"POP" แบรนด์ชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์มาตรฐานสากลฝีมือคนไทย หนึ่งในผู้นำตลาดอะไหล่ทดแทน REM (Replacement Equipment Manufacturing) ของไทยและผู้ส่งออกรายสำคัญของประเทศ ประกาศเดินหน้าบุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าโต 10 % มั่นใจการเติบโตของตลาดอะไหล่รถยนต์ในประเทศไทยไปได้อย่างต่อเนื่อง สวนกระแสสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เผยอะไหล่ราคาประหยัดและคุ้มค่ามากเป็นปัจจัยผนวกกับการเติบโตของตลาด เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ขณะเดียวก็ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ใช้รถยนต์รุ่นเก่าที่ต้องการซ่อมรถมากขึ้น จัดแคมเปญส่งท้ายปีร่วมกับร้านค้า กระตุ้นการสั่งซื้อ และออกแพ็คเกจบำรุงรักษารถก่อนเทศกาลปีใหม่ และสินค้าใหม่ รองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า นอกจากนี้ยังจัดทำระบบจองสินค้าล่วงหน้า และบริการหลังการขายชั้นเลิศ ชูจุดเด่น จัดสต็อก Ready To Ship พร้อมส่ง รวดเร็ว พร้อมซัพพอร์ตทันที!
นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้แบรนด์ "POP" เปิดเผยว่า อะไหล่ POP มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ได้รับการยอมรับในทุกภูมิภาคของโลก มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 5,000 รายการ อาทิ ยางแท่นเครื่อง ลูกปืนรองรับเพลากลาง บูชปีกนก และชิ้นส่วนอื่น ๆ ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์ส่วนบุคคลจนถึงรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ อีกทั้งยังมีการรับจ้างผลิตชิ้นส่วน OEM (Original Equipment Manufacturer) ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ส่งผลให้ยอดขายเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ คาดการณ์การเติบโตที่ร้อยละ 10 โดยมีการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เช่น บังคลาเทศ เวียดนาม ลาว ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และประเทศในแอฟริกา เป็นต้น
สำหรับตลาดในประเทศไทย ภาพรวมของธุรกิจอะไหล่รถยนต์ในปี 2024 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอะไหล่ทดแทน REM เติบโต ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากจำนวนรถยนต์ในตลาดที่สูง โดยเฉพาะรถที่มีอายุการใช้งานนาน มักมีความต้องการอะไหล่ซ่อมบำรุงเป็นประจำ อีกทั้งเจ้าของรถที่ไม่ได้ซื้อรถใหม่มักเลือกใช้อะไหล่ทดแทนเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ผู้บริโภคจึงเลือกยืดอายุการใช้งานรถยนต์เดิม ทำให้มีความต้องการในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความต้องการชิ้นส่วนอะไหล่ REM เติบโตจากปัจจัยการใช้งานของรถยนต์ที่มีอายุมากขึ้น การซ่อมแซมรถยนต์เก่าที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่บ่อยครั้ง บริการซ่อมรถยนต์และอู่ซ่อมอิสระได้รับความนิยมสูงขึ้น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าศูนย์บริการ อีกทั้งการเลือกใช้อะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐาน ยังช่วยตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกที่คุ้มค่า โดยมองหาอะไหล่ทดแทนที่มีคุณภาพดีและราคาจับต้องได้ เป็นเหตุให้เจ้าของรถหันมาใช้อะไหล่ทดแทนแทนการซื้ออะไหล่ใหม่ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น" นายชวิศ กล่าวและเสริมว่า
นอกจากนี้ การปรับกลยุทธ์ของธุรกิจอะไหล่ทดแทน (REM) เพื่อรับมือกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลง เช่น ขยายกลุ่มสินค้าในหลายระดับราคา เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม พัฒนาคุณภาพอะไหล่ทดแทนให้ใกล้เคียงกับอะไหล่แท้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ใช้รถยนต์รุ่นเก่า พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำการบำรุงรักษารถยนต์ สำหรับกลยุทธ์การเติบโตของแบรนด์ "POP" ได้ปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยจัดแคมเปญส่งท้ายปีร่วมกับร้านค้า จัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการสั่งซื้อ และออกแพ็คเกจบริการบำรุงรักษารถก่อนเทศกาลปีใหม่ พร้อมเพิ่มสินค้ายอดนิยมเข้าสู่ตลาดเพื่อรองรับความต้องการ นอกจากนี้ยังจัดทำระบบจองสินค้าล่วงหน้าเพื่อให้ลูกค้าประจำมั่นใจในความพร้อมของสินค้า การบริการที่รวดเร็วและบริการหลังการขาย สินค้ามีสต็อกไว้ตลอด เรียกว่า Ready To Ship พร้อมส่ง มีความรวดเร็วในการจัดส่ง และพร้อมซัพพอร์ตลูกค้าเมื่อมีปัญหา
