กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ขานรับนโยบาย "ดีพร้อม คอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้" เร่งอัพสกิลผู้ประกอบการด้านความปลอดภัยในซัพพลายเชน และการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์โลก เทคโนโลยีดิจิทัล และภัยพิบัติต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างทางรอด เดินต่อ และเติบโตอย่างยั่งยืน
นางสาวนันท์ บุญยฉัตร ผู้อำนวยการกองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 4.0 ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สนับสนุนโดยข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ควบคู่กับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมอื่น ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของภาคธุรกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว จึงทำให้หลายธุรกิจได้รับผลกระทบจาก Technology Disruption รวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์ ที่เป็นภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์ เครือข่าย และข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ จากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ตลอดจนภัยพิบัติต่าง ๆ และการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้างตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้หากสถานประกอบการมีการเตรียมความพร้อมต่อการรับมือความเสี่ยงดังกล่าว จะสามารถป้องกันหรือบรรเทาผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมที่มีโอกาสเกิดขึ้นในการดำเนินงานได้ ตามโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส" ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
นางสาวนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการส่งเสริม สนับสนุนผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ได้ขานรับนโยบาย "ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้" ของนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในการยกระดับทักษะที่มีอยู่เดิม (อัพสกิล) และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมในการจัดการกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับบุคลากรและองค์กร รวมถึง คู่ค้าในซัพพลายเชน กองโลจินติกส์จึงได้จัดกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร "Designing A Business Strategy" ภายใต้กิจกรรมการส่งเสริมการบริหารจัดการความปลอดภัยในซัพพลายเชน (Supply Chain Security) และการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งได้เปิดกิจกรรมฯ ไปเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการความปลอดภัยในซัพพลายเชนและการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจให้กับสถานประกอบการ และเพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบการมีการประเมินความเสี่ยง มีแผนรองรับความเสี่ยงในซัพพลายเชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการทบทวนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเหมาะสมื ตั้งเป้าหมายให้สถานประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศส่งบุคลากรเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 60 คน ระยะเวลาดำเนินงาน 100 วัน โดยกลุ่มเป้าหมายสถานประกอบการต้นแบบ จะต้องมีแนวทางการบริหารความปลอดภัยในซัพพลายเชนและการบริหารความต่อเนื่องของซัพพลายเชนทางธุรกิจ
สำหรับการฝึกอบรมภาคทฤษฎี ใช้ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง ในจำนวน 3 หมวด ได้แก่ 1. หมวดความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการค้นหาความเสี่ยงกระบวนการในการวินิจฉัยสถานประกอบการ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถวิเคราะห์ภาพรวมของการบริหารความเสี่ยงในองค์กร ระบุปัญหาและสาเหตุของปัญหาได้ เช่น ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ (Strategic Ricks) ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน (Operational Risks) ความเสี่ยงด้านการเงิน (Financial Risks) ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับโครงการ (Project Risks) และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder Risks) 2. หมวดความรู้เกี่ยวกับการประเมินและวิเคราะห์ความเสี่ยงเทคนิคและเครื่องมือในการจัดทำแผนหรือข้อเสนอแนะในการปรับปรุงพัฒนาองค์กร และอ 3. หมวดความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการความเสี่ยง
นอกจากนี้ ดีพร้อม จะให้คำปรึกษาเชิงลึก ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 30 ชั่วโมง จำนวน 3 สถานประกอบการต้นแบบ โดยการฝึกประเมินวินิจฉัยและให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกกับผู้ประกอบการที่เป็นกรณีศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะของผู้เข้ารับการฝึกอบรม โดยการนำความรู้จากภาคทฤษฎีมาปรับใช้เพื่อได้สถานประกอบการต้นแบบ รวมทั้งการจัดกิจกรรมนำเสนอผลการปรับปรุง จากภาคปฏิบัติการประเมินวินิจฉัยและให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้สถานประกอบการต้นแบบร่วมกัน
"ดีพร้อม เชื่อมั่นว่าการบริหารความเสี่ยงในซัพพลายเชนเพื่อปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ไม่ใช่แค่เครื่องมือป้องกันวิกฤต แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีทางรอด เดินต่อ และเติบโตสู่สากล อย่างยั่งยืน" นางสาวนันท์ กล่าวทิ้งท้าย
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย เดินหน้า "โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก" ตามนโยบาย "ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้" มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลมุ่งผลักดันยุทธศาสตร์การพัฒนา
ดีพร้อม เดินหน้าอบรมให้องค์ความรู้ กิจกรรม การพัฒนาหัตถกรรมสิ่งทอไทยระหว่างนักออกแบบไทยและนักออกแบบต่างประเทศ
—
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) หรือ ดีพร้อ...
"ดีพร้อม" เดินหน้าซอฟต์พาวเวอร์อาหาร ปี 2568 ตั้งเป้าปั้นเชฟอาหารไทยมืออาชีพ 17,000 คน ยกระดับร้านอาหารเชฟชุมชน 100 ร้าน
—
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้...
วว. จับมือกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพิ่มทักษะการแข่งขันทางธุรกิจซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน
—
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว....
ดีพร้อม ผลักดัน Soft Power แฟชั่นไทย ปั้นดีไซเนอร์ สานฝันหัตถกรรมสิ่งทอไทย
—
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) หรือ ดีพร้อม ผลักดันซอฟพาวเวอร์อุตสาหกรรมแฟชั่...
DIPROM พร้อมพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมเป้าหมาย กิจกรรมการนำมาตรฐานเกษตรปลอดภัยไปพัฒนาเกษตรแปรรูป
—
ดร.กิตติโชติ ศุภกำเนิด ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรม...
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ชวนร่วมงานเปิดตัว กิจกรรม "การพัฒนาหัตถกรรมสิ่งทอไทยระหว่างนักออกแบบไทยและนักออกแบบต่างประเทศ"
—
กรมส่งเสริมอุตสาห...
"ดีพร้อม" ขานรับนโยบาย "เอกนัฏ" สนับสนุน SOFT POWER ผ่านกิจกรรมพัฒนาบุคลากรสาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย
—
"ดีพร้อม" ขานรับนโยบาย "เอกนัฏ" สนับสนุน SOFT POWER ผ่า...