อาหารบำรุงตับให้แข็งแรง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ตับ มีหน้าที่สำคัญ ทำหน้าที่กำจัดสารพิษในร่างกาย และเป็นอวัยวะที่ใช้ในการสร้างโปรตีน สร้างน้ำดี เก็บวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ  ซึ่งวิธีที่ทำให้ตับสุขภาพดีได้ง่าย ๆ คือการเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้อง

อาหารบำรุงตับให้แข็งแรง

โรงพยาบาลหัวเฉียว มีข้อมูลแนะนำอาหารที่จะทำให้ตับของเราแข็งแรง และลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับดังนี้

อาหารบำรุงตับ

1. ผักประเภทหัว

    - กะหล่ำปลี และอาโวคาโด : มีส่วนช่วยในการเพิ่มกลูตาไธโอน ช่วยล้างสารพิษ บำรุงตับ

   - บรอกโคลี และมันเทศ : มีกลูโคซิโนเลต  ช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตเอนไซม์ต่อต้านสารพิษ และเอนไซม์ช่วยย่อย

   - แครอท : อุดมด้วยวิตามิน A B1 B2 C D K กรดดโฟลิก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก สังกะสี ช่วยบำรุงตับ บำรุงเลือด แก้อาการอาหารไม่ย่อย

2.ผักใบเขียว เช่น ผักโขม และ ผักกาดหอม จะมีคุณสมบัติป้องกันการเกิดโลหะหนักในตับ และชะล้างสารเคมีที่สะสมในตับ โดยเฉพาะสารเคมีประเภทยาฆ่าแมลง

3.ผลไม้วิตามินซีสูง

  - ส้ม และเกรปฟรุต : มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยล้างสารพิษในตับ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งตับ

  - มะขามป้อม : ช่วยรักษาอาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ป้องกันการเกิดพิษโลหะหนักในตับ

  - มะละกอ และกีวี่ : ช่วยลดการอักเสบ และส่งเสริมการทำงานของตับให้ดีขึ้น

4.บีทรูท : มีสารฟลาโวนอยด์ ที่ตับต้องการนำไปบำรุงและฟื้นฟูตัวเอง

5.เห็ดต่าง ๆ เช่น เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหอม เห็ดหูหนู ช่วยลดไขมันที่สะสมในตับและกระแสเลือด ต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดขาว

6.กระเทียม และหอม มีสารอัลลิซิน และ ซีลีเนียม กระตุ้นให้ตับผลิตเอนไซม์ที่ช่วยในการขับสารพิษ

7.กาแฟ : มีคาเฟอีน ช่วยชะลอการสะสมผังผืดในตับของคนที่มีภาวะตับอักเสบเรื้อรัง

8.ชาเขียว : มีสารแครซีทีน (สารต้านอนุมูลอิสระ) ช่วยลดการสะสมไขมันที่ตับ และต้านการอักเสบ

อาหารทำลายตับ

1.แอลกอฮอล์ เป็นสารที่ทำลายตับโดยตรง และเป็นสาเหตุการเกิดตับแข็ง

2.วิตามิน A หากรับประทานปริมาณมาก ทำให้เกิดพิษทำลายตับ

3.อาหารแปรรูป และอาหารสำเร็จรูป มีสารไนเตรท สารไนไตร สารกันบูด สารเหล่านี้ถูกกรองที่ตับหากได้รับปริมาณมากส่งผลทำลายตับ


ข่าวo:member+o:healวันนี้

กรมอนามัยแนะนำใช้แนวทางคัดกรองดูแลหญิงตั้งครรภ์-เด็กเล็กลดเสี่ยงฉุกเฉิน ในศูนย์พักพิง

จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องเข้าพักในศูนย์พักพิง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น หญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็ก กรมอนามัยจึงกำหนดแนวทางคัดกรองและดูแลสุขภาพโดยแบ่งระดับความเสี่ยงตามระบบ Triage และจัดระบบส่งต่ออย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันความเสี่ยงและอันตรายด้านสุขภาพ แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ มีผู้เข้าพักในศูนย์พักพิงเขตสุขภาพที่ 9 จำนวน 98,687 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ จำนวน 127 คน และ

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ชนิดเชื้อเป็น สำ... วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ชนิดเชื้อเป็น สำหรับพ่นทางจมูก ทางเลือกใหม่ไม่ต้องใช้เข็มฉีดยา — วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ชนิดเชื้อเป็น สำหรับพ่นทางจมูก ทางเลือก...

โรงพยาบาลเอกชล อ่างศิลา เปิดรับผู้ประกันต... รพ.เอกชล อ่างศิลา เปิดบริการเปลี่ยนสิทธิประกันสังคมได้แล้ววันนี้ — โรงพยาบาลเอกชล อ่างศิลา เปิดรับผู้ประกันตนเพิ่ม 32,000 คนโอกาสดีแบบนี้… รีบเปลี่ยนสิทธิ...

อาการเสี่ยง "กรดไหลย้อน" ที่ควรรู้! "กรดไ... อาการเสี่ยง "กรดไหลย้อน" ที่ควรรู้! — อาการเสี่ยง "กรดไหลย้อน" ที่ควรรู้! "กรดไหลย้อน" คือภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร ...

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงข... สคร.12 สงขลา เตือน ปชช.ใต้ตอนล่าง หลังน้ำลด ระวังป่วยโรคเมลิออยโดสิส อันตรายถึงชีวิต — สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เตือนประชาชน ในพื้นที่ภ...