ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดรายละเอียดคุณสมบัติและเงื่อนไขผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40 ที่ต้องการยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อ หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ผ่านโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 จากความร่วมมือของกระทรวงการคลัง โดย ธอส. และกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม เพื่อรับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี โดยผู้ประกันตนที่สนใจสามารถลงทะเบียนขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตนจากสำนักงานประกันสังคม ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป เพื่อนำมาประกอบการยื่นขอสินเชื่อที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือก่อนกำหนดระยะเวลาดังกล่าว หาก ธอส.ให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ได้ดำเนินการตามนโยบายของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในการช่วยเหลือผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมให้มีบ้านเป็นของตนเอง โดยมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานประกันสังคมและธนาคารอาคารสงเคราะห์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ขณะนี้ ธอส. ได้เตรียมความพร้อมรองรับการขอสินเชื่อของผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40 โดยผู้ประกันตนที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน และลงลำดับคิวเพื่อรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ผ่านทาง Application SSO PLUS ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 และนำเอกสารส่วนตัว เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารหลักประกันมายื่นขอสินเชื่อกับ ธอส. ได้ภายในระยะเวลาที่ระบุในหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน โดยเริ่มยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกันตนเข้าถึงสินเชื่อดังกล่าว
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ประกันตนควรตรวจสอบคุณสมบัติและเงื่อนไขก่อนเข้าร่วมโครงการ ดังนี้
สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 หรือ 40 ที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือก่อนกำหนดระยะเวลาดังกล่าว หาก ธอส.ให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว โดยจะได้รับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรกเพียง 1.59% ต่อปี, ปีที่ 6 - 8 เท่ากับ MRR - 2.00% ต่อปี และปีที่ 9 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR - 0.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) เพื่อซื้อหรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ภายใต้วงเงินกู้ตามโครงการสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับวงเงินกู้ส่วนที่เกิน 2 ล้านบาท สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยผลิตภัณฑ์สินเชื่ออื่นของธนาคารได้ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th
หนุนกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัย กระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวดีขึ้น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ในการกระตุ้นภาค อสังหาริมทรัพย์ให้ขยายตัวดีขึ้น ผ่านการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ด้วยการเตรียมกรอบวงเงิน 3,000 ล้านบาท จัดทำสินเชื่อบ้าน Premier Home อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.79% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 2.70% สำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA / MLTA)
5 ปี ติดต่อกัน! ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร ธอส. ปี 2567 ในระดับ AAA และแนวโน้มอันดับเครดิตที่ระดับคงที่ ตอกย้ำสถานะทางการเงินที่มั่นคงและแข็งแกร่ง
—
ธนาคารอาคาร...
โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน สปส.และ ธอส.
—
คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย คุณพิพัฒน์ รัชกิจป...
ธอส. ขนโปรโมชั่น สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรกเพียง 3% ต่อปี ร่วมงาน "Thailand Smart Money ระยอง ครั้งที่ 6" ระหว่างวันที่ 23-25 มิ.ย.2566
—
ธนาคารอาคาร...
ธอส. ขอขอบคุณผู้ประกันตน มาตรา 33 ตอบรับโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน หลังเต็มกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาทแล้ว
—
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป...