ไทยเครดิตเผยแผนธุรกิจปี 2568 มุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อในระดับสองหลัก ตอกย้ำความแข็งแกร่ง เป็นเลิศด้านการดำเนินงาน พร้อมเป็นธนาคารที่ทุกคนเข้าถึงได้ สร้างผลกำไรปี 2567 สูงสุดในประวัติการณ์
ไทยเครดิต เผยแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานและเป้าหมายทางธุรกิจปี 2568 เดินหน้าสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ เร่งผลักดันการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล เพื่อสนับสนุนประสิทธิภาพการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ภายใต้การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้าน หลังประกาศผลการดำเนินงานปี 2567 ด้วยผลกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,624.0 ล้านบาท ยืนยันความเชื่อมั่นในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) (CREDIT) ได้มีการจัดประชุมนักวิเคราะห์ประจำปี 2567 พร้อมประกาศแผนยุทธศาสตร์เดินหน้าธุรกิจในการเติบโตที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการผลักดันสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT กล่าวว่าธนาคารมุ่งมั่นให้ความสำคัญเรื่องการเติบโตที่ยั่งยืนสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายย่อยและกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อที่อยู่ในระบบ โดยธนาคารมุ่งเน้นไปที่การบริหารคุณภาพของสินเชื่อที่ดี รอบคอบ รัดกุม รวมถึงความเป็นเลิศในการดำเนินการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจเกินความคาดหมาย ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งมอบคุณค่าที่แท้จริง เน้นการยึดหลักมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อให้สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจของลูกค้าบนสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับลูกค้า โดยใช้กลยุทธ์เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าเพื่อให้ธนาคารสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าอย่างราบรื่นและเติบโตได้ต่อไปในอนาคต
นายรอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT เปิดเผยว่าธนาคารไทยเครดิตกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลระยะที่ 2 (Digital Transformation) กล่าวคือการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและเปิดตัวระบบคอร์แบงกิ้งใหม่ของธนาคาร (New Digital Core Banking System) โดยถือเป็นการยกระดับระบบและแพลตฟอร์มของธนาคารให้สมบูรณ์แบบ ตอบสนองต่อกระแสดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรมธนาคารในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างรากฐานของระบบให้แข็งแกร่ง เพื่อรักษาความสามารถในการเติบโตในระยะยาว พร้อมพัฒนาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ
โดยได้ธนาคารได้มีการกำหนดเป้าหมายสำคัญทางการเงินสำหรับปี 2568 ดังนี้
ทั้งนี้กลยุทธ์สำคัญที่ธนาคารใช้ขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ประกอบด้วย 2 ด้านหลัก ได้แก่ 1) การขยายสินเชื่อในส่วนที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นจุดแข็งของธนาคาร และ 2) การปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานระยะยาวของธนาคาร เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
อีกทั้ง เพื่อยกระดับการเข้าถึงธนาคารที้สะดวกยิ่งขึ้น ธนาคารได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออมเงินอย่างชาญฉลาดและสร้างเสริมอนาคตทางการเงินที่แข็งแกร่ง ผ่านแอปพลิเคชัน alpha by Thai Credit ที่ช่วยให้ลูกค้าบุคคลสามารถบริหารจัดการทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกทุกที่ทุกเวลา โดยในปี 2567 มีผู้ใช้งานเติบโตอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นร้อยละ 68 และมีมูลค่าธุรกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 จากปีก่อน เป็นประมาณ 19,000 ล้านบาท ในปี 2567 ด้านการเติบโตของ "ไมโครเพย์ อี-วอลเล็ต" แอปพลิเคชันที่ช่วยในการจัดการทางการเงินของกลุ่มลูกค้านาโนและไมโครเครดิต มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และมีมูลค่าธุรกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปีก่อน เป็นประมาณ 26.1 ล้านบาท พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแรงในการเข้าถึงฐานลูกค้าของธนาคาร รวมถึงสามารถขับเคลื่อนกระบวนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยธนาคารได้มีแผนรักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง
ธนาคารไทยเครดิตเดินหน้ายกระดับการให้บริการทางการเงินอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการสร้างประสบการณ์ที่ดีและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเน้นการนำเทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนกระบวนการให้บริการ ตลอดจนการให้ความรู้ พัฒนา และเสริมทักษะทางการเงินแก่ผู้ประกอบการรายย่อย เจ้าของกิจการขนาดเล็ก ร้านขายของชำ รวมทั้งกลุ่มเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอี เพื่อใช้ในการวางแผนทางการเงินเพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ปรัชญา "Everyone Matters ทุกคนคือคนสำคัญ" ที่มุ่งหวังให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ที่มีความเท่าเทียมและเป็นธรรมอย่างยั่งยืน
เสริมเกราะความปลอดภัยให้องค์กรของคุณ เรียนรู้วิธีป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์และจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ! สัมมนาวิชาการ " IT Audit ตามมาตราฐานความมั่นคงไซเบอร์ ISO/IEC 27001" วิทยากร : Navaporn Chockwanich (Faii) Information Security Consultant ศิษย์เก่า ICT & CY alumni วันที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 13.00-16.00 น. เข้าร่วมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ณ ห้อง IT331 ชั้น 3 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา (On-site) ดูรายละเอียด และลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ https://www.ict.mahidol.ac
UCS รับรองมาตรฐาน ISO 20000-1:2018 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4
—
บริษัท จักรวาลคอมมิวนิเคชั่น ซีสเท็ม จำกัด ประกาศความสำเร็จในการรักษามาตรฐาน ISO 20000-1:2018 ต่...
นครฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน เปิดฉากการประชุมสุดยอด ดิจิทัล ไชนา ซัมมิต ครั้งที่ 8
—
สำนักเลขาธิการคณะกรรมการจัดงานดิจิทัล ไชนา ซัมมิต เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่...
IT Solution คืออะไร? ครบเครื่องเรื่องโซลูชันไอทีสำหรับธุรกิจยุคใหม่
—
ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญของทุกองค์กร การมี IT Solution ที่ดีไม่ใช่แค่ช่วยให้อ...
ผถห. SPREME เฮ! อนุมัติจ่ายปันผล 0.11 บ./หุ้น ปี 68 ลุยประมูล Mega Project-ปิดดีล M&A เร่งเติม Backlog ดันรายได้เติบโต 10-15%
—
ผู้ถือหุ้น บมจ.สุพรีม ...
โครงการสัมมนาวิชาการ AI & Cyber Intelligence: The Future of Human-Machine Collaboration & Security
—
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัย...
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ SPU จับมือ BDI เปิดหลักสูตร 'Intermediate Data Science' รุ่น 1 อัปสกิลสู่มืออาชีพด้านวิเคราะห์ข้อมูล
—
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาล...
PREME ลุยประมูล Mega Project-ปิดดีล M&A ดัน Backlog ทะลุ 1 พันลบ. หนุนรายได้ปี 68 เติบโต 10-15%
—
บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (SPREME) รุกหนักงานประมูล Me...