ในวันที่อากาศไม่เป็นใจ อะไร ๆ ก็ดูหมองมัวเต็มไปด้วยหมอกควันและฝุ่นละออง นับเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนโดยตรง ซึ่งในรายงานสถานการณ์มลพิษของประเทศไทยปี 2566 เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์คุณภาพอากาศในภาพรวมของประเทศมีปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 และปริมาณฝุ่นละออง PM10 เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และในหลายพื้นที่มีปริมาณฝุ่นละอองและก๊าซโอโซนเกินค่ามาตรฐาน เช่นที่ กรุงเทพมหานคร ภาคกลาง และภาคเหนือ และมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น การติดตาม ตรวจสอบคุณภาพอากาศ และเฝ้าระวังสถานการณ์มลพิษทางอากาศของประเทศ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการได้มาซึ่งข้อมูลสถานการณ์คุณภาพอากาศ จำเป็นต้องมีการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ด้วยวิธีการและหลักเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และน่าเชื่อถือ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ ได้จัดตั้งเครือข่ายการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในบรรยากาศ ด้วยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศแบบอัตโนมัติ โดยใช้วิธีการตรวจวัดตามมาตรฐานสากล และเป็นไปตามข้อกำหนดของประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และประกาศกรมควบคุมมลพิษ โดยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศแบบอัตโนมัติของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 96 สถานี ครอบคลุม 65 จังหวัด และกรมควบคุมมลพิษ มีเป้าหมายจะติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศให้ครอบคลุมทุกจังหวัดของประเทศไทย โดย 1 จังหวัด ต้องมีสถานีตรวจวัดฯ อย่างน้อย 1 สถานี เพื่อให้มีข้อมูลสถานการณ์คุณภาพอากาศให้ครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับการกำหนดจุดตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศ จะแบ่งออกเป็น 2 จุดหลักๆ ได้แก่ 1) จุดตรวจวัดสำหรับพื้นที่ทั่วไป ซึ่งจะอยู่ห่างจากขอบถนนหลักประมาณ 50 เมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดปริมาณสารมลพิษทางอากาศที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ ในบริเวณชุมชน และที่พักอาศัยเป็นหลัก และ 2) จุดตรวจวัดสำหรับพื้นที่ริมถนน ซึ่งจะอยู่ห่างจากขอบถนนหลักที่มีการจราจรหนาแน่นไม่เกิน 10 เมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจวัดปริมาณของสารมลพิษทางอากาศในพื้นที่ริมถนนที่เกิดจากการจราจรเป็นหลัก สำหรับสารมลพิษทางอากาศที่ทำการตรวจวัดด้วยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติของกรมควบคุมมลพิษนั้น ประกอบด้วย ฝุ่นละออง PM2.5 ฝุ่นละออง PM10 ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซโอโซน และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ นอกจากนี้ยังมีการตรวจวัดสภาพอากาศทางอุตุนิยมวิทยาในระดับผิวพื้น เพื่อใช้สำหรับเป็นข้อมูลประกอบการประเมินสถานการณ์คุณภาพอากาศเพิ่มเติม ได้แก่ ความเร็วลม ทิศทางลม อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ ความดันบรรยากาศ และปริมาณน้ำฝน
ข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศดังกล่าว จะแสดงข้อมูลแบบ Real Time บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Air4Thai เพื่อให้ประชาชนและผู้ที่สนใจสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังถูกนำไปใช้สำหรับประเมินระดับความรุนแรงของสภาพปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้น อีกทั้งใช้ประเมินการได้รับสัมผัสมลพิษทางอากาศและการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน การวิเคราะห์และการประเมินผลกระทบของการปล่อยมลพิษจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ รวมถึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการเฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนการนำไปใช้ประกอบการกำหนดมาตรการและนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศระดับประเทศ พร้อมทั้งขับเคลื่อนการดำเนินงานแก้ปัญหามลพิษในระดับพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุมลพิษทางอากาศเกินค่ามาตรฐาน ประชาชนจะสามารถรับรู้มลพิษได้ด้วยตนเอง เช่น กลิ่นไม่พึงประสงค์ การหายใจอึดอัด ความระคายเคือง เป็นต้น สามารถแจ้งหรือร้องเรียนผ่านสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด หรือติดต่อกรมควบคุมมลพิษ ได้ที่สายด่วน 1650 เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป
โออาร์ ร่วมกับเดอะมอลล์ กรุ๊ป ลดฝุ่น อุ่นใจ ปีที่ 2 หนุน กทม. เดินหน้ารณรงค์การลดฝุ่น PM2.5 ครอบคลุมทุกมิติ
"ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์" ผนึกกำลัง กทม. และชุมชน สร้าง "CW Sustainable Art" พลิกโฉมกำแพง สู่พื้นที่ศิลปะสิ่งแวดล้อม ย้ำภาพผู้นำอาคาร Net Zero
กรมอนามัย เตรียมทีมปฏิบัติการตรวจเฝ้าระวังสุขอนามัย รับเจ้าภาพซีเกมส์ อาเซียนพาราเกมส์ 2025
นักวิชาการชี้ "ไม่เทรวม" กทม. คือ จุดเริ่มต้นที่สำคัญ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยหนุนเร่งเครื่อง ชวนคนกรุงร่วมเปลี่ยนเมืองอย่างยั่งยืน
ร่วมสร้างเมืองน่าอยู่! พาราไดซ์ พาร์ค ผนึกเขตประเวศ ขับเคลื่อนนโยบาย "สวน 15 นาที" เติมพื้นที่สีเขียวใจกลางศรีนครินทร์
กลุ่มเซ็นทรัลร่วมขับเคลื่อน "Bangkok Climate Action Week" สนับสนุนพลังคนรุ่นใหม่ สร้างอนาคตโลกที่ยั่งยืน
ดิจิทัล เอเมอรัลด์ เปิดตัวเว็บไซต์ Bangkok Hotel News เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการโรงแรม
ทีทีบี ชวนเที่ยวงานกาชาด 2568 พบกับร้านทีทีบี ร่วมทำบุญซื้อสลากกาชาด ลุ้นโชคใหญ่ 716 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท พิเศษ "ถูกรางวัล ไม่ต้องเสียภาษี"
กทม. คุมเข้มจุดพลุ-จัดงานรับปีใหม่ 2569 ชี้ฝ่าฝืนเจอโทษจำ-ปรับตามกฎหมาย