บลจ.ทิสโก้เสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส เฮลธ์แคร์ ชูจุดเด่นกระจายการลงทุนในหลากธุรกิจเฮลธ์แคร์ระดับโลกที่อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พร้อมเปิดสถิติหลังเลือกตั้งราคาหุ้นเฮลธ์แคร์มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจ ขณะที่ในระยะยาวผลประกอบการมีโอกาสเติบโตสูงจากสังคมสูงวัยและมักจะไม่ผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจ
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan Managing Director of TISCOASSET) เปิดเผยว่า จากกระแสสังคมสูงอายุที่เกิดขึ้นทั่วโลกทำให้นักลงทุนสนใจลงทุนในหุ้นเฮลธ์แคร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน บลจ.ทิสโก้มีกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นเฮลธ์แคร์ต่างประเทศแล้ว 4 กองทุน และเพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้ลูกค้า ล่าสุด บลจ.ทิสโก้ได้เปิดเสนอขายกองทุนหุ้นเฮลธ์แคร์เพิ่มอีก 1 กองทุนคือ กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส เฮลธ์แคร์ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (TUSHEALTH - A) และชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TUSHEALTH - SSF) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนใน The Health Care Select Sector SPDR (กองทุนหลัก) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทในหมวดอุตสาหกรรม Health Care ที่อยู่ในดัชนี S&P 500 เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 9 - 17 กันยายน 2567
สำหรับจุดเด่นของกองทุน TUSHEALTH คือ กระจายการลงทุนในหลากหลายธุรกิจเฮลธ์แคร์ ซึ่งล้วนแต่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งธุรกิจ Pharma, Biotechnology, Life Science, Provider&Service และEquipmen& Supplies ซึ่งช่วยให้พอร์ตการลงทุนไม่ผันผวนมากนักเมื่อเทียบกับการลงทุนกระจุกตัวในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งและข้อมูลจาก บลูมเบิร์กพบว่าแม้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจกำไรหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ไม่ผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจขณะที่ราคาหุ้นก็ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนี S&P500 ในช่วงที่ตลาดย่อตัวลง เช่น วิกฤตหุ้นเทคโนโลยี หรือ วิกฤต "Dot-Com" วิกฤตซับไพรม์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และวิกฤติสงครามยูเครนรัสเซีย เป็นต้น
นอกจากนี้ จังหวะการลงทุนในช่วงนี้ก็น่าสนใจโดยข้อมูลจาก Blackrock พบว่านับตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปี 2563 หลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ 12 เดือน หุ้นเฮลธ์แคร์สหรัฐฯ สร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 18.2% ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันดัชนี MCSI World ให้ผลตอบแทน 15.9% ด้านหุ้นที่กองทุนหลักเข้าลงทุนล้วนแต่เป็นหุ้นเฮลธ์แคร์ขนาดใหญ่ที่มีผลิตภัณฑ์และบริการเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เช่น บริษัท Eli Lilly ผลิตภัณฑ์ขายดี เช่น ยาปากกาลดความอ้วน อัตราการเติบโตของกำไรในช่วง 10 ปีอยู่ที่ 25.86% ต่อปี บริษัท Merck ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง เช่น Molnupiravir ยารักษาโรค COVID -19 อัตราการเติบโตของกำไรในช่วง 10 ปีอยู่ที่ 19.44% ต่อปี บริษัท Johnson & Johnson ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ Tylenol อัตราการเติบโตของกำไรในช่วง 10 ปีอยู่ที่ 5.36% ต่อปี เป็นต้น
พิเศษ สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ลงทุนกองทุน TUSHEALTH ตั้งแต่วันที่ 9-17 กันยายน 2567 ยอดเงินลงทุนรวม 50,000 บาทขึ้นไป รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุน A (TSF-A) มูลค่า 100 บาท (1 ท่านต่อ 1 สิทธิ)
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนกองทุนรวม SSF ก่อนตัดสินใจลงทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกองทุน กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds??
บลจ.ทิสโก้เปิดกอง TUSUTIL ลงทุนธุรกิจสาธารณูปโภคสหรัฐฯ คาดผลประกอบการโตเด่น รับกระแส AI และ Data Center
บลจ.ทิสโก้ปลื้มกองทุน TGSMART สุดฮอต ลูกค้าสนใจลงทุนฝ่าความผันผวน ประกาศเพิ่มทุนเป็น 2,000 ล้านบาท
บลจ.ทิสโก้เปิด TGSMARTRMF โต้ความผันผวน กระจายสินทรัพย์ลงทุน ปรับสัดส่วนตามภาวะตลาด
กลุ่มบุญรอด แต่งตั้ง บลจ.ทิสโก้ บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
บลจ.ทิสโก้เพิ่มทุน TCHTECH เป็น 5,000 ล้านบาท รับกระแสหุ้นเทคฯ จีนกลับมาบูม หลังแรงกดดันการค้าจีน - สหรัฐฯ ลดลง
บลจ.ทิสโก้สู้สุดตัว โชว์ฝีมือเลือกหุ้น บริหารกองทริกเกอร์หุ้นไทยถึงเป้าหมาย สร้างผลตอบแทนกอง TACTIVET7M1 เข้าเป้า 7% ใน 4 เดือน 16 วัน
บลจ.ทิสโก้พร้อมเสิร์ฟกองทุนใหม่ TGSMART ชูจุดเด่น กระจายสินทรัพย์ลงทุน - ปรับสัดส่วนตามภาวะตลาด
AUCT รับรางวัล TISCO PVD Best Employer Award 2025
SCG แต่งตั้ง บลจ.ทิสโก้ บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