LPP ประสบความสำเร็จโครงการคัดแยกขยะรีไซเคิล พร้อมเดินหน้าผนึกกำลังผู้อยู่อาศัยต่อเนื่อง สู่ผลลัพธ์ของความยั่งยืนในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

แอล พี พี ตอกย้ำแนวคิด "LPP รักษ์โลก" มุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ ที่ใส่ใจทั้งเรื่องการยกระดับคุณภาพชีวิต ไปพร้อมกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยการจัดให้มีการ "คัดแยะขยะรีไซเคิล" โดยเริ่มตั้งแต่ต้นทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการปัญหาขยะ ซึ่งลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ในปี 2567 ได้ถึง 4,107,031 Kg./ CO2 eq. หรือเทียบเคียงการปลูกต้นไม้ได้ถึง 433,348 ต้น

LPP ประสบความสำเร็จโครงการคัดแยกขยะรีไซเคิล พร้อมเดินหน้าผนึกกำลังผู้อยู่อาศัยต่อเนื่อง สู่ผลลัพธ์ของความยั่งยืนในอนาคต

นางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด หรือ LPP ผู้นำธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า ปัจจุบัน LPP ได้มีการส่งเสริมให้มีการคัดแยกขยะ และคัดแยะขยะรีไซเคิลทั้ง 260 โครงการที่ดูแลได้มีการจัดการคัดแยกขยะจากต้นทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มต้นด้วยการส่งเสริมให้มีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องต่อความสำคัญในการแยกขยะก่อนทิ้ง และวิธีปฏิบัติในการทิ้งขยะยังจุดคัดแยกที่ถูกต้องในโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อส่งเสริมให้ทุกการเป็นโครงการต้นแบบในการจัดการขยะได้อย่างยั่งยืน LPP ประสบความสำเร็จโครงการคัดแยกขยะรีไซเคิล พร้อมเดินหน้าผนึกกำลังผู้อยู่อาศัยต่อเนื่อง สู่ผลลัพธ์ของความยั่งยืนในอนาคต

ทั้งนี้ ในปี 2567 ที่ผ่านมา LPP ได้สรุปการคัดแยกขยะรีไซเคิลของโครงการที่ได้เข้าร่วมทั้งหมดจำนวน 188 โครงการ หรือประมาณ 72% ของโครงการที่ LPP บริหารจัดการ โดยมีสัดส่วนของโครงการที่เข้าร่วมเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ประมาณปีละ 10% จากจำนวนโครงการที่บริหารทั้งหมด 260 โครงการ โดยมีปริมาณขยะคัดแยก จำนวน 2,036,141.62 Kg. ซึ่งสามารถช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ได้ถึง 4,107,031 Kg./ CO2 eq. หรือคิดเป็นค่าเทียบเคียงการปลูกต้นไม้ได้ถึง 433,348 ต้น โดยประเภทของขยะรีไซเคิลที่คัดแยกได้แบ่งออกเป็น กระดาษ 39% ขวดพลาสติกใส 24% ขวดแก้ว 22% ขวดนม 8% กระป๋องอลูมิเนียม 2% เหล็ก 2% ไม่แยกประเภท 2% และกระป๋องสังกะสี 1% จากจำนวนการคัดแยะขยะในปี 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจ ทั้งยังสะท้อนถึงความตระหนักและมุ่งมั่นในการส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถนำขยะที่คัดแยกได้ไปส่งต่อยังพาร์ทเนอร์ในการรับซื้อขยะอย่าง "รีไซเคิลเดย์" แพลตฟอร์มจัดการขยะรีไซเคิลแบบครบวงจร เพื่อรับขยะที่ได้คัดแยกเตรียมเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล นำกลับมาใช้ใหม่ และยังช่วยเสริมสร้างรายได้กลับคืนสู่บัญชีค่าส่วนกลางเพื่อนำไปพัฒนาหรือบริหารจัดการตามมติของของแต่ละโครงการอีกด้วย และในปี 2568 บริษัทยังมีแผนงานที่จะขยายความร่วมมือเพิ่มเติมแก่ผู้รับซื้อขยะรีไซคิลให้ขยายวงกว้างมากขึ้น อาทิ ไทยเบฟเวอเรจ รีไซเคิล WASTE BUY Delivery รถสะดวกซื้อ SCGP recycle ฯลฯ

นางสาวสมศรี กล่าวต่อว่า อยากให้มองเรื่องของการคัดแยกขยะเป็นสิ่งที่เราทุกคนจำเป็นต้องทำ เพราะเป้าหมายไม่ได้มุ่งที่การส่งเสริมให้ลูกบ้านได้เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ หรือเป็นการส่งเสริมรายได้ให้เกิดขึ้นภายในโครงการ แต่เป็นการยืนหยัดกระตุ้นจิตสำนึกของทุกฝ่ายให้รับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน เพื่อร่วมแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ และนับเป็นแนวทางที่จะช่วยลดปริมาณขยะในที่อยู่อาศัย และลดปัญหาขยะที่ตกค้าง เพียงแค่คัดแยกขยะให้ถูกประเภทโดยเริ่มจากต้นทาง หรือที่ "ตัวเรา" และนำขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล เพื่อเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างชุมชนที่น่าอยู่ได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ LPP ยังรณรงค์เชิญชวนให้ทุกโครงการข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคัดแยกขยะรีไซเคิลอย่างต่อเนื่องด้วยการจัดกิจกรรม ต่างๆ อาทิ กิจกรรมขวดแลกไข่ ที่ให้ลูกบ้านและพนักงานในองค์กรได้สะสมขวดพลาสติกที่ใช้แล้วตามจำนวนที่กำหนดนำมาแลกเป็นไข่ไก่ หรือกิจกรรมวันลอยกระทง ที่ทางนิติบุคคลของแต่ละโครงการฯ ได้เชิญชวนให้ลูกบ้านสะสมขวดพลาสติกเพื่อนำมาแลกกระทงรักษ์โลกที่ไม่ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำอีกด้วย รวมถึงการจัดทำทำสื่อประชาสัมพันธ์ ป้ายแยกขยะแต่ละประเภท เพื่อเป็นการรณรงค์ และกระตุ้นให้ลูกบ้าน สนใจการคัดแยกขยะมากขึ้น เป็นการเน้นย้ำแนวคิด "LPP รักษ์โลก" เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการ ที่ใส่ใจทั้งเรื่องการยกระดับคุณภาพชีวิต ไปพร้อมกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน


ข่าวคาร์บอนฟุตพริ้นท์+สมศรี เตชะไกรศรีวันนี้

เดอะ สตรีท รัชดา - ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ ได้รับเครื่องหมาย "คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร" ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา และ อาคารซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ ได้รับเครื่องหมายรับรองฉลากคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความรับผิดชอบและมุ่งมั่นในการบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรฯ การรับรองเครื่องหมายฉลากคาร์บอนนี้ อบก. ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน เพื่อกระตุ้นให้ภาคส่วนต่าง ๆ ประเมินการปล่อยก๊าซ

นักรบ กุลพนิชย์ (ขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายบริห... เซนเซส พร็อพเพอร์ตี้ฯ รับมอบประกาศนียบัตร เครื่องหมายรับรองฉลากคาร์บอน — นักรบ กุลพนิชย์ (ขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน บริษัท เซนเซส พร็อพเพอร์ตี้ ...

บีไอจี ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอน... บีไอจี ผนึก กกพ. เปิดมิติใหม่การจัดการพลังงานภาครัฐ ด้วย Carbon Management Platform สู่เป้าหมาย Net Zero — บีไอจี ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำของ...