย สาขากรุงเทพฯ (ลาดกระบัง) ชัยภูมิ และลพบุรี เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านในจังหวัดนั้น ๆ และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าพอใจเพราะยังคงรักษาเป้ายอดขายบ้านที่ตั้งไว้ได้ สวนทางกับภาวะตลาดที่ซบเซา กอปรกับบริษัทฯ เองหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่พึงพอใจของผู้บริโภคมากขึ้น ด้วยการปรับปรุงคุณภาพวัสดุก่อสร้างมาตรฐานที่ใช้สร้างบ้านทุกหลัง โดยคัดเลือกวัสดุคุณภาพสูง อายุการใช้งานยาวนาน และสะดวกต่อการใช้งานของเจ้าของบ้าน ตลอดจนสร้างความแตกต่างกับคู่แข่งและบริษัทรับสร้างบ้านทั่วไป ตัวอย่างเช่น ประตู-หน้าต่างอลูมิเนียมชนิดชุบสี Anodize ของผู้ผลิต TOSTEM คุณภาพมาตรฐานระดับโลก ฯลฯ เป็นวัสดุสร้างบ้านให้ลูกค้าทุกหลัง

"แนวโน้มและทิศทางตลาดบ้านสร้างเองปี 2567 ประเมินว่ากำลังซื้อและความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคและประชาชนยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบสำคัญ ๆ ได้แก่ เศรษฐกิจและการค้าที่ซบเซา อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมธนาคาร ราคาวัสดุก่อสร้างและค่าก่อสร้างบ้านสูงขึ้นมาก ปัญหาค่าครองชีพและภาระหนี้ครัวเรือน ฯลฯ โดยเฉพาะกำลังซื้อผู้บริโภคกลุ่มที่ต้องการสร้างบ้านขนาดเล็กพื้นที่ใช้สอยไม่เกิน 100-120 ตารางเมตร หรือราคาบ้านไม่เกิน 2 ล้านบาท และผู้บริโภคกลุ่มที่ต้องการสร้างบ้านขนาดใหญ่พื้นที่ขนาด 500 ตารางเมตรขึ้นไป หรือราคามากกว่า 10 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับผลกระทบและมีสัดส่วนลดลงมากที่สุดในปีนี้ ทั้งนี้ปัญหาหลัก ๆ ได้แก่การฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจประเทศ และนโยบายภาครัฐที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ไม่ชัดเจนและล่าช้า ซึ่งยังมองไม่เห็นปัจจัยบวกใด ๆ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนในการจับจ่ายใช้สอย หรือลงทุนในทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการลงทุนเรื่องบ้านหรือสร้างบ้านเอง"

นายสิทธิพร กล่าวต่ออีกว่า ตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศปี 2567 คาดว่าความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคมีแนวโน้มชะลอตัวตามภาวเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะกำลังซื้อกลุ่มนักธุรกิจหรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก และกลุ่มชาวต่างชาติ ที่ผ่านมา 2 กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดรับสร้างบ้าน แต่คาดว่าในปีนี้กำลังซื้อของ 2 กลุ่มนี้จะมีสัดส่วนลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ๆ อย่างไรก็ตาม ความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อที่ลดลง อาจส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในตลาดรับสร้างบ้านแตกต่างกันไป เพราะแนวโน้มผู้บริโภคจะนิยมใช้บริการกับผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ที่ประวัติและชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับหรือมีแบรนด์เป็นที่น่าไว้วางใจ มากกว่าจะเลือกผู้ประกอบการที่ขาดความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจ นอกจากนี้ในสายตาของผู้บริโภคกลุ่ม Gen X และ Gen Y ยังให้ความสำคัญและสนใจที่จะเลือกใช้บริการกับผู้ประกอบการที่มีจุดยืนทางธุรกิจและจุดขายที่ชัดเจน

แนวโน้มการแข่งขันตลาดรับสร้างบ้านในปี 2567 พีดีเฮ้าส์ ประเมินว่าการแข่งขันราคาจะรุนแรงในทุกเซกเม้นต์ สาเหตุสำคัญ ๆ เกิดจากขนาดของตลาดรับสร้างบ้านที่หดตัว และการเข้ามาแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ตลอดจนการขยายสาขาหรือตลาดในพื้นที่ใหม่ ๆ ของรายเดิม โดยเฉพาะตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่ภาคอีสาน คาดว่าจะแข่งขันกันรุนแรงจากทั้ง 2 ปัจจัยข้างต้น นอกจากนี้ การเริ่มรุกหนักตลาดรับสร้างบ้านของเอสซีจีในฐานะผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ อาจทำให้การแข่งขันในปีนี้ร้อนแรงขึ้นกว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ทั้งนั้นหากผู้ประกอบการรายเดิม ๆ และรายใหม่ที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจนี้ไม่ปรับตัวอาจแข่งขันลำบากและยากมากขึ้น

ด้าน นางสาวถิรพร สุวรรณสุต ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร สายงานส่งเสริมธุรกิจ เปิดเผยถึงนโยบายและแผนกลยุทธ์ที่จะใช้ในแข่งขันในปี 2567 นี้ว่าเป็นปีที่บริษัทฯ มีการปรับโครงสร้างการบริหารงานและบุคลากรภายในองค์กรใหม่ สืบเนื่องจากผู้บริหารรุ่นบุกเบิกเกษียณอายุงานหลายท่าน พร้อมทั้งมีการแต่งตั้งคณะผู้บริหารรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน ปีนี้จึงไม่ได้มุ่งแข่งขันหรือรุกตลาดรับสร้างบ้านมากนัก หรือกล่าวได้ว่าเป็นช่วงเปลี่ยนน้ำใหม่ จึงต้องมีการปรับตัวและเตรียมความพร้อมแทน โดยจะหันมาให้ความสำคัญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่ม Gen X และ Gen Y มากขึ้น อย่างไรก็ดีในปี 2567 นี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายบ้านไว้ใกล้เคียงกับปีก่อน ๆ โดยเป้ายอดขายเฉลี่ยสาขาละ 30-50 ล้านบาท ปัจจุบันศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ มีสาขาทั่วประเทศรวม 31 สาขา อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัว และยังมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาแข่งขันเพิ่มขึ้นจำนวนมาก มีความเป็นไปได้ว่าปีนี้ยอดขายอาจพลาดเป้า แต่ก็ไม่เป็นกังวลมากนักเพราะว่ายังมีสต๊อกขายบ้านจากไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เตรียมเริ่มงานก่อสร้างในปีนี้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งสามารถช่วยชดเชยยอดขายปี 2567 ได้หากพลาดเป้าที่ตั้งไว้

นายสิทธิพร กล่าวทิ้งท้ายว่า ในมุมมองที่มีต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในปัจจุบันมีความละม้ายคล้ายคลึงกับเมื่อ 20 ปีก่อน สมัยนั้นผู้บริโภคและสื่อมวลชนไม่เข้าใจว่า "ธุรกิจรับสร้างบ้านหรือบริษัทรับสร้างบ้าน" แตกต่างอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับ "ผู้รับเหมาสร้างบ้านทั่วไป" นั่นเพราะกลุ่มผู้ประกอบการมืออาชีพขาดการสื่อสารหรือประชาสัมพันธ์อย่างมีระบบ และขาดการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคอย่างจริงจัง จนมาถึง ณ ปัจจุบันโลกการสื่อสารเปลี่ยนไป ผู้ประกอบการสามารถสื่อสารหรือสร้างการรับรู้และเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายมากขึ้น แต่กลับพบความไม่เข้าใจของผู้บริโภคว่า "ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่สื่อสารหรือโฆษณาและประชาสัมพันธ์กันอยู่มากมายนั้น รายใดเป็นมืออาชีพแท้จริง รายใดไม่ใช่มืออาชีพ รายใดแค่มือสมัครเล่น และรายใดเป็นมิจฉาชีพ" กระทั่งมีผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากการฉ้อโกงหรือหลอกลวงหรือถูกเอารัดเอาเปรียบ จากการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ของบรรดาผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจนี้อย่างแยกไม่ออก ทำให้วันนี้ภาพลักษณ์ของธุรกิจรับสร้างบ้านถูกบั่นทอนความน่าเชื่อถือลงในสายตาผู้บริโภคและประชาชน ตลอดจนหน่วยงานและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง นี่เป็นสิ่งที่น่ากังวลต่อการดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านในอนาคต


ข่าวo:member+o:realวันนี้

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ รับมอบโล่เกียรติยศแห่งนวัตกรรมสีเขียว DOS GREEN INNOVATION

คุณสุธาร ศรีสุข (ขวา) ผู้จัดการฝ่าย ฝ่ายก่อสร้าง บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนบริษัทฯ รับมอบโล่เกียรติยศแห่งนวัตกรรมสีเขียว DOS GREEN INNOVATION จากคุณดิศนิติ โตวิวัฒน์ (ซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท ธรรมสรณ์ ในโอกาสที่กลุ่มบริษัท ธรรมสรณ์ หรือ DOS LIFE ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบจัดการน้ำครบวงจร เปิดตัวนโยบายด้านความยั่งยืน ภายใต้พันธกิจ "DOS MISSION TOWARDS NET ZERO" โดยมีเป้าหมายสู่การเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 2050 พร้อมเผยแนวคิดขับเคลื่อนธุรกิจด้วย "DOS GREEN

The Bridge's reopening marks the first st... Cathay Pacific brings a redesigned lounge experience to The Bridge at Hong Kong International Airport — The Bridge's reopening marks the first stage of Ca...

เนเจอร์ เซ็นเซชั่น ผลิตภัณฑ์ธัญพืช ผลไม้อ... ออกแบบมื้อเช้าง่าย ๆ ในสไตล์คุณ ด้วยเนเจอร์ เซ็นเซชั่น กราโนล่า ราคาพิเศษที่ฟู้ดแลนด์ทุกสาขา — เนเจอร์ เซ็นเซชั่น ผลิตภัณฑ์ธัญพืช ผลไม้อบแห้ง และน้ำผลไม้อ...

กทม. แจงประเมินความเสียหายช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ตามหลักเกณฑ์กระทรวงการคลัง

นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวถึงแนวทางการสำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กทม. ได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่...

นายโรจน์ ไตรวิทยาศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ... เขตบางซื่อเข้มตรวจติดตามโรงชำแหละซากสุกรปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขเคร่งครัด — นายโรจน์ ไตรวิทยาศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางซื่อ รักษาราชการแทนผู้อำนวยกา...