"บมจ. ออโรร่า ดีไซน์" หรือ AURA ยิ้มรับแนวโน้ม Q4 ธุรกิจทองเติบโตแข็งแกร่งรับไฮซีซั่น ชูการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำกำไรได้แม้ราคาทองปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลง ด้าน Gold Financing สินเชื่อทองมาเงินไปพอร์ตโตทะลุทะลวงจากเป้าเดิม 3,800 ลบ. ยอดลูกหนี้ขายฝาก ณ สิ้นกันยายน ปี 67 อยู่ที่ 4,212 ลบ. ใกล้เคียงเป้าหมายใหม่ สิ้นปีคาดพอร์ตอยู่ที่ 4,500 ลบ. เป็นธุรกิจที่มาแรงฉุดไม่อยู่ โดยเตรียมออกหุ้นกู้ระยะสั้น 122 วัน อัตราดอกเบี้ย 3.86% ต่อปี เสริมความแข็งแกร่งทองมาเงินไปในต้นปีหน้า ส่วนเป้ารายได้ทั้งปีคาดโตไม่แพ้ปีที่ผ่านมา
นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานการตลาด บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA ผู้นำธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี รวมทั้ง ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 67 มีทิศทางการเติบโตที่ดี มีการขยายตัวต่อเนื่องผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัท รับไฮซีซั่นธุรกิจ ประกอบด้วย Modern Gold ผลิตภัณฑ์ทองรูปพรรณที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5% และ High Margin Product เครื่องประดับเพชร และของขวัญ มีทิศทางการเติบโตที่ดี และจะยิ่งเห็นภาพชัดเจนในปีหน้า ขณะที่ Gold Financing มีการเติบโตสูง และไฮซีซั่นจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม สนับสนุนสิ้นปีคาดพอร์ตสินเชื่อทะลุเกินเป้า
"โดยปกติในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ อย่างไรก็ดี จากภาพรวมตลาดต่างประเทศ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีผลให้ราคาทองปรับลดลงเล็กน้อย โดยราคาทองในประเทศไทยค่อนข้างนิ่งกว่าเมื่อเทียบกับ USD อย่างไรก็ตามบริษัทสามารถบริหารจัดการได้ดี และควบคุมความเสี่ยงได้ อีกทั้ง ความกังวลที่มีต่อบริษัท ว่าจะได้รับผลบวกตอนราคาทองขึ้น และได้รับผลกระทบเชิงลบตอนราคาทองปรับลงนั้น บริษัทฯ ไม่มีความกังวล ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์ได้ทั้งฝั่งขาขายและขารับซื้ออย่างเหมาะสม อีกทั้ง หากราคาทองที่ปรับลดลงในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น ซึ่งจะทำให้มีรอบหมุนฝั่งขาขายเข้ามามากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ มีการมอนิเตอร์อย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาความสามารถในการทำรายได้และกำไรให้ดีตามเป้าหมายที่วางไว้" นายอนิพัทย์ กล่าว
อย่างไรก็ดี เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจทองมาเงินไป (Gold Financing Business) ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ราว 2% แต่มีการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยรับประมาณ 80% (YoY) นับเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และโอกาสในการขยายตลาดนี้ยังมีอยู่มาก ณ สิ้นงวดไตรมาส 3/67 บริษัทฯ มีพอร์ตลูกหนี้รับขายฝากคงเหลืออยู่ที่ 4,212 ล้านบาท ทะลุเป้าเดิมวางไว้ที่ 3,800 ล้านบาท ตั้งเป้าใหม่สิ้นปีไว้ที่ 4,500 ล้านบาท คาดทำได้ทะลุเป้า บริษัทฯ จึงเตรียมแผนออกหุ้นกู้ระยะสั้น เพื่อรองรับโอกาสในการขยายพอร์ตต่อเนื่องในช่วงต้นปีหน้า
ล่าสุด AURA ได้ยื่นร่างแบบแสดงรายการต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะสั้นครั้งที่ 1/2567 ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้ อายุ 122 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.86% ต่อปี วัตถุประสงค์เพื่อซื้อทรัพย์สิน ลงทุน หรือเป็นเงินค่าใช้จ่ายในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันภายในเดือนเมษายน 2568
ทั้งนี้ AURA ได้รับการจัดอันดับเครดิตเรทติ้งอยู่ที่ 'BBB' แนวโน้ม 'คงที่' จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 โดยการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ถือเป็นการออกครั้งแรกของบริษัทในปีนี้ ซึ่งแสดงถึงความพร้อมและความเชื่อมั่นในตลาดทุน กำหนดวันออกหุ้นกู้วันที่ 20 ธันวาคม 67 และวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันที่ 21 เมษายน 68 กำหนดจ่ายดอกเบี้ยครั้งเดียวในวันครบกำหนด เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ในด้านผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/67 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 7,891.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5% จากการขยายตัวของธุรกิจผลิตภัณฑ์ทองรูปพรรณที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5% หรือ Modern Gold การขยายฐานลูกค้าผ่านการเปิดสาขาใหม่ และราคาทองคำที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้ง การเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยจากการขายฝากที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของลูกหนี้ และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 10.5% กำไรสุทธิอยู่ที่ 204.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.7% เมื่อปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับผลประกอบการ 9 เดือนของปี 2567 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีรายได้รวม 23,564.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.1% มีอัตราการทำกำไรขั้นต้นดีขึ้นอยู่ที่ 11.5% กำไรสุทธิอยู่ที่ 824.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.5% จากการขายสินค้าของธุรกิจ Modern Gold และธุรกิจขายฝาก Gold Financing Business อีกทั้ง ยังนับเป็นการเติบโตในระดับใกล้เคียงกับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ซึ่งมีกำไรสุทธิเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนในระดับ 32.7%
Bedrock Analytics ผ่านการรับรอง ISO 9001 และ ISO 27001 ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านคุณภาพและความปลอดภัยข้อมูลมาตรฐานระดับโลก
กสิกรไทยประกาศเตรียมซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 8,800 ล้านบาท เพื่อบริหารทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินกองทุน
เคทีซีคว้ามาตรฐาน ISO ต่อเนื่อง ยกระดับความมั่นคงไซเบอร์ เสริมเกราะข้อมูลลูกค้ายุคดิจิทัล
ไฮเออร์ ติดโผ Forbes World's Best Employers ปีที่ 9 ควบ Top Employer China 2025 สะท้อนพลังองค์กรแห่งอนาคต ที่คนอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดในโลก
สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี
"ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป" จับมือ "เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)" เสริมแกร่งธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เปิดตัวโครงการ "Shama Sukhumvit 101"
กสิกรไทย ผนึกกำลัง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ อบก. Kubix และ Orbix Technology เปิดตัวโครงการนำร่องทดสอบการแปลงคาร์บอนเครดิตเป็นโทเคนดิจิทัล ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้กรอบ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย
PwC ประเทศไทย เตือนธุรกิจเตรียมพร้อมรับมือมาตรการตรวจสอบภาษีเข้มข้นหลังปฏิรูปครั้งใหญ่สู่สมาชิก OECD