ไบเออร์เริ่มโครงการ ForwardFarm ในประเทศอินเดียเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลดีของการปฏิรูปเกษตรกรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

  • ขับเคลื่อนการปฏิรูปเกษตรกรรมในภูมิภาคเอเชียผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ
  • อนาคตของการทำการเกษตรเริ่มขึ้นแล้วในเมืองปานิปัต Panipat
  • สร้างเครือข่ายทั่วโลกเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น

ไบเออร์ได้เริ่มโครงการ Bayer ForwardFarming ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มระดับโลกที่ประเทศอินเดีย โดยเป็นโครงการ ForwardFarms ใหม่ล่าสุดจากทั้งหมด 29 แห่งทั่วโลก ForwardFarm แต่ละแห่งถือเป็นสัญญาณของการทำการเกษตรอย่างยั่งยืนที่ให้พื้นที่เกษตรกร นักวิจัย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำหรับการทำงานร่วมกันและแบ่งปันความรู้ Bayer ForwardFarm ในประเทศอินเดียจะแสดงเทคนิคในการทำการเกษตรที่ล้ำสมัยและปรับให้เข้ากับความต้องการของเกษตรกรรายย่อยกว่า 150 ล้านรายในประเทศ โดยมุ่งเน้นไปที่การเพาะปลูกข้าวอย่างยั่งยืนและส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบการปฏิรูปเกษตรกรรม

ไบเออร์เริ่มโครงการ ForwardFarm ในประเทศอินเดียเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลดีของการปฏิรูปเกษตรกรรม

Natasha Santos หัวหน้าฝ่ายดูแลด้านการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืนและเชิงกลยุทธ์ที่ไบเออร์ กล่าวว่า "สิ่งสำคัญที่เราดำเนินการคือเพื่อสร้างคุณค่าให้กับเกษตรกร เราตื่นเต้นที่จะได้นำโครงการ Bayer ForwardFarming ไปใช้ในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก เราส่งเสริมและให้การสนับสนุนแก่เกษตรกรรายย่อยโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาความยั่งยืนและผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงทางอาหารให้กับพวกเราทุกคน"

การทำนาหว่าน การปลูกข้าวโดยการหว่าน: แนวทางที่ครอบคลุมและนำไปสู่ระบบการปฏิรูปเกษตรกรรม

สำหรับไบเออร์แล้ว การปฏิรูปเกษตรกรรมเป็นรูปแบบการผลิตพืชผลที่เน้นไปที่ผลลัพธ์เป็นหลัก ซึ่งคำนึงถึงการปรับปรุงคุณภาพดินเป็นสำคัญ โดยมีเป้าหมายหลักเป็นการเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัว รวมถึงการบรรเทาปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การรักษาหรือฟื้นคืนความหลากหลายทางชีวภาพ การอนุรักษ์น้ำ และการเพิ่มผลผลิต การนำวิธีปฏิบัติหลายอย่างเกี่ยวกับเกษตรกรรมฟื้นฟูมาใช้ร่วมกันมีจุดมุ่งหมายในท้ายที่สุดเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในแง่ของเศรษฐกิจและสังคมให้กับเกษตรกรและชุมชน

การปฏิรูปเกษตรกรรมในประเทศอินเดียมีศักยภาพค่อนข้างสูงโดยเฉพาะในด้านการเพาะปลูกข้าวเนื่องจากเป็นประเทศผู้ผลิตข้าวที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ความต้องการในการสร้างระบบในการเพาะปลูกข้าวที่ยั่งยืนและอยู่รอดได้ในทางเศรษฐกิจกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การผลิตข้าวไม่เพียงแต่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ แต่ยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวด้วย การทำนาหว่าน (Direct Seeded Rice (DSR) ของไบเออร์เป็นตัวอย่างที่ครอบคลุมและจับต้องได้มากที่สุดของการนำระบบการปฏิรูปเกษตรกรรมไปใช้จริง โดย DSR เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์เกือบทุกอย่างของการปฏิรูปเกษตรกรรมที่ไบเออร์กำลังให้ความสำคัญ เช่น การปรับปรุงคุณภาพดิน การลดปริมาณการใช้น้ำ และการเพิ่ม ความสามารถ ในการฟื้นตัว ต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ

การปรับเปลี่ยนจากการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีการดำนาไปเป็นการทำนาหว่าน DSR ช่วยให้เกษตรกรลดการใช้น้ำได้สูงสุด 30-40 เปอร์เซ็นต์ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ลงสูงสุด 45 เปอร์เซ็นต์ และช่วยให้เกษตรกรลดการพึ่งพาแรงงานที่หาได้ยากและราคาแพงลงได้สูงสุด 40-50 เปอร์เซ็นต์ เฉพาะในประเทศอินเดีย การทำเช่นนี้อาจช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้สูงสุดถึง 82 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และลดการใช้น้ำลงได้สูงสุดถึง 1.67 แสนล้านลูกบาศก์เมตร ภายในปี 2583 การนำระบบ DSR มาใช้สอดคล้องอย่างมากกับแนวทางของไบเออร์ต่อการปฏิรูปเกษตรกรรม ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีผลผลิตมากขึ้นไปพร้อมๆ กับการปฏิรูปไบเออร์ได้มอบระบบด้านการดูแลพืชผลที่ปรับให้ตรงกับความต้องการให้แก่เกษตรกร

ผ่านโครงการ DirectAcres flagship project ของไบเออร์ ซึ่งมีเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุด ผลิตภัณฑ์อารักขาพืช เครื่องมือดิจิทัล บริการด้านการใช้เครื่องจักรในการเกษตร และโซลูชันด้านวิทยาการพืชไร่ ความพยายามเหล่านี้ได้รับการขับเคลื่อนโดยพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อให้แน่ใจว่าเกษตรกรจะมีกำไรจากการเก็บเกี่ยวข้าวด้วยการปฏิรูปดังกล่าว

ปีที่แล้ว เกษตรกรชาวอินเดีย 5,000 รายได้ทำการปลูกข้าวแบบการทำนาหว่านได้สำเร็จในพื้นที่ 8,600 เฮกตาร์ ในโครงการ DirectAcres  ไบเออร์จะให้การสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยกว่า 1 ล้านคนในประเทศอินเดียผ่านโครงการ DirectAcres ภายในปี 2573 นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะนำโครงการ DirectAcres ไปใช้ในประเทศที่มีการเพาะปลูกข้าวประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยจะเริ่มที่ประเทศฟิลิปปินส์

โซลูชันที่ออกแบบเพื่อการเกษตรของอินเดียโดยเฉพาะ

Ved Prakash Saini พันธมิตรรายแรกของ ForwardFarm ในประเทศอินเดีย ได้แสดงมุมมองในเชิงบวกเกี่ยวกับความร่วมมือในครั้งนี้ "ผมคาดหวังว่าการทำการปฏิรูปการเกษตรที่ไบเออร์แนะนำผ่านโครงการ Bayer ForwardFarming จะนำไปสู่ผลผลิตทางการเกษตรและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างมากพร้อมกับทำให้การทำการเกษตรเป็นไปอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น การใช้เทคนิคการปลูกข้าวโดยการทำนาหว่านและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมีศักยภาพในการพัฒนาคุณภาพของพืชไร่ ลดการใช้น้ำ และเพิ่มประสิทธิผลได้ ผมตั้งตารอที่จะได้เห็นประโยชน์เหล่านี้ด้วยตัวเองในขณะที่เราทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความสามารถในการฟื้นตัวและอนาคตที่รุ่งเรืองสำหรับการเกษตร"

Bayer ForwardFarm ในอินเดีย ซึ่งมีพื้นที่กว่า 18 เฮกตาร์ มีความพิเศษเนื่องจากเป็นที่รวบรวมด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเกษตรกรรายย่อยโดยเฉพาะ โดยพื้นที่ดังกล่าวได้มีการนำวิธีปฏิบัติต่อไปนี้มาใช้

  • นาหว่าน (DSR): ทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับการปลูกข้าวแบบดั้งเดิมที่ลดการรบกวนดิน ลดปริมาณการใช้น้ำ และเพิ่มคุณภาพดิน
  • การจัดการวัชพืชอย่างทันสมัย: กลยุทธ์ในการควบคุมวัชพืชที่ล้ำสมัยที่ช่วยลดการพึ่งพาสารกำจัดวัชพืชที่เป็นสารเคมีพร้อมกับรักษาสุขภาพของพืชไร่
  • ระบบวิทยาการพืชไร่ที่กำหนดเองได้: โซลูชันที่ปรับให้เหมาะกับสภาพทางภูมิอากาศและประเภทดินที่หลากหลายเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและคุณภาพดิน
  • ฟาร์มคาร์บอน: วิธีปฏิบัติที่มุ่งเน้นในการจับและกักเก็บคาร์บอนในพื้นดิน ซึ่งช่วยลดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
  • การจัดการสารอาหารและน้ำ: เทคนิคที่ทันสมัยในการเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้สารอาหารและน้ำ ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรพร้อมทั้งลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม
  • ปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนดินและ IoT: การใช้ปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนดินเพื่อเพิ่มคุณภาพดินควบคู่กับเทคโนโลยี IoT เพื่อการติดตามและการจัดการกระบวนการทางการเกษตรที่แม่นยำ
  • เทคโนโลยีในการให้น้ำและโดรน: เทคนิคในการให้น้ำและเทคโนโลยีเกี่ยวกับโดรนที่ทันสมัยเพื่อการใช้น้ำที่มีประสิทธิภาพและการจัดการพืชผลที่แม่นยำ

Simon Wiebusch ประธานบริษัทไบเออร์ในภูมิภาคเอเชียใต้ กล่าวว่า "ที่ไบเออร์ เรามองเห็นอนาคตของการปฏิรูปการเกษตรที่จะฟื้นฟูและส่งเสริมเรื่องของสิ่งแวดล้อม การเปิดตัวโครงการ Bayer ForwardFarming ในประเทศอินเดียถือเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องนี้ เราได้เสนอรูปแบบต่างๆที่ปรับให้เหมาะสมกับเกษตรกร เครื่องมือและแนวทางปฏิบัติที่ทันสมัย มาตรการเชิงรุกในการดูแลอย่างมีความรับผิดชอบ และการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ให้แก่เกษตรกร โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มผลผลิต และปรับปรุงคุณภาพและผลผลิตทางการเกษตรไปพร้อมๆ กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เรามุ่งมั่นส่งเสริมเกษตรกรให้ใช้วิธีปฏิบัติที่ยั่งยืนเพื่อสร้างภาคการเกษตรที่ปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ได้ในประเทศอินเดีย"


ข่าวปฏิรูปเกษตรกรรม+ประเทศอินเดียวันนี้

FPI ยิ้ม! โรงงานอินเดียออเดอร์ทะลักกำลังผลิตพุ่ง! รับอานิสงส์ Made in India ดัน Backlog แตะ 1,000 ลบ. เล็งซื้อที่ดินเพิ่ม รองรับแผนขยายเฟสใหม่

บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) สุดปัง! โรงงานอินเดียคึกคัก เดินหน้าผลิตเต็ม Capacity ขานรับนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมของรัฐบาลอินเดีย Make in India หนุนออเดอร์ทะลัก ฟากบิ๊กบอส "สมพล ธนาดำรงศักดิ์" ระบุ เตรียมติดตั้งเครื่องจักรใหม่ ดัน Backlog แตะ 1,000 ล้านบาท เล็งพิจารณาหาที่ดินเพิ่ม รองรับแผนขยายเฟสใหม่ นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยว่า โรงงานบริษัทร่วมทุน FPI Auto Parts India Private Limited ในประเทศอินเดีย สามารถ

บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ... Thailand Privilege Card ดึง "Sonu Sood" ดาราบอลลีวูดชื่อดังนั่งแท่น Friends of Thailand คนล่าสุด — บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี ผู้ดำเ...

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ เดินหน้าขยายเครือข่ายเส... เวียตเจ็ทไทยแลนด์ เริ่มเที่ยวบินปฐมฤกษ์ "ภูเก็ต - มุมไบ" เสริมเครือข่ายเส้นทางบินสู่อินเดีย — เวียตเจ็ทไทยแลนด์ เดินหน้าขยายเครือข่ายเส้นทางบินสู่ประเทศอิ...

บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำก... SNPS ชูสารสกัดธรรมชาติไทยสู่เวทีโลก ในงาน Cosmohome Tech Expo 2025 — บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNPS ร่วมกับ Mascot Spincont...

ก.เกษตรฯ รับมอบข้อเสนอเชิงนโยบายปฏิรูปเกษตรกรรม

กระทรวงเกษตรฯ รับข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการปฏิรูปภาคเกษตรกรรมจากสภาเกษตรกรแห่งชาติ พร้อมสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างรัฐบาล สภาเกษตรกรแห่งชาติ และชุมชนเกษตรกรให้เกิดความเข้มแข็ง หนุนการมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ พร้อมส่งเสริมการลงทุนและใช้วัตถุดิบภายในประเทศ...