มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ก้าวสู่อันดับ 1 ในส่วนแบ่งตลาดกังหันก๊าซทั่วโลกในปี 2566

19 Mar 2024

มิตซูบิชิ พาวเวอร์ (Mitsubishi Power) แบรนด์โซลูชันด้านพลังงานของบริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด (MHI) ก้าวสู่อันดับหนึ่งในฐานะผู้ชิงส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดตามปริมาณกำลังการผลิตในปี 2566 โดยมีส่วนแบ่งตลาดกังหันก๊าซทั่วโลกอยู่ที่ 36% ตามข้อมูลจาก McCoy Power Reports1 นอกจากนี้บริษัทยังมีส่วนแบ่งตลาดถึง 56% ในกลุ่มกังหันก๊าซ Advanced Class2 ด้วยกังหันก๊าซรุ่นล่าสุด JAC (J-Series Air-Cooled) จากมิตซูบิชิ พาวเวอร์ นับเป็นปีทีสองติดต่อกันที่มิตซูบิชิ พาวเวอร์ (Mitsubishi Power) คว้าส่วนแบ่งตลาดกังหันก๊าซระดับสากลสูงสุดหลังจากปี 2565

มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ก้าวสู่อันดับ 1 ในส่วนแบ่งตลาดกังหันก๊าซทั่วโลกในปี 2566

จากรายงาน McCoy Power Report

  • ผู้นำด้านกังหันก๊าซระดับสากลต่อเนื่องสองปีที่มีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกถึง 36% และมีส่วนแบ่งตลาดสำหรับกังหันก๊าซกลุ่ม Advanced Class สูงถึง 56%
  • ยอดสั่งซื้อสะสมสำหรับกังหันก๊าซ J-series เกินกว่า 120 ชุด ทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุด

ส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงของมิตซูบิชิ พาวเวอร์ เกิดขึ้นจากประวัติการดำเนินโครงการที่โดดเด่น ผลการดำเนินงานในระดับสูง และความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ ซึ่งมิตซูบิชิ พาวเวอร์มีประสบการณ์ในการดำเนินงานแบบครบวงจรในธุรกิจกังหันก๊าซขนาดใหญ่ รวมทั้งรุ่น F, G และ J-series โดยกังหันก๊าซรุ่น J-series (รวมถึงรุ่น JAC) มีชั่วโมงการทำงานจริง (AOH) มากกว่า 2.3 ล้านชั่วโมง จำนวนยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยยอดสั่งซื้อสะสมล่าสุดทะลุ 120 ชุด

ในตลาดกังหันก๊าซขนาดใหญ่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของกังหันก๊าซพลังความร้อนร่วม (GTCC) กังหันก๊าซรุ่น JAC ถือเป็นผู้นำด้านกังหันก๊าซของโลกโดยมีประสิทธิภาพที่มากกว่า 64% และเป็นไปตามมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการลดการปล่อยคาร์บอน ช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นในการเดินเครื่อง รวมถึงระยะเวลาเริ่มเดินเครื่องที่สั้นลงและความสามารถในการรองรับความผันผวนในการใช้ไฟฟ้า อีกทั้งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอุปทานและอุปสงค์ของพลังงานไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้

อีกปัจจัยที่ทำให้มิตซูบิชิ พาวเวอร์ กลายเป็นผู้นำในตลาดทั่วโลก เนื่องมาจากการที่กังหันก๊าซขนาดใหญ่ทั้งหมดของบริษัทในปัจจุบันรองรับการใช้เชื้อเพลิงร่วมกับไฮโดรเจน ทำให้มีประสิทธิภาพในการลดการปล่อยคาร์บอนสูงยิ่งขึ้นไปอีก ในเดือนพฤศจิกายน 2566 บริษัทประสบความสำเร็จในการใช้งานเชื้อเพลิงผสมจากไฮโดรเจน 30% โดยใช้กังหันก๊าซรุ่น JAC ณ โรงงานตรวจสอบโรงไฟฟ้าพลังงานร่วม T-Point 2 ในทากาซาโงะ ไฮโดรเจน ปาร์ค

นายโทชิยูกิ ฮาชิ รองประธานบริหารบริหารสูงสุด และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจพลังงาน บริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ กล่าวถึงความสำเร็จของผลการดำเนินงานที่โดดเด่นนี้ว่า "พวกเราภูมิใจที่ยังคงรักษาตำแหน่งส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในตลาดกังหันก๊าซที่มีการแข่งขันสูงในปี 2566 บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จะร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลกในการแก้ปัญหาการลดการปล่อยคาร์บอนต่อไป เช่น การพัฒนาและการจำหน่ายกังหันก๊าซที่ใช้ไฮโดรเจนและแอมโมเนีย เราจะมุ่งมั่นอย่างแข็งขันเพื่อให้บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับโลก"

มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ขับเคลื่อนโดยการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากลูกค้าที่สร้างความมั่นคงให้กับส่วนแบ่งตลาด และตั้งเป้าหมายที่จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาการนำเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าชั้นนำของอุตสาหกรรมมาใช้ต่อไป โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนากังหันก๊าซ J-series ซึ่งแบรนด์โซลูชันด้านพลังงานจะมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการจ่ายไฟฟ้าอย่างมีเสถียรภาพที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็มีส่วนทำให้โลกปลอดคาร์บอนมากขึ้น

หมายเหตุ

*1: ข้อมูลอ้างอิงจาก McCoy Power Report ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยตลาดเชิงลึกเกี่ยวกับโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าทั่วโลก
*2: กังหันก๊าซกลุ่ม Advanced Class ครอบคลุมคลาส G, H และ J