อิมแพ็ค ตั้งคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.)

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ภายใต้นโยบายการกำกับกิจการที่ดี ส่งเสริมสวัสดิภาพความปลอดภัยในการทำงานให้กับพนักงานองค์กร

อิมแพ็ค ตั้งคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.)

นางสาวจินตนา  พงษ์ภักดี ผู้อำนวยการ สำนักงานฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวถึง นโยบายการดำเนินงานขององค์กรเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน ตระหนักและให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง ESG ที่มุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (Environment ) ดูแลพัฒนาสังคม (Social) ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance) ล่าสุดบริษัทฯ ได้ตั้งคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในองค์กร ในการดำเนินงานด้านความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นนายจ้าง และลูกจ้าง อิมแพ็ค ตั้งคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.)

มีหน้าที่ในการพิจารณานโยบายและแผนงานด้านความปลอดภัยในการทำงาน รายงาน และเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน ส่งเสริม สนับสนุน กิจกรรมด้านความปลอดภัยในการทำงานของสถานประกอบกิจการ สำรวจการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยในการทำงาน และตรวจสอบสถิติการประสบอันตรายที่เกิดขึ้นในสถานประกอบกิจการนั้น พร้อมวางระบบการรายงานสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยให้เป็นหน้าที่ของลูกจ้างทุกคนทุกระดับต้องปฏิบัติ รวมทั้งประเมินผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในการทำงานของสถานประกอบกิจการ

โดยให้เป็นไปตามกฎกระทรวงบริหารการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2549 ที่กำหนดให้สถานประกอบกิจการที่มีจำนวนพนักงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป ต้องมีคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของสถานประกอบกิจการ สำหรับ อิมแพ็ค ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 500 คน ตามข้อกำหนดหลักเกณฑ์ต้องให้มีคณะกรรมการไม่น้อยกว่า 11 คน  โดยมีนายจ้างหรือผู้แทนนายจ้างระดับบริหารเป็นประธาน ทำงานร่วมกับ ผู้แทนนายจ้างระดับบัญชา ผู้แทนลูกจ้าง 5 คนเป็นกรรมการ และมี จป.เทคนิคขั้นสูงหรือจป.วิชาชีพ เป็นกรรมการและเลขานุการ รวมทั้งหมด 15 คน และมีวาระการทำงาน 2 ปี (2567-2568)

นายวัชระ  จันทระโสภา หัวหน้าฝ่ายบริหารโครงการ ในฐานะประธาน คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) ขององค์กร กล่าวเสริมถึงหน้าที่ของทีม คปอ. อิมแพ็ค เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้ 12 ข้อ ได้แก่

1.) จัดทำนโยบายด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานของสถานประกอบกิจการเสนอต่อนายจ้าง

2.) จัดทำแนวทางการป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ การประสบอันตราย การเจ็บป่วยหรือการเกิดเหตุเดือดร้อน รำคาญ อันเนื่องจากการทำงานของลูกจ้างหรือความไม่ปลอดภัยในการทำงานเสนอต่อนายจ้าง

3.) รายงานและเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางปรับปรุงแก้ไขสภาพการทำงานและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้เป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานต่อนายจ้างเพื่อความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง ผู้รับเหมาและบุคคลภายนอกที่เข้ามาปฏิบัติงานหรือเข้ามาใช้บริการในสถานประกอบกิจการ

4.) ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านความปลอดภัยในการทำงานของสถานประกอบกิจการ

5.) พิจารณาคู่มือว่าด้วยความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของสถานประกอบกิจการเพื่อเสนอความเห็นต่อนายจ้าง

6.) สำรวจการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยในการทำงานและรายงานผลการสำรวจดังกล่าว รวมทั้งสถิติการประสบอันตรายที่เกิดขึ้นในสถานประกอบกิจการนั้น ในการประชุมคณะกรรมการความปลอดภัยทุกครั้ง

7.) พิจารณาโครงการหรือแผนการฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน รวมถึงโครงการหรือแผนการอบรมเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบในด้านความปลอดภัยของลูกจ้าง หัวหน้างาน ผู้บริหาร นายจ้างและบุคลากรทุกระดับเพื่อเสนอความเห็นต่อนายจ้าง

 8.) จัดวางระบบให้ลูกจ้างทุกคนทุกระดับมีหน้าที่ต้องรายงานสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยต่อนายจ้าง

9.) ติดตามผลความคืบหน้าเรื่องที่เสนอต่อนายจ้าง

10.) รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี รวมทั้งระบุปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการความปลอดภัย เมื่อปฎิบัติหน้าที่ครบหนึ่งปีเสนอต่อนายจ้าง

11.) ประเมินผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในการทำงานของสถานประกอบกิจการ

12.) ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยในการทำงานอื่นตามที่นายจ้างมอบหมาย

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการความปลอดภัยฯ คปอ. ถือเป็นทีมผู้ผลักดันการขับเคลื่อนนโยบายด้านความปลอดภัยในการทำงานเพื่อให้ทุกคนในบริษัทฯ มีสภาพความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยปราศจากอันตราย และบริหารงานให้เป็นไปตามเป้าหมายขององค์กร คือ การลดอุบัติเหตุในพื้นที่ให้เป็น 0 นั่นเอง


ข่าวการกำกับดูแลกิจการที่ดี+อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่นวันนี้

EGCO Group ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group คว้าประกาศนียบัตรรับรองการต่ออายุสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption: CAC) ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ตอกย้ำนโยบายการดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดีและนโยบายต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันที่เข้มแข็งทั่วทั้งองค์กร พร้อมทั้งได้ผลักดันให้พันธมิตร ตัวแทน และตัวกลางทางธุรกิจ เข้าใจและปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันอย่างถูกต้อง นางสาวสลิล ติระวัฒน์

ธนาคารกสิกรไทยประกาศแต่งตั้ง นายฉัตรชัย เ... กสิกรไทยแต่งตั้งกรรมการใหม่ 2 คน เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง — ธนาคารกสิกรไทยประกาศแต่งตั้ง นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย และนางสาวจิตสุภา วัชรพล เข้าเป็นคณะ...

นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหา... SJWD ผ่านการรับรองแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส — นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี...

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำ... เจียไต๋รับรางวัล CG Achievement Awards 2024 มุ่งสร้างวัฒนธรรมด้านธรรมาภิบาลเพื่อรากฐานสู่ความยั่งยืน — เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัต...

ครือสหพัฒน์ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนิ... "เครือสหพัฒน์" จัดสัมมนาเสริมบทบาทคณะกรรมการ ESG เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน — ครือสหพัฒน์ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภาย...

ก.ล.ต. จัดงานสัมมนา "Governance for Susta... ก.ล.ต. จัดงานสัมมนา "Governance for Sustainability - Instilling Governance for Sustainable Value Creation" — ก.ล.ต. จัดงานสัมมนา "Governance for Sustainab...

บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจ... NEX POINT ปรับทัพครั้งใหญ่ ตั้ง "ธนพัชร์ สุขสุธรรมวงศ์" ดำรงตำแหน่ง CO-CEO — บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายยานยนต์เชิงพาณิชย์พลังงานไฟฟ้า...