สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)ร่วมกับ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อประชุมเชิงปฏิบัติการ การออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ซึ่งจังหวัดลำปาง เป็นหนึ่งใน 5 จังหวัดนำร่องที่จะดำเนินการในปี 2567 โดยจะดำเนินการขับเคลื่อนผ่าน 3 ประเด็นหลัก คือ การแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมสูงวัย และการปรับตัวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมเซรามิกสร้างสรรค์
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ระบุว่า จังหวัดลำปางได้กำหนดนโยบายให้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดลำปาง เพื่อใช้เป็นกรอบในการกำหนดทิศทาง แนวทางการดำเนินการในการพัฒนาจังหวัดให้สอดคล้องกับการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนปฏิรูปประเทศ นโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์การพัฒนาภาค ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน และการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่ครอบคลุมการพัฒนาในทุกมิติ เน้นการบูรณาการวิเคราะห์ความพร้อมและทิศทางในอนาคต ความเชื่อมโยงในทุกระดับตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงในระดับชาติ และความต้องการของพื้นที่ครอบคลุม 13 อำเภอ
"โดยทาง จ.ลำปาง มีเป้าหมายในการพัฒนาจังหวัดภายใต้วิสัยทัศน์ ลำปาง เมืองแห่งความสุข 2 มิติ Livable & Smart City ด้วยการผสมผสานมนต์เสน่ห์แห่งความเป็นเมืองเก่า ย้อนยุคทางประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 1,300 ปี เชื่อมโยงไปสู่มิติเมืองใหม่อย่างลงตัว เป็นเมืองอัจฉริยะ เมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยเพิ่มประสิทธิภาพของการบริการและการบริหารจัดการเมือง นำไปสู่การพัฒนาเมืองน่าอยู่ เมืองทันสมัย ให้ประชาชนในเมืองมีคุณภาพที่ดี มีความสุขอย่างยั่งยืน ซึ่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาให้มีความก้าวหน้าจะเป็นส่วนสำคัญของ จ.ลำปาง พร้อมทั้งขอบคุณสภาพัฒน์ฯ และ สกสว. ที่เข้ามาช่วยใน 3 ประเด็นสำคัญนี้ เพราะหากเราสามารถพัฒนาคนของเราที่มีภูมิปัญญาอยู่แล้ว และส่งเสริมศักยภาพเรื่องการใช้เทคโนโลยีเพิ่มเติม ก็จะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดได้"
รศ. ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า สกสว. กับ สศช. ได้มีการลงนามความร่วมมือ ภายใต้กรอบแผนงานความร่วมมือ พ.ศ. 2567 - 2570 ระยะ 4 ปี ที่มุ่งส่งเสริมให้การขับเคลื่อนแผนฯ 13 ด้วย ววน.ให้เกิดขึ้นได้จริง ด้วยการทำหน้าที่เป็นช่างเชื่อมเพื่อหนุนเสริมพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม 1. เชื่อมโยงองค์ความรู้ ววน. เพื่อวิเคราะห์และออกแบบโมเดลการขับเคลื่อน 2. เชื่อมโยงภาคีการพัฒนาให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่ตำบล 3. เชื่อมโยงสู่นโยบายและยุทธศาสตร์ระดับประเทศ และ 4. เชื่อมโยงตำบลต้นแบบ ผ่านระบบแสดงผลการขับเคลื่อนแผนฯ 13 ระดับพื้นที่และตำบล เพื่อหนุนเสริมพื้นที่ นำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ 1. ลำปาง 3 ประเด็นสำคัญ 2. สระบุรี 3. สตูล 4. บึงกาฬ และ 5. พื้นที่ EEC ที่จะดำเนินการในปี 2567 ด้วยการนำข้อมูลการสังเคราะห์ผลงาน ววน. มาใช้ในการแก้ปัญหา ยกระดับการพัฒนาตามโจทย์ประเด็นการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่และระดับนโยบาย ให้สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจและพัฒนากลไกสำหรับกำหนดทิศทางขับเคลื่อนนโยบาย แผนพัฒนาประเทศ นำไปสู่การถอดบทเรียนการขยายผลในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
