มาสเตอร์การ์ดได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) กับมูลนิธิอาเซียน ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลภายในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อริเริ่มหลากหลายโครงการในประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน เพื่อพัฒนาความสามารถด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของหน่วยงานภาครัฐและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือที่เรียกว่า โครงการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของมูลนิธิอาเซียน-มาสเตอร์การ์ด (ASEAN Foundation-Mastercard Cybersecurity Resilience Program) ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะมุ่งเน้นความพยายามในสามด้านหลัก ได้แก่ การสร้างความตระหนักรู้ การจัดฝึกอบรมและพัฒนาทักษะ และการเพิ่มขีดความสามารถผ่านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์
 
                                                                                                                                        สำหรับภาคเอกชน โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือ ธุรกิจ SMEs ในภูมิภาค ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 97% ของธุรกิจทั้งหมดในภูมิภาคและสร้างการจ้างงาน 85 เปอร์เซ็นต์[1] โครงการริเริ่มต่างๆ โดยประกอบด้วย:
- เตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจ SMEs ให้รู้เท่าทันเหตุการณ์ทางไซเบอร์ผ่านศูนย์ Mastercard Trust Center ที่มีบริการให้ความรู้ ทรัพยากร และเครื่องมือที่ให้บริการแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการป้องกันภัยทางไซเบอร์อย่างครบวงจร
- ช่วยให้ SMEs สามารถตรวจสอบจุดอ่อนในระบบของธุรกิจตนเองผ่านเครื่องมือ My Cyber Risk ของ Mastercard ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถระบุ กำหนดลำดับความสำคัญ และดำเนินการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลได้
- การจัดสัมมนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นใหม่ในมิติต่าง ๆ แก่เหล่าธุรกิจ SMEs
ในด้านของภาครัฐ ความร่วมมือนี้จะช่วยเสริมสร้างความพร้อมในการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ผ่านการดำเนินการต่าง ๆ อาทิ:
- การจัดสัมมนาออนไลน์เกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการรับมือกับความท้าทายที่ภาครัฐในอาเซียนต้องเผชิญ เพื่อมอบความรู้ในประเด็นสำคัญให้แก่ผู้เชี่ยวชาญในภาครัฐที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์
- จัดการฝึกซ้อมจำลองวิกฤตเพื่อทดสอบความพร้อมและความยืดหยุ่นของเทคโนโลยีและกระบวนการองค์กรทางไซเบอร์ของ และเพื่อหาช่องว่างที่สามารถทลายขีดความสามารถได้
- การพัฒนารายงานวิจัยและจัดหาเครื่องมือประเมินความเสี่ยงให้แก่รัฐบาลในประเทศกลุ่มอาเซียน รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการต่อต้านการฉ้อโกง
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของอาเซียนในการเพิ่มขีดความสามารถด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของภูมิภาค ทลายขีดจำกัดด้านความสามารถทางไซเบอร์ ละการแบ่งปันข้อมูลอาชญากรรมทางไซเบอร์ในภูมิภาคให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
นายซาตวินเดอร์ สิงห์ (Satvinder Singh) รองเลขาธิการอาเซียนด้านประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กล่าวว่า "การบรรลุวิสัยทัศน์เศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนจะต้องอาศัยการบูรณาการระดับภูมิภาคที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ สามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น พร้อมทั้งมอบบริการดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค รวมถึงโซลูชันการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เพราะหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือความจำเป็นในการสร้างความสามารถในการรับมือทางภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมีความซับซ้อนและแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ" นอกจากนี้ นายซาตวินเดอร์ยังกล่าวเสริมว่า "ผมขอชื่นชมมาสเตอร์การ์ดและมูลนิธิอาเซียนที่เป็นผู้นำในการริเริ่มด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เมื่อพิจารณาจากบทบาทที่สำคัญของมาสเตอร์การ์ดในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อธุรกิจและกิจกรรมทางสังคมทั่วโลก นวัตกรรมทางการเงินและความปลอดภัยที่ล้ำสมัยของมาสเตอร์การ์ดจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อความสามารถในการรับมือทางไซเบอร์และความน่าเชื่อถือทางดิจิทัลในระดับโลกและระดับภูมิภาค"
"โครงการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของมูลนิธิอาเซียน-มาสเตอร์การ์ดถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องช่วยให้ประเทศสมาชิกของเราซึ่งไม่เพียงแต่สร้างการป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังต้องเพิ่มความสามารถในการแบ่งปันข้อมูลที่สำคัญและร่วมมือกันข้ามพรมแดนด้วย โครงการนี้จะช่วยให้เรามีการใช้แนวทางที่เป็นประโยชน์ร่วมกันเพื่อส่งเสริมทั้งทักษะและทรัพยากร ให้เราสามารถรับมือกับความท้าทายทางไซเบอร์ร่วมกันได้ การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องอนาคตทางดิจิทัลของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยให้อาเซียนยังคงมีความสามารถในการแข่งขันและมีความยืดหยุ่นในภูมิทัศน์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย " ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิอาเซียน กล่าว
เศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตทบต้นต่อปีอยู่ที่ 27 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 2564[2] แม้ว่าการลงทุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในภูมิภาคจะเติบโตขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ต่อปีตั้งแต่ปี 2564 และคาดว่าจะสูงถึง 6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2569[3] แต่ตัวเลขเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะจัดการกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากเพิ่มขึ้นถึง 82 เปอร์เซ็นต์ระหว่างปี 2564 ถึง 2565[4] ในขณะเดียวกัน ธุรกิจ SME มักตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์ที่ใช้ประโยชน์จากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่หละหลวมกว่าในธุรกิจขนาดเล็กเหล่านี้ ในประเทศไทย กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พบมีการรายงานคดีอาชญากรรมทางไซเบอร์กว่า 504,616 คดี ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ถึงเดือนเมษายน 2567 ก่อให้เกิดความเสียหายราว 1.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ[5] นอกจากนี้ ตามรายงานประจำปี 2567 ของศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (ThaiCERT) ยังระบุว่าธุรกิจ SME คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของเป้าหมายอาชญากรรมทางไซเบอร์ทั้งหมดในประเทศอีกด้วย[6]
นายซาฟดาร์ คาน ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า "การเสริมสร้างความสามารถและความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับภัยคุกคามทางดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่เข้มแข็ง ความร่วมมือที่สำคัญนี้กับมูลนิธิอาเซียนมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมาสเตอร์การ์ดในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในโลกดิจิทัล ด้วยการริเริ่มโครงการที่มีผลกระทบต่อทั้งภาครัฐและภาค SMEs ความร่วมมือนี้จะช่วยสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่มีความมั่นคงและยืดหยุ่นให้กับผู้เข้าร่วมทุกคน พร้อมเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับบุคคลากรและกลุ่มธุรกิจ และเร่งผลักดันการเติบโตอย่างครอบคลุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"
วินนี่ วอง ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมา มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า "ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนั่นก็หมายถึงโอกาสที่มากมายมหาศาล และก็ยังชี้ให้เห็นว่าการมีมาตรการความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เข้มแข็งเป็นสิ่งจำเป็น ความร่วมมือระหว่างมาสเตอร์การ์ดและมูลนิธิอาเซียนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะ เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านขนาดและความซับซ้อน และในขณะเดียวกัน SMEs ยังคงเป็นภาคส่วนที่สำคัญของประเทศไทย อีกทั้งภาครัฐยังมีการวางมาตรการในการส่งเสริมการเติบโตของ SMEs ให้อยู่ในวาระแห่งชาติ ความร่วมมือในครั้งนี้จึงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมาสเตอร์การ์ดในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัยเพื่อให้บุคคลากรและกลุ่มธุรกิจทุกขนาดในประเทศไทยและทั่วทั้งภูมิภาคสามารถก้าวสู่โลกดิจิทัลได้อย่างมั่นใจและได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัล"
มาสเตอร์การ์ดได้เป็นผู้นำในการส่งเสริมความปลอดภัยทางไซเบอร์และการสร้างความเชื่อมั่นทางดิจิทัล ทั้งในระดับโลกและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทได้ร่วมมือกับหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อต่อสู้กับการเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมทางไซเบอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความร่วมมือเหล่านี้ยังรวมไปถึงการทำงานกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ในโครงการพันธมิตรระดับโลกเพื่อต่อต้านการหลอกลวงทางดิจิทัล (United Nations Development Program's Global Coalition Against Digital Scams) และการเป็นประธานในพันธมิตรต่อต้านการหลอกลวงระดับโลก (Global Anti Scam Alliance) มาสเตอร์การ์ดยังมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำเสวนาในอุตสาหกรรมและการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจในระบบนิเวศดิจิทัล ตัวอย่างเช่น มาสเตอร์การ์ดได้จัดการประชุมเชิงอภิปรายที่งานประชุมการเงินดิจิทัลของธนาคารแห่งประเทศไทยในปี 2566 ซึ่งรวบรวมผู้นำในอุตสาหกรรมจากสถาบันการเงินและหน่วยงานของรัฐเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการลดปัญหาการหลอกลวงและสร้างความเชื่อมั่นที่มั่นคงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มาสเตอร์การ์ดยังได้ร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความสามารถและบุคลากรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น โครงการ FlexiMasters ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางในสิงคโปร์ และศูนย์ความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ Indosat-Mastercard ในประเทศอินโดนีเซีย
 
                             มูลนิธิอาเซียน และ Google.org จัดเวทีประชุมนโยบายระดับภูมิภาค ร่วมขับเคลื่อนความรู้ด้าน AI
                            มูลนิธิอาเซียน และ Google.org จัดเวทีประชุมนโยบายระดับภูมิภาค ร่วมขับเคลื่อนความรู้ด้าน AI
                         หัวเว่ยมอบรางวัลทรงเกียรติแก่เจเจ-แลปป์ พร้อมเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียน
                            หัวเว่ยมอบรางวัลทรงเกียรติแก่เจเจ-แลปป์ พร้อมเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียน
                         PLANET ร่วมประชุมนวัตกรรมดิจิทัล ในงาน Digital Innovation Conference 2022
                            PLANET ร่วมประชุมนวัตกรรมดิจิทัล ในงาน Digital Innovation Conference 2022
                         หัวเว่ยจัดประชุม Huawei APAC Digital Innovation Congress ชู "นวัตกรรมเพื่อเอเชียแปซิฟิกยุคดิจิทัล"
                            หัวเว่ยจัดประชุม Huawei APAC Digital Innovation Congress ชู "นวัตกรรมเพื่อเอเชียแปซิฟิกยุคดิจิทัล"
                         3เอ็ม ประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิอาเซียน ช่วยผู้ประสบภัยโควิด-19  แจก 5,000 ถุงยังชีพ พร้อมจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านสุขอนามัย
                            3เอ็ม ประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิอาเซียน ช่วยผู้ประสบภัยโควิด-19  แจก 5,000 ถุงยังชีพ พร้อมจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านสุขอนามัย