สกสว.-บพข. กองทุนววน. -อบก. และ TEATA เข้าร่วมงาน WTM 2024 ผลักดัน Carbon Neutral Tourism สู่ตลาดโลก และสร้างพันธมิตร Net Zero Tourism กับหน่วยงานชั้นนำระดับสากล

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) และผู้ทรงคุณวุฒิหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.), ได้รับมอบหมายจาก ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.), และรศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.), นำคณะผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน นักวิจัย อาทิ ผศ.อนพัทย์ หนองคู ผู้ประสานงานแผนงานการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บพข., ดร.ชื่นนภา นิลสนธิ ผู้ช่วยผู้ประสานงานฯ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) , รศ.ดร.ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ , ผศ.ดร.พิมพลภัส พงศกรรังศิลป์ คณบดีสำนักวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ , รศ.ประภาศรี ศรีประดิษฐ์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร , คุณภคมน สุภาพพันธ์. ผู้อำนวยการ สำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ อบก. , คุณพวงพันธ์ ศรีทอง ผู้จัดการ สำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ อบก., คุณวสุมน เนตรกิจเจริญ นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) ,ดร.ปาริชาต สุนทรารักษ์ อุปนายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA), คุณนิพัทธ์พงษ์ ชวนชื่น ผู้ก่อตั้ง trekking THAI และอุปนายกสมาคมการค้าเครือข่ายท่องเที่ยวเชิงนิเวศเอเชีย (AEN) และ Mr.Peter Richards International Partnerships Coordinator และนักวิจัยทีม TOGETHER NZT Project (Net Zero Tourism) by Thailand's TSRI, PMUC & Partners เข้าร่วมงาน World Travel Mart 2024 (WTM 2024) ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ซึ่งถือเป็นเวทีใหญ่ระดับโลกที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และวิสัยทัศน์ด้านการท่องเที่ยว การเข้าร่วมครั้งนี้เน้นการผลักดันการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism : CNT) สู่ตลาดโลก ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวที่มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Tourism : NZT) เพื่อพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้สอดคล้องกับเป้าหมายโลกด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม

สกสว.-บพข. กองทุนววน. -อบก. และ TEATA เข้าร่วมงาน WTM 2024 ผลักดัน Carbon Neutral Tourism สู่ตลาดโลก และสร้างพันธมิตร Net Zero Tourism กับหน่วยงานชั้นนำระดับสากล

WTM 2024 ในปีนี้ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือระดับโลกเพื่อเปลี่ยนแปลงการท่องเที่ยวให้มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Positive Tourism ที่ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และเน้นการสร้างผลลัพธ์เชิงบวก ผ่านการสัมมนาและการเสวนาต่าง ๆ เช่น The Collaborative Journey to Net Zero Positive Tourism, The Great Uncertainty: Planning in a Changing World และ The Global Pathway to an Inclusive Future: Going From "Say" to "Do" ที่ช่วยสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจากการวางแผนเชิงกลยุทธ์สู่การปฏิบัติจริง โดยทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมได้รับการสนับสนุนให้มองเห็นว่าการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืนนั้นไม่เพียงแค่ช่วยให้ธุรกิจมีความมั่นคง แต่ยังช่วยสร้างผลกระทบที่ดีต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย สกสว.-บพข. กองทุนววน. -อบก. และ TEATA เข้าร่วมงาน WTM 2024 ผลักดัน Carbon Neutral Tourism สู่ตลาดโลก และสร้างพันธมิตร Net Zero Tourism กับหน่วยงานชั้นนำระดับสากล

WTM 2024 ครั้งนี้ได้จัดเวทีเสวนาที่หลากหลาย ครอบคลุมประเด็นทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อาทิ Embracing a Circular Economy Addresses Climate Change และ Preventing the Destructive Peaks of Mass Tourism ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและการลดของเสียที่เกิดจากการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันหัวข้อ Aviation Trends: A Reflection on the Past, Present ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเห็นถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการปรับเปลี่ยนการท่องเที่ยวในอนาคตให้ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

หนึ่งในประเด็นที่มีความสำคัญในงานครั้งนี้ คือการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู (Regenerative Tourism) ซึ่งเน้นถึงการสร้างการท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยในหัวข้อ "Sustainability Summit - The Rise of Regenerative Tourism" ได้กล่าวถึงแนวทางการท่องเที่ยวที่ช่วยคืนคุณค่าให้กับชุมชนและระบบนิเวศ พร้อมทั้งลดผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกัน หัวข้อ "The Future of Regenerative Tourism" ยังได้เน้นถึงการสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างแท้จริง