"ส่วนด้านคุณภาพ อะไหล่ REM ของ POP มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกับ OEM ซึ่งมีการปรับปรุงพัฒนามาตรฐานให้ดีขึ้นและทันสมัยอยู่ตลอด โดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้แบรนด์ POP ได้รับการรับรองตามมาตรฐานระดับสากล อาทิ Thailand Trust Mark (T MARK) ระบบ IATF 16949:2016 และมาตรฐาน ISO9001 นอกจากนี้ POP ยังวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมรถยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังหมดประกัน เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและเครือข่ายตัวแทนในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งเพื่อรองรับการเติบโต รวมถึงจัดอบรมเทคนิคให้กับช่างอู่พันธมิตร และสร้างแอพพลิเคชันค้นหาอะไหล่และตรวจสอบราคา เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว" นายชวิศ กล่าวในท้ายสุด
ผู้ประกอบการและลูกค้าที่สนใจชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยางคุณภาพ ภายใต้แบรนด์ "POP" สามารถสอบถามรายละเอียด ที่ร้านอะไหล่รถยนต์ชั้นนำ ตัวแทนจำหน่าย หรือเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ https://chalitindustry.com หรือโทร. 02 8026400 หรือ Email: [email protected]
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK และองค์กรเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ำมันยั่งยืน (Roundtable on Sustainable Palm Oil : RSPO) ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อสนับสนุนความยั่งยืนในภาคธุรกิจปาล์มน้ำมันของไทย พร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยยกระดับการดำเนินธุรกิจสู่มาตรฐานสากลและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในตลาดโลก โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
KJL ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14001:2015 มุ่งมั่นสร้างศักยภาพด้านสิ่งแวดล้อมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
—
บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหา...
เปิดรับสมัครนักศึกษาสาขาด้านยางและโพลิเมอร์ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ Polymer Technology Summer Camp ประจำปี 2568 (รุ่น21)
—
กลุ่มบริษัทอินโนเวชั่น เป็นบริษัทที...
อารักขาพืชเจียไต๋เผยแนวทางสู่เป้าหมายเกษตรปลอดภัย ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพบนมาตรฐานสากล
—
" เกษตรปลอดภัยคือหัวใจหลักของการพัฒนาผลิตภัณฑ์อารักขาพืชเจียไต๋ เพราะ...
กรมวิทย์ฯ บริการ ต่อยอดภูมิปัญญาจัดอบรม "เทคนิคการเขียนเทียนบนผืนผ้าด้วยปากกาจันติ้งไฟฟ้าแบบพกพา" ณ จังหวัดสงขลา
—
นางอาภาพร สินธุสาร ผู้อำนวยการสถาบันวิท...
SCB คว้า 6 รางวัลยอดเยี่ยม จาก 4 เวทีชั้นนำระดับโลก ตอกย้ำบทบาทความเป็นผู้นำด้านลูกค้าบุคคลของเมืองไทย
—
ธนาคารไทยพาณิชย์ นำโดย นายวิฑูรย์ พรสกุลวานิช Chi...
"ไลอ้อน ประเทศไทย" เปิดตัว "ไลปอนเอฟ เอ็กซ์ตร้า ไฮจีนิค" สูตรใหม่ ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่ใส่ใจสุขอนามัยของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
—
บริษัท ไลอ้อน ...
ลัคกี้เฟลม ครบรอบ 50 ปี เดินหน้าสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์อัจฉริยะสู่โลกอนาคต
—
นางอมรรัตน์ ลีลาศวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ (คนกลาง) นายเช...