DCCE ร่วมกับ ทช. และ UNDP ปิดโครงการ "การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งตามแนวอ่าวไทย" พร้อมขยายผลความสำเร็จ Best practices สู่ 18 จังหวัดตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย
 
                                                                                                                                        กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (DCCE) ร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) จัดพิธีปิด "โครงการการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งตามแนวอ่าวไทย" แสดงผลสำเร็จโครงการฯ สร้างความร่วมมือ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ พร้อมขยายผลความสำเร็จ Best practices 4 จังหวัดนำร่อง สู่ 18 จังหวัดตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย โดยมี ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน พร้อมด้วย Ms. Irina Goryunova รองผู้แทนประจำโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทย และ ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) กรุงเทพมหานคร ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากรายงาน Global Climate Risk Index ของ German watch ในปี 2565 พบว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงภัยต่อการได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ จัดอยู่ในอันดับที่ 9 ของโลก โดยผลกระทบนี้สะท้อนให้เห็นถึงความถี่และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของน้ำท่วม พายุ และคลื่นความร้อน ทำให้ความเสี่ยงและความเปราะบางของทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งมีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบนิเวศแนวปะการัง ป่าชายเลน และหญ้าทะเล เหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งนิเวศบริการที่สำคัญให้กับชุมชนชายฝั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชนชายฝั่งที่พึ่งพิงฐานทรัพยากรเพื่อการเกษตรกรรม ประมง และท่องเที่ยว ยื่งทำให้ความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับประเทศไทยมีชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ครอบคลุมพื้นที่ 18 จังหวัด มีความยาวประมาณ 3,148 กิโลเมตร ด้วยเหตุนี้ พื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งบริเวณอ่าวไทย จึงได้รับการพิจารณาให้เป็นพื้นที่เป้าหมายที่จะต้องเสริมสร้างศักยภาพด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสร้างการมีภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมมือกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ดำเนิน "โครงการการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งตามแนวอ่าวไทย (Increasing resilience to climate change impacts in marine and coastal areas along the Gulf of Thailand)" ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนภูมิอากาศสีเขียว Green Climate Fund (GCF) จำนวนเงิน 3,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ดำเนินการในพื้นที่ 18 จังหวัดตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย ใน 4 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ จังหวัดระยอง จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสงขลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2563 - 2567 เป็นระยะเวลา 4 ปี
                                                             
                                                                                                                            
ดร.พิรุณ กล่าวต่อว่า จากความร่วมมือในการดำเนินโครงการจึงทำให้เกิดเป็นความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 1) ข้อมูลความเสี่ยงระดับพื้นที่บริเวณพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทยในจังหวัดนำร่อง 4 จังหวัด ได้แก่ ระยอง เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี และสงขลา 2) พัฒนาขีดความสามารถและองค์ความรู้ให้กับหน่วยงานระดับจังหวัดและระดับท้องถิ่น เพื่อจัดทำแผนการปรับตัว ฯ ที่สอดคล้องกับความเสี่ยงในพื้นที่ 3) มาตรการทางเลือกที่ใช้ในกระบวนการปรับตัว เช่น ธนาคารสัตว์น้ำ ซั้งปลา กำแพงกั้นคลื่น การฟื้นฟูและอนุรักษ์พื้นที่ป่าชายเลน เพื่อให้หน่วยงานระดับพื้นที่ทราบถึงความต้องการการสนับสนุนสำหรับการดำเนินงานของพื้นที่ 4) พัฒนาตัวชี้วัดด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำหรับภาคการท่องเที่ยว การเกษตรและการประมง และทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการบูรณาการสู่แผนพัฒนาจังหวัด 5) แพลตฟอร์มการบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารและระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) 6) กลยุทธ์การจัดหาเงินทุนสำหรับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่ง (ภาคการท่องเที่ยว ภาคการเกษตรและประมง และทรัพยากรธรรมชาติ)สำหรับแนวทางในการบูรณาการ ขยายผลการดำเนินงานสู่แผนงานในอนาคต โดยข้อมูลที่ได้จากโครงการ ฯ จะเป็นข้อมูลสำคัญในการแก้ไขหรือปรับปรุงแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติในระยะต่อไป รวมถึงการจัดทำแผนปฏิบัติการการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้ง ๖ สาขา ที่จะดำเนินงานในระยะถัดไป อีกทั้งได้แนวทางการปฏิบัติที่ดี (best practices) จากพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัด นำไปขยายผลการดำเนินงานสู่ 18 จังหวัดตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย ตลอดจนขับเคลื่อนไปสู่การดำเนินงานในระดับพื้นที่ และที่สำคัญหลังจากนี้ จะต้องมีการขับเคลื่อนการบูรณาการระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ประชาชน เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากโครงการฯ และจากหลายภาคส่วน มาเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานขับเคลื่อนเรื่องการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และร่วมกันรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่สืบไป
 