การสัมมนาในหัวข้อ "Radical Stakeholder Engagement - Collaborating with Place, Community, and Nature"เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างนักท่องเที่ยว ชุมชน และผู้ประกอบการ เพื่อสร้างการท่องเที่ยวที่มีความสมดุลและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ทุกภาคส่วนมีบทบาทในการพัฒนาอย่างเท่าเทียมและร่วมกัน

การท่องเที่ยวแบบ Carbon Neutral และ Net Zero ได้กลายเป็นแนวทางสำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลก โดยเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมการท่องเที่ยวให้เหลือศูนย์หรือเท่ากับศูนย์สุทธิ (Net Zero) ผ่านเครื่องมือ กระบวนการ นวัตกรรม เทคโนโลยี และมาตรการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม งาน WTM 2024 ครั้งนี้ทำให้ผู้แทนไทยสามารถนำเสนอแนวทางและนโยบายในการพัฒนาโปรแกรมการท่องเที่ยวแบบ Carbon Neutral และ Net Zero โดยให้ความสำคัญทั้งในแง่ของการตลาดเพื่อสร้างรายได้และในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ

นอกจากการประชุมภายในงาน WTM 2024 คณะผู้แทนจากไทย ประกอบด้วย ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส สกสว., ผศ.อนพัทย์ หนองคู ผู้ประสานงานแผนงานการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บพข., ดร.ชื่นนภา นิลสนธิ ผู้ช่วยผู้ประสานงานฯ , รศ.ดร.ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ , ผศ.ดร.พิมพลภัส พงศกรรังศิลป์ คณบดีสำนักวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ , ผศ.ดร.รัชพงษ์ กลิ่นศรีสุข คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล , คุณภคมน สุภาพพันธ์. ผู้อำนวยการ สำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ อบก. , คุณพวงพันธ์ ศรีทอง ผู้จัดการ สำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ อบก., คุณนิพัทธ์พงษ์ ชวนชื่น ผู้ก่อตั้ง trekking THAI และอุปนายกสมาคมการค้าเครือข่ายท่องเที่ยวเชิงนิเวศเอเชีย (AEN) และ Mr.Peter Richards International Partnerships Coordinator และนักวิจัยทีม TOGETHER NZT Project (Net Zero Tourism) by Thailand's TSRI, PMUC & Partners และคุณศิราณี อนันตเมฆ ที่ปรึกษาสมาคมท่องเที่ยวเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ยังได้พบปะและพูดคุยกับองค์กรนานาชาติที่มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เช่น Azores, Planetera, Travel Foundation, และ Travelife Partner เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางปฏิบัติในการลดคาร์บอนจากกิจกรรมการท่องเที่ยว การพบปะและสร้างเครือข่ายเหล่านี้ช่วยให้ประเทศไทยสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและแนวทางที่สามารถนำมาปรับใช้ได้จริงในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และยั่งยืนที่เน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การเข้าร่วมงาน World Travel Mart 2024 (WTM 2024) ครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยให้คณะผู้แทนไทยได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนแนวคิดกับผู้นำในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจากทั่วโลก การสัมมนาและเวทีเสวนาหลากหลายหัวข้อได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ และนำเสนอแนวทางที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน ทั้งการวางแผนเชิงกลยุทธ์ในยุคแห่งความเปลี่ยนแปลง การพัฒนาการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) และการมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนได้อย่างยั่งยืน การพบปะและสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศยังช่วยเสริมสร้างพันธมิตรที่สำคัญสำหรับอนาคตของการท่องเที่ยวไทย คณะผู้แทนไทยตั้งเป้าที่จะนำความรู้และแนวทางที่ได้จากงานในครั้งนี้กลับมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศให้ก้าวหน้า ตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับให้การท่องเที่ยวไทยก้าวไปสู่มาตรฐานสากลอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทย ยังได้ศึกษาดูงานด้านการท่องเที่ยวที่มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Tourism) หลังเข้าร่วมงาน WTM 2024 ด้วยความร่วมมือจาก Visit Scotland

ภายหลังการเข้าร่วมงาน World Travel Mart 2024 (WTM 2024) ณ กรุงลอนดอน คณะผู้แทนไทยซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานสำคัญ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.), หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.), องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) , สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) และคณะทำงาน TOGETHER NZT Project (Net Zero Tourism) by Thailand's TSRI, PMUC & Partners ยังได้เดินทางไปยังเมืองลีดส์และเมืองเอดินบะระ สหราชอาณาจักร เพื่อศึกษาดูงานจากองค์กรที่มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) โดยมี Visit Scotland เป็นผู้ประสานงานที่สำคัญ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและติดต่อประสานงานกับองค์กรต่างๆ เพื่อให้คณะผู้แทนไทยได้เข้าชมและหารือร่วมกันกับผู้บริหารสถานประกอบการที่เป็นตัวอย่างการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

การศึกษาดูงานครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยให้คณะผู้แทนไทยได้เรียนรู้แนวทางและเทคนิคในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรที่ Visit Scotland ติดต่อให้คณะผู้แทนไทยได้เยี่ยมชมหน่วยงานสำคัญของสก็อตแลนด์ 4 องค์กร ได้แก่ Port of Leith Distillery ในเมืองลีดส์, Camera Obscura, Mercat Tours และ Dynamic Earth ในเมืองเอดินบะระ ซึ่งล้วนเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับการมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ประกอบด้วย

  • โรงกลั่น Port of Leith ในเมืองลีดส์ ประเทศสกอตแลนด์ เป็นหนึ่งในธุรกิจต้นแบบที่มุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต การออกแบบกระบวนการที่ประหยัดพลังงาน และการลดปริมาณการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ Port of Leith ใส่ใจทุกขั้นตอนตั้งแต่การจัดหาและเลือกใช้วัตถุดิบไปจนถึงการบรรจุภัณฑ์ โดยเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โรงกลั่นนี้ยังมีมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยคงไว้ซึ่งคุณภาพมาตรฐานที่สูง ซึ่งทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดี พร้อมทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การดำเนินงานของ Port of Leith จึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการผสมผสานความยั่งยืนเข้ากับธุรกิจได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นแนวทางที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในประเทศไทยสามารถนำไปปรับใช้เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างคุณค่าเชิงบวกให้กับชุมชน
  • Camera Obscura & World of Illusions เป็นพิพิธภัณฑ์เชิงประสบการณ์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งโดดเด่นด้วยการนำเสนอประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครผ่านเทคนิคแสงและภาพลวงตาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่เพียงมีชื่อเสียงด้านการจัดแสดงที่สร้างความสนุกสนานและเสริมสร้างจินตนาการ แต่ยังเป็นต้นแบบของการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการรีไซเคิลอย่างครอบคลุม ซึ่งสะท้อนถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง Camera Obscura มุ่งมั่นลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน พร้อมทั้งส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านการจัดแสดงและกิจกรรมที่กระตุ้นความตระหนักในประเด็นสิ่งแวดล้อมโดยตรงกับผู้เข้าชม พิพิธภัณฑ์นี้จึงเป็นตัวอย่างที่ดีของการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ไม่เพียงแต่ดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ยังช่วยเสริมสร้างความรู้และจิตสำนึกในการดูแลสิ่งแวดล้อม
  • Mercat Tours เป็นบริษัททัวร์ที่ตั้งอยู่ในเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ โดดเด่นด้วยการนำเสนอประสบการณ์ทัวร์แบบเดินเท้าที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากการเดินทาง และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสบรรยากาศและเรื่องราวของเมืองอย่างลึกซึ้ง โปรแกรมทัวร์ของ Mercat Tours มีตั้งแต่การสำรวจประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ไปจนถึงเรื่องราวลึกลับของเอดินบะระ โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้และการเชื่อมโยงกับท้องถิ่นอย่างแท้จริง นอกจากนี้ Mercat Tours ยังมีนโยบายการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งเพื่อสนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น ทั้งในรูปแบบของการอนุรักษ์สถานที่สำคัญและการส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาชุมชน โดยให้ความสำคัญกับการสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืน Mercat Tours จึงเป็นตัวอย่างที่ดีของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ผสมผสานการพัฒนาธุรกิจเข้ากับการดูแลสิ่งแวดล้อมและการสนับสนุนชุมชน
  • ศูนย์การเรียนรู้ Dynamic Earth ตั้งอยู่ในเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ เป็นศูนย์การศึกษาและการท่องเที่ยวเชิงวิทยาศาสตร์ที่มุ่งเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและวิวัฒนาการของโลกอย่างลึกซึ้ง ผ่านการนำเสนอที่น่าตื่นตาตื่นใจและเทคโนโลยีล้ำสมัย ศูนย์แห่งนี้ใช้การจำลองสภาพภูมิประเทศ เสียง และภาพเคลื่อนไหวเพื่อพาผู้เข้าชมย้อนเวลากลับไปสำรวจโลกตั้งแต่ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน Dynamic Earth มีจุดเด่นในเรื่องของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพภายในอาคาร โดยติดตั้งระบบประหยัดพลังงานและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ศูนย์ฯ ยังมีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งการจำลองการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ การให้ความรู้เรื่องพลังงานทดแทน และการส่งเสริมการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ Dynamic Earth ไม่เพียงเป็นแหล่งความรู้ที่กระตุ้นให้ผู้เข้าชมเกิดความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจที่ช่วยเสริมสร้างจิตสำนึกในการปกป้องโลกอย่างยั่งยืน

