ณ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก กลุ่มนักเรียนและประชาชนในชุมชนได้มารวมตัวกันภายใต้หลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่งติดตั้งใหม่ เพื่อรับฟังคำอธิบายจากหัวเว่ยและผู้ติดตั้ง เกี่ยวกับการนำพลังงานสะอาดมาใช้ไม่เพียงแต่ในห้องสมุดสาธารณะ แต่ยังสร้างอนาคตที่สดใสและยั่งยืนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอโครงการ "ดิจิทัลบัสเพื่อสังคม" (Digital Bus) ซึ่งได้เข้ามาถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับพลังงานสะอาด การตระหนักรู้ด้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ และการสื่อสารโทรคมนาคมแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ดิจิทัลบัสดังกล่าวได้ทำการฝึกอบรมนักเรียนกว่า 4,500 คนใน 10 จังหวัดพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน
                                                                                                                                        นี่คือจุดเริ่มต้นของโครงการการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ภายใต้โครงการ #TECH4ALL ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความริเริ่มในการสร้างความเท่าเทียมทางดิจิทัลระดับโลกของหัวเว่ย โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างหัวเว่ย, เจเอ โซลาร์, องค์การยูเนสโก และกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีเป้าหมายในการนำโซลูชันพลังงานสะอาดและโอกาสทางดิจิทัลไปสู่ 11 โรงเรียนและศูนย์ชุมชน พร้อมพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาดและทักษะทางดิจิทัลให้กับนักเรียนรุ่นใหม่ เพื่อส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืน
การเปลี่ยนห้องเรียนและชุมชนให้เป็นแรงผลักดันการเปลี่ยนแปลง
โครงการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงแต่เป็นการบริจาคอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ (PV) แต่เป็นการสร้างเส้นทางสู่ความยั่งยืนและโอกาสในการพัฒนา โดยการติดตั้งระบบพลังงานทดแทนในโรงเรียนและส่งเสริมทักษะทางเทคนิค โครงการนี้จึงเป็นการตอบโจทย์ความท้าทายในด้านการศึกษาและพลังงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ขาดแคลนทรัพยากร
โครงการนี้ได้รับการขับเคลื่อนด้วยหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่
- โรงเรียนสีเขียวสำหรับการศึกษาระดับมัธยมศึกษา - การติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงเรียนมัธยมศึกษา พร้อมการฝึกอบรมครูและนักเรียนเกี่ยวกับประโยชน์และการดำเนินงานของพลังงานสะอาด
 - โรงเรียนสีเขียวสำหรับการศึกษาด้านวิชาชีพ - การเสริมสร้างทักษะทางเทคนิคให้แก่นักเรียนในสถาบันการศึกษาเทคนิคและวิชาชีพ ผ่านการเรียนรู้และการปฏิบัติงานกับระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเตรียมความพร้อมพวกเขาสู่การทำงานในภาคพลังงานทดแทนที่กำลังเติบโต
 - ชุมชนสีเขียว - การสนับสนุนห้องสมุดสาธารณะและศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยระบบพลังงานทดแทน พร้อมโปรแกรมการศึกษาดิจิทัลเคลื่อนที่ รวมถึงการฝึกอบรมด้านพลังงานสะอาดและความปลอดภัยทางไซเบอร์ ผ่านโครงการดิจิทัลบัส (Digital Bus) ของหัวเว่ย
 
การเปิดตัวที่สถานที่สำคัญ
สองแห่งแรกที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่เป็นรูปธรรม:
- วิทยาลัยการอาชีพกาญจนาภิเษก หนองจอก: สถาบันการอาชีพนี้จะนำระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้รับการบริจาคมาใช้ในการสอนนักเรียนเกี่ยวกับการติดตั้ง การบำรุงรักษา และการดำเนินงานของระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเสริมสร้างทักษะทางเทคนิคที่จำเป็นสำหรับการจ้างงานในอนาคต
 - ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอบ้านนา: ศูนย์ชุมชนที่ให้การฝึกอบรมแบบไม่มีค่าใช้จ่ายในด้านพลังงานสะอาดและการรู้เท่าทันดิจิทัล โดยมุ่งหวังที่จะเติมเต็มช่องว่างทักษะในพื้นที่ที่ขาดแคลนทรัพยากร
 
ความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการส่งเสริมความยั่งยืนและการปฏิรูปการศึกษา เป็นหัวใจสำคัญของโครงการนี้ การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของประเทศ สอดคล้องกับความพยายามในการปรับปรุงระบบการศึกษาและเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนด้วยทักษะที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการในอนาคต แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าที่สำคัญ แต่ยังคงมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ: การเข้าถึงการศึกษาด้านพลังงานสะอาดและการรู้เท่าทันดิจิทัลยังคงมีความไม่เท่าเทียม โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท
"โครงการการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เพียงแค่โครงการความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) แต่เป็นการลงทุนระยะยาวในเยาวชนและอนาคตของประเทศไทย" นายเดวิด หลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย ประเทศไทย กล่าว "การผสานโซลูชันพลังงานสะอาดเข้ากับการศึกษาผ่านการปฏิบัติจริง เรามุ่งหวังที่จะสร้างแบบอย่างสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนและการสร้างความเท่าเทียม"
ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเจเอ โซลาร์ กล่าวว่า "ด้วยภารกิจในการ พัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อประโยชน์แก่โลก เจเอ โซลาร์ มุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรชั้นนำที่มีความยั่งยืน เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของประเทศไทย และเสริมสร้างความรู้เชิงปฏิบัติให้กับนักเรียน โครงการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน และสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในชุมชน"
ครูจากโรงเรียนท้องถิ่น ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญและประโยชน์ของโครงการนี้ว่า "โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่มีอิทธิพลเนื่องจากเป็นการร่วมมือระหว่างบริษัทระดับโลกและโรงเรียนท้องถิ่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีคุณค่า การบริจาคอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์จะมอบโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกทักษะในการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบพลังงานทดแทน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดแรงงาน"
โครงการการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมไม่เพียงแต่มอบทรัพยากรที่สำคัญให้กับนักเรียนและชุมชน แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในอนาคต หัวเว่ย, เจเอ โซลาร์ และพันธมิตรจะขยายขอบเขตของโครงการนี้ โดยเชิญชวนองค์กรต่างๆ เข้าร่วมภารกิจสำคัญในการเสริมสร้างทักษะและเครื่องมือให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมไทยที่ยั่งยืน
                            
                            "STEM Racing Thailand National Finals 2025" เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ จุดประกายพลังเยาวชนไทยสู่เวทีนวัตกรรมโลก
                        
                            มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ร่วมกับ สพฐ. และภาคีเครือข่าย จัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านโภชนาการ พัฒนาอาหารกลางวันเพื่อโภชนาการเด็กไทย
                        
                            ศธ. น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระพันปีหลวง รวมพลัง Fix It - จิตอาสา ซ่อม-สร้าง-ช่วยเหลือพร้อมส่งมอบบ้าน-จักรยานยนต์ ให้ครอบครัวผู้ประสบภัยชายแดนสุรินทร์ ถวายเป็นพระราชกุศล
                        
                            "ซีเอ็ด" เปิดพื้นที่สนุกกับการค้นพบแรงบันดาลใจ ในงานสัปดาห์หนังสืออุบลราชธานี ครั้งที่ 14 พร้อมมอบสื่อการเรียนรู้รวมมูลค่า 1.2 ล้านบาท
                        
                            อมรินทร์กรุ๊ป เดินหน้าลุยต่อ โครงการ "ส่งความรู้ สร้างความสุข" ปลูกฝังเด็กไทยรักการอ่าน เพื่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่ดีขึ้น
                        
                            "วรัท" ยอมรับหลักสูตรอบรมลูกเสือล้าสมัย สลช.เร่งปรับปรุงให้โดนใจวัยโจ๋
                        
                            รมว. นฤมล เปิดเวทีสัมมนา OECD ขับเคลื่อนโครงการ 'Developing Skills Strategy in Thailand' ยกระดับกำลังคนสู่เศรษฐกิจ BCG
                        
                            โฟร์โมสต์ผนึกกำลังพันธมิตร "ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทย" ปีที่ 5