                             อ.อ.ป. ร่วมประชุมภาคีป่าไม้แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 20 (UNFF20)
                            อ.อ.ป. ร่วมประชุมภาคีป่าไม้แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 20 (UNFF20)
                         ครั้งแรก! มิสทินปฏิวัติวงการเปิดตัวกันแดดเวอร์ชั่น 2025 MISTINE Aqua V ไร้สารกันเสีย กล้าท้าแดดตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
                            ครั้งแรก! มิสทินปฏิวัติวงการเปิดตัวกันแดดเวอร์ชั่น 2025 MISTINE Aqua V ไร้สารกันเสีย กล้าท้าแดดตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
                         จุฬาฯ จับมือ The Ocean Cleanup ใช้กล้องและ AI วิเคราะห์ปริมาณและเส้นทางขยะในแม่น้ำ หวังวางแนวทางการจัดการขยะก่อนออกทะเล
                            จุฬาฯ จับมือ The Ocean Cleanup ใช้กล้องและ AI วิเคราะห์ปริมาณและเส้นทางขยะในแม่น้ำ หวังวางแนวทางการจัดการขยะก่อนออกทะเล
                         พะยูนลดลง สัญญาณเตือนจากท้องทะเลไทย
                            พะยูนลดลง สัญญาณเตือนจากท้องทะเลไทย
                         Dow หนุนกรมทะเล รณรงค์เก็บขยะและฟื้นฟูชายฝั่ง เชื่อมโยงสู่เป้าหมายความยั่งยืนระดับโลก
                            Dow หนุนกรมทะเล รณรงค์เก็บขยะและฟื้นฟูชายฝั่ง เชื่อมโยงสู่เป้าหมายความยั่งยืนระดับโลก
                         มิสทิน x กรมทะเล ยกทัพรักษ์ทะเลไทย จัดกิจกรรมใหญ่ฉลองวันทะเลโลก ลุยดำน้ำเก็บขยะฟื้นฟูแนวปะการัง
                            มิสทิน x กรมทะเล ยกทัพรักษ์ทะเลไทย จัดกิจกรรมใหญ่ฉลองวันทะเลโลก ลุยดำน้ำเก็บขยะฟื้นฟูแนวปะการัง
                         มิสทิน ร่วมกับ ทช. เดินหน้าโครงการยกเลิกการใช้สารที่เป็นอันตรายต่อปะการัง
                            มิสทิน ร่วมกับ ทช. เดินหน้าโครงการยกเลิกการใช้สารที่เป็นอันตรายต่อปะการัง
                         ความร่วมมือครั้งสำคัญ MOU ต่อเนื่อง มิสทิน จับมือ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เดินหน้าโครงการ CSR ยกระดับผลิตภัณฑ์กันแดดที่เป็นมิตรต่อทะเลและปะการัง
                            ความร่วมมือครั้งสำคัญ MOU ต่อเนื่อง มิสทิน จับมือ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เดินหน้าโครงการ CSR ยกระดับผลิตภัณฑ์กันแดดที่เป็นมิตรต่อทะเลและปะการัง