การศึกษาดูงานในครั้งนี้ ทำให้คณะผู้แทนไทยได้เรียนรู้ถึงวิธีการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ในการพัฒนาโปรแกรมและแพ็กเกจการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ สกสว. บพข. ได้รับแนวทางในการสนับสนุนและวิจัยด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ส่วน อบก. สามารถนำหลักการและแนวปฏิบัติที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้ในการออกระเบียบวิธีหรือกลไกเพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ขณะที่นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งภาคเอกชนสามารถใช้ข้อมูลที่ได้รับมาปรับกลยุทธ์และเสนอโครงการท่องเที่ยวที่ตอบสนองต่อนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

การเดินทางศึกษาดูงานในครั้งนี้ เปิดมุมมองใหม่ให้แก่คณะผู้แทนไทยในการพัฒนาและยกระดับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่สำคัญระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักร โดยความช่วยเหลือและการประสานงานของ Visit Scotland ที่อำนวยความสะดวกและช่วยติดต่อกับองค์กรสำคัญต่างๆที่นับเป็นต้นแบบการบริหารจัดการ Net Zero ชั้นแนวหน้า ทำให้คณะผู้แทนไทยได้รับประสบการณ์ตรงจากการดูงาน ซึ่งจะนำไปสู่การสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวไทยให้ตอบสนองต่อตลาดการท่องเที่ยวที่เน้นความยั่งยืน พร้อมส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการเติบโตของชุมชนท้องถิ่นอย่างแท้จริง

คณะผู้แทนไทยตั้งเป้าหมายที่จะนำความรู้และบทเรียนที่ได้จากการศึกษาดูงาน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เชิงวิชาการจากฐานการวิจัยในครั้งนี้มาประยุกต์ใช้สนับสนุนความร่วมมือขององค์กรภาคีเครือข่ายของประเทศไทยที่ได้มีการประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวที่มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ของ 4 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม / กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา / กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม / กระทรวงการต่างประเทศ และภาคีจาก 14 หน่วยงาน ได้แก่ สกสว. / บพข. / ททท. / อพท. / สสปน. / อบก. / หอการค้าไทย / TEATA / กรมการท่องเที่ยว / กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ / กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม / ATTA / THA / TICA เพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการของประเทศไทยบนฐานคุณค่าทางเศรษฐกิจที่เน้นความยั่งยืนทางสังคม/ชุมชนและสิ่งแวดล้อมของไทยต่อไป


ข่าวสมปอง คล้ายหนองสรวง+ธงชัย สุวรรณสิชณน์วันนี้

สอวช.- สกสว.- สวทช. บินหารือมูลนิธิวิจัยแห่งชาติสิงคโปร์ ขับเคลื่อนวิจัยพัฒนาเศรษฐกิจสังคม

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำโดย ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการ สอวช. ศ.ดร. สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. และ ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช

รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ ผู้อำนวยการหน่วย... บพข. รับโล่ประกาศเกียรติคุณผู้สนับสนุนระบบนิเวศธุรกิจฐานวิจัยนวัตกรรมของประเทศไทย — รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่...

หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสา... บพข. - มจพ เตรียมปล่อยดาวเทียมแนคแซท 2 (KNACKSAT-2) ฝีมือเด็กไทยขึ้นสู่วงโคจร — หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ...

ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการหน่วย... แถลงข่าว CODING ERA — ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัย ...

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจ... สกสว. จัดเวทีชี้แจงจัดสรรงบประมาณปี 65 เร่งเครื่องหนุนวิทยาศาสตร์ วิจัย นวัตกรรม ยกระดับชาติ — สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกส...

หน่วยงานด้านการวิจัย สกสว. ชู "นวัตกรรม I... สกสว. หนุนวิจัยยกระดับการเลี้ยงปลานิลเพิ่มมูลค่าหมื่นล้าน — หน่วยงานด้านการวิจัย สกสว. ชู "นวัตกรรม IPRS" การเลี้ยงปลานิลในระบบปิด ยกระดับการเลี้ยงปลานิลข...

สมศ. จัดเสวนา เปิด“มาตรฐานงานวิจัย : จุดอ่อนของอุดมศึกษาไทย”

สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) เรียนเชิญสื่อมวลชนร่วมฟังเสวนาโอกาสครบรอบ 15 ปี สมศ. ใน งานการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ประจำปี พ.ศ.2558 หัวข้อ "มาตรฐานงานวิจัย : จุดอ่อนของอุดมศึกษาไทย " เปิดปูมงานวิจัย...