"สกสว. ตั้งใจเป็นหน่วยหนุนเสริมด้วยการนำ ววน. มาใช้ในการขับเคลื่อน เพื่อให้ส่วนราชการทำหน้าที่ตามบทบาทได้ดีขึ้น ถ้าเรามองเป้าหมายของจังหวัดอีกแบบ และเป้าหมายของส่วนงานอีกแบบหนึ่ง อาจทำให้เกิดการ ปรับรูปแบบการจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสม ได้ชุดความรู้การขับเคลื่อนงานระหว่างภาคส่วนราชการและส่วนวิชาการ เป็นบทเรียนที่อาจนำไปสู่การออกแบบของ สศช. และสำนักงบประมาณได้ต่อไป"
ขณะที่ นางสาวปฏิมา จงเจริญธนาวัฒน์ ผู้อำนวยการกองศึกษาและวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ สศช. กล่าวถึง แนวทางการขับเคลื่อนแผนในพื้นที่ ผ่าน 3 กลไกสำคัญ ประกอบด้วย 1. กลไกเชิงยุทธศาสตร์ 2. กลไกตามภารกิจ และ 3. กลไกระดับพื้นที่ ที่จะเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันให้ตรงตามความต้องการของศักยภาพพื้นที่ โดยมุ่งหวังให้การขับเคลื่อนเห็นผลในระดับตำบล ที่มีประเด็นปัญหา/ความต้องการที่สอดคล้องกับแผนฯ 13 และแผนด้าน ววน. มีกลไกในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการร่วมขับเคลื่อน และมีผลงาน ววน. ที่สามารถเชื่อมโยงต่อยอดใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนได้ ซึ่ง จ.ลำปาง เป็นหนึ่งในบริบทของพื้นที่นำร่อง ที่ได้มีการเลือกประเด็นด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลจากส่วนต่าง ๆ นำมาสู่ 3 ประเด็นขับเคลื่อนด้วย ววน. ผ่านหน่วยบริหารและจัดการทุน (PMU) และสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ที่มีบทบาทในการสนับสนุนองค์ความรู้ รับผิดชอบ กำกับดูแล และเชื่อมโยงภาคีเครือข่ายร่วมดำเนินการระหว่าง ชุมชน เอกชน/สถานประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคม ซึ่งทาง สศช. ตั้งใจขับเคลื่อน จ.ลำปาง แบบไร้รอยต่อ
ทั้งนี้ ความร่วมมือระยะ 4 ปี ระหว่าง สศช. และ สกสว. พ.ศ. 2567 - 2570 เพื่อขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และจุดประกายการมีส่วนร่วมของหน่วยงานต่าง ๆ จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ทุกภาคส่วนสามารถร่วมเป็นพลังของการขับเคลื่อนประเทศ ที่จะนำไปสู่การพลิกโฉมประเทศไทยได้
วว. โชว์ศักยภาพศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ ในงาน "Future Food Future Opportunity โอกาสใหม่อาหารไทยด้วยพลังพันธมิตร"
กรมประมง..จัดเวิร์คช็อปทำแผน "นวัตกรรมและการลงทุน" นำร่องยกระดับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของไทย ภายใต้ความร่วมมือ FAO และ NACA
สกพอ. โชว์ความพร้อมให้บริการนักลงทุนแบบครบวงจร เดินหน้าส่ง "EEC OSS" ให้บริการออกใบอนุญาตออนไลน์ได้จริง ภายใต้คอนเซ็ปต์ EEC Ready
กรมอนามัย หนุน สิทธิสุขภาพผู้พิการอย่างเท่าเทียม และไม่เลือกปฏิบัติ มอบรางวัล 8 หน่วยงาน 2 บุคคลต้นแบบ ร่วมส่งเสริมสุขภาพผู้พิการ
กรมอนามัย-ภาคีเครือข่าย พร้อมรับมือทุกความท้าทาย เพื่อพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีแบบยั่งยืน
กรมอนามัย-ภาคีเครือข่าย มุ่งเป้า สร้างพลเมืองปลอด NCDs ชูวิสัยทัศน์ "สุขภาพดีทุกกลุ่มวัย"
กรมอนามัย จับมือเครือข่ายเดินหน้านโยบาย ส่งเสริมสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อมเขตสุขภาพที่ 2
กระทรวงดีอี อัดงบ 69 พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ปูพรมภาคการผลิต หนุนพัฒนา AI เพิ่มขีดแข่งขันประเทศไทย
อาหารและน้ำปลอดภัยอย่างยั่งยืน กรมอนามัย จับมือ 5 หน่วยงาน เร่งจัดการคุณภาพน้ำทั้งระบบ เพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดี