PwC ประเทศไทย เผยกระแสการเปลี่ยนแปลงในสถานที่ทำงานส่งผลให้ความพึงพอใจต่องานของลูกจ้างลดลง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

แรงงานไทย 64% กล่าวว่าค่าจ้างที่เป็นธรรม-เทคโนโลยีที่ดีขึ้น-โอกาสในการก้าวหน้าจะช่วยให้พวกเขาทำงานได้ดีขึ้น

PwC ประเทศไทย เผยกระแสการเปลี่ยนแปลงในสถานที่ทำงานส่งผลให้ความพึงพอใจต่องานของลูกจ้างลดลง

กรุงเทพฯ, 27 กันยายน 2567 - PwC ประเทศไทย เผยผลสำรวจล่าสุดพบแรงงานไทยมีความพึงพอใจต่อสถานที่ทำงานของตนลดลงในปีนี้หลังเผชิญแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ และปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ลูกจ้างมากกว่าครึ่งชี้ว่าโอกาสในการเรียนรู้จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจอยู่หรือลาออกจากงานในอนาคต

รายงานผลสำรวจความหวังและความกังวลของกำลังแรงงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2567 ฉบับประเทศไทย ของ PwC ระบุว่า 65% ของกำลังแรงงานชาวไทยที่ถูกสำรวจจากจำนวนทั้งหมด 1,000 คน แสดงความพึงพอใจต่องานที่พวกเขาทำอยู่ในปีนี้ หรือลดลง 14% จากการสำรวจปีก่อนที่ 79% ขณะที่ 45% ต้องการขอเพิ่มเงินเดือน 35% ต้องการเลื่อนตำแหน่ง และ 28% ต้องการที่จะเปลี่ยนนายจ้าง 

ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญมาจากแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมกันซึ่งส่งผลให้แรงงานรู้สึกทั้งตื่นเต้นและกังวล โดย 79% กล่าวว่าตนเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในที่ทำงานในปีที่ผ่านมาสูงกว่าเมื่อช่วง 12 เดือนก่อนหน้า เปรียบเทียบกับแรงงานในเอเชียแปซิฟิกที่ 68% และ 60% ยอมรับว่าภาระงานของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ดร. ภิรตา ภักดีสัตยพงศ์ หุ้นส่วนสายงานที่ปรึกษา บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวว่า การยกระดับและพัฒนาทักษะใหม่ ๆ จะช่วยให้แรงงานมีความมั่นใจต่อความสามารถในการทำงานของตนมากขึ้นและคลายความกังวลต่อการเข้ามาของเทคโนโลยีเกิดใหม่

"ในปัจจุบันมีหลาย ๆ งานหรือหลาย ๆ กิจกรรมที่สามารถใช้เทคโนโลยีมาทำแทนได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานที่ต้องทำซ้ำ ๆ งานประเภท tracking หรืองาน data entry และ processing ซึ่งหากแรงงานมีการอัปสกิลตัวเอง ก็ไม่ต้องกังวลว่างานของตนจะถูกแทนที่หรือไม่" ดร. ภิรตา กล่าว

ทั้งนี้ ทักษะด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence: AI) และระบบออโตเมชัน ถือเป็นทักษะที่สำคัญอันดับต้น ๆ ที่ควรพัฒนา รวมไปถึงทักษะทางด้านอารมณ์ เช่น การคิดเชิงวิพากษ์ (critical thinking) การสื่อสาร การทำงานร่วมกัน และการปรับตัว เธอ กล่าว

แรงงานไทยมากกว่า 70% นำ AI มาใช้ในการทำงานสูงขึ้น 

ผลจากการสำรวจยังพบว่า แรงงานชาวไทย 73% กล่าวว่าตนใช้ GenAI ในการทำงานในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เปรียบเทียบกับแรงงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ 70% ขณะที่ 17% ใช้ GenAI เป็นประจำทุกวัน นำโดยแรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและยานยนต์ (18%) ตามมาด้วยธุรกิจบริการทางการเงิน (16%) และตลาดผู้บริโภค (15%) ตามลำดับ

นอกจากนี้ พนักงานไทยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการใช้งาน GenAI โดย 75% คาดว่า GenAI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งสูงกว่าการสำรวจของปีที่แล้วที่ 47% ขณะที่ 67% เชื่อว่า GenAI จะเพิ่มความมั่นคงในการทำงาน และช่วยให้พวกเขาได้รับเงินเดือนที่สูงขึ้น (65%) แต่นั่นก็อาจทำให้ปริมาณงานของพวกเขาเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน (66%)

ทั้งนี้ แรงงานไทยมากถึง 90% ยังรู้สึกพร้อมที่จะปรับตัวเข้ากับวิธีการทำงานใหม่และเติบโตในหน้าที่การงานของตน ขณะที่ 56% กล่าวว่าโอกาสในการเรียนรู้จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจอยู่หรือลาออกจากงาน 

"คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับ opportunity to learn มากขึ้นและยังส่งผลต่อการเติบโตขององค์กรในท้ายที่สุดด้วย ดังนั้น นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่นายจ้างจะต้องส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ให้กับพนักงานโดยเน้นไปที่การพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและ self-learning และต้องอย่าลืมที่จะปลูกฝังเรื่อง soft skill ไปพร้อม ๆ กันโดยควรกำหนดตัวชี้วัดเพื่อติดตามความคืบหน้าและประสิทธิผลควบคู่ไปด้วย" ดร. ภิรตา กล่าวแนะนายจ้างตื่นตัวแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศนอกจากนี้ ข้อมูลจากรายงานฉบับดังกล่าวยังพบว่า แรงงานชาวไทยหันมาให้ความสนใจปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น โดย 60% แสดงความกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะนำมาซึ่งความเสี่ยงด้านสุขภาพและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน และ 42% กล่าวว่าการหยุดชะงักจากเหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรง หรือการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำงานของพวกเขา

"สิ่งหนึ่งที่ทั้งผู้นำองค์กรและพนักงานคงเห็นไม่แตกต่างกันในวันนี้ คือ change is constant ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาของเทคโนโลยีเกิดใหม่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น และอื่น ๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ย่อมส่งผลให้ธุรกิจต้องมีการพลิกโฉมรูปแบบการทำงาน และส่งผลต่อความคาดหวังและความกังวลของพนักงานที่มีต่อองค์กร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความสามารถในการ evolve ตัวเองทั้งในระดับองค์กรและระดับบุคคลให้ไม่ใช่เพียงแค่อยู่รอด แต่เติบโตได้อย่างมั่นคงท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้" ดร. ภิรตา กล่าว


ข่าวเอเชียแปซิฟิก+การเรียนรู้วันนี้

มูลนิธิเฮอร์บาไลฟ์ แฟมิลี่ ฟาวเดชั่น ร่วมกับมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก จัดกิจกรรมมอบโภชนาการและกำลังใจแก่ผู้ป่วยเด็ก เนื่องในวันการกุศลสากล 2568

เฮอร์บาไลฟ์ ประเทศไทย สานต่อภารกิจของ มูลนิธิเฮอร์บาไลฟ์ แฟมิลี่ ฟาวเดชั่น (Herbalife Family Foundation: HFF) จัดกิจกรรมมอบเงินทุน ผลิตภัณฑ์โภชนาการ สิ่งของจำเป็น และสื่อการเรียนรู้แก่ผู้ป่วยเด็กและครอบครัว ร่วมกับ มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก เนื่องในโอกาส "วันการกุศลสากล" (International Charity Day) เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ภายในงาน ทีมผู้บริหาร พนักงาน และอาสาสมัครเฮอร์บาไลฟ์ ประเทศไทย นำโดย ดร.ภญ.วิภาดา แซ่เล้า ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการศึกษาและฝึกอบรมด้านโภชนาการ เฮอร์บาไลฟ์ เอเชียแปซิฟิก เป็นตัว

และ Blue by Alain Ducasse คว้า Top 100 ร้... สยามพารากอน ยืนหนึ่งแลนด์มาร์กระดับโลก คว้ารางวัล ICONIC THAI BRAND AWARD จาก Tatler Asia — และ Blue by Alain Ducasse คว้า Top 100 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเ...

มากกว่าความหรูหรา แต่คือมาตรฐานระดับโลกที... ซีบีอาร์อีเผยตลาด Branded Residence ในไทย ก้าวสู่ผู้นำในเอเชียแปซิฟิก — มากกว่าความหรูหรา แต่คือมาตรฐานระดับโลกที่สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพ ซีบีอาร์อี ปร...

พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นองค์กรแรกของไท... KBTG คว้ารางวัล The Innovators 2025 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน — พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นองค์กรแรกของไทยที่ได้รับรางวัลในสาขา Most Innovative Financial Tech...