บลจ.กรุงศรี คัด SSF/RMF/Thai ESG ตอบโจทย์แนวโน้มเศรษฐกิจ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บลจ.กรุงศรี คัดสรร SSF/RMF/Thai ESG มาแนะนำ ครบทั้งกองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสมหลายสินทรัพย์ หุ้นไทย และกองทุนหุ้นสไตล์ defensive ซึ่งเหมาะกับการลงทุนยาว ตอบโจทย์ทุกสภาวะการลงทุนพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

บลจ.กรุงศรี คัด SSF/RMF/Thai ESG ตอบโจทย์แนวโน้มเศรษฐกิจ

นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า "ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้และปีหน้า คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดย IMF ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้าไว้ที่ประมาณ 3.2% และความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอยู่ในระดับต่ำ ส่วนปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตลาดในช่วงนี้คือ ดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มลดลง และนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก" บลจ.กรุงศรี คัด SSF/RMF/Thai ESG ตอบโจทย์แนวโน้มเศรษฐกิจ

"สำหรับตลาดหุ้นโลก ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และ ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าในปีนี้ผลกำไรจะเติบโต 9% และในปีหน้าจะเติบโต 12% โดยการเติบโตนี้ไม่จำกัดเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยี แต่กระจายไปยังหลายอุตสาหกรรม"

"ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ตอบรับในเชิงบวกจากนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะการปรับลดภาษีนิติบุคคลจาก 21% สู่ 15% ซึ่งช่วยกระตุ้นการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน รวมถึงการผ่อนคลายกฎระเบียบทางธุรกิจ ในขณะที่การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศตลาดเกิดใหม่ เช่น จีน แคนาดา และเม็กซิโก อาจส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ยังคงเป็นขาลง โดยคาดว่า FED จะดำเนินการปรับลดดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่อาจเป็นการปรับลดในอัตราที่ชะลอลง"

"เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ธปท. คาดการณ์ว่าจะเติบโตที่ 2.7% และโต 2.9% ในปีหน้า โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือผลกระทบจากนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจส่งผลกดดันต่อภาคการส่งออกและการลงทุนในประเทศไทย เช่น นักลงทุนต่างชาติอาจชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจน ขณะเดียวกันดอกเบี้ยนโยบายไทยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอีก ส่งผลให้ผลตอบแทนจากพันธบัตรไทยลดลง ขณะที่ผลตอบแทนจากพันธบัตรสหรัฐในช่วงนี้กลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดกังวลว่านโยบายของนายทรัมป์จะก่อให้เกิดเงินเฟ้อ และจะส่งผลให้เฟดลดดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาด ซึ่งเป็นทิศทางที่สวนทางกันอย่างชัดเจน โดยบลจ.กรุงศรี มองว่า ธปท. มีแนวโน้มที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 1-3 ครั้งภายในปีหน้า จนอยู่ในช่วง 1.50% - 2.00%"

"สำหรับการลงทุนระยะยาวในกองทุนลดหย่อนภาษี นอกจากการพิจารณาปัจจัยต่างๆดังกล่าวแล้ว ควรให้ความสำคัญกับแนวโน้มการลงทุนระยะยาวและการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น ตราสารหนี้ กองทุนผสม และหุ้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว พร้อมทั้งได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี"

"บลจ.กรุงศรี มีกองทุนลดหย่อนภาษีแนะนำที่ตอบโจทย์การลงทุน โดยกองทุนที่แนะนำสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเสี่ยงสูง ได้แก่ กองทุน KFAFIXSSF และ KFAFIXRMF ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางทั้งภาครัฐและหุ้นกู้เอกชนไทย ด้วยกลยุทธ์ Active Management ที่ยืดหยุ่นสูง มีการปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ย เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้ระยะสั้นและชนะเงินเฟ้อ นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยบวกจากดอกเบี้ยนโยบายในหลายประเทศทั่วโลกที่เข้าสู่ช่วงขาลงโดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งช่วยกระตุ้นการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ รวมถึงกองทุน KFSINCRMF กับ KFSINCFXRMF ที่กระจายลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกผ่านกองทุนของ PIMCO ที่ใช้กลยุทธ์ Income Strategy ให้ความสำคัญกับความสม่ำเสมอของผลตอบแทน ผสมผสานการลงทุนระหว่างตราสารหนี้คุณภาพสูงและตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืน

"หากรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น กองทุนหุ้นไทยแบบ Passive Fund อย่างกองทุนKFS100SSF และ KFS100RMF ที่จะเติบโตไปตามดัชนีหุ้น SET100 และการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเงินทุนของกองทุนวายุภักษ์ ความชัดเจนทางการเมือง รวมถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ หากใครต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศขอแนะนำ กองทุนKFGBRANSSF และ KFGBRANRMF ที่ลงทุนในหุ้นแบรนด์สินค้าที่มี Brand Loyalty สูงจากฐานลูกค้าทั่วโลก มีแนวโน้มของรายได้ที่สม่ำเสมอ เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มสุขภาพ และเทคโนโลยี ถือเป็นหุ้นสไตล์ defensive stock ที่ทนทานต่อความผันผวนได้ดี แม้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว" ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน เช่น Microsoft, SAP, Visa, Accenture, Aon เป็นต้น (ที่มา: Morgan Stanley Investment Management ณ 31 ส.ค. 67)"

"กองทุนผสม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว มีการปรับสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ตามสถานการณ์ เช่น กลุ่มKF1 SSF/RMF ที่เน้นลงทุนในประเทศเป็นหลัก และใช้มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญของกลุ่มกรุงศรี ในการจัดพอร์ตและปรับพอร์ตอย่างยืดหยุ่นตามสถานการณ์ตลาด โดยมี 3 คู่กองทุนให้เลือกตามเป้าหมายผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงที่รับได้ ได้แก่ KF1MILDSSF และ KF1MILDRMF เน้นลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก มีความผันผวนต่ำ KF1MEANSSF และ KF1MEANRMF กระจายลงทุนในตราสารหนี้, หุ้น และสินทรัพย์ทางเลือกในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน KF1MAXSSF และ KF1MAXRMF เน้นลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์ทางเลือกมากกว่าตราสารหนี้ เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้น"

"นอกจากนี้ยังมีกองทุน Thai ESG เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุนที่ไม่ต้องการถือกองทุนนาน หรือผู้ที่ลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณจนเต็มวงเงินลดหย่อนภาษีแล้ว ก็สามารถพิจารณาลงทุนเพื่อใช้สิทธิ์ภาษีเพิ่มได้เนื่องจากกองทุน Thai ESG มีวงเงินลดหย่อนที่แยกออกมาต่างหากอีก 300,000 บาท ได้แก่ กองทุนKFGBTHAIESG เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน และกองทุนKFTHAIESG ที่ลงทุนในหุ้น ESG ในดัชนี SETESG ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้กลยุทธ์ผสมผสานระหว่าง passive และ active management (โดยสัดส่วน90% ลงทุนตามดัชนี SETESG และ 10% ใช้กลยุทธ์เชิงรุก) มีให้เลือกลงทุนทั้ง KFTHAIESGD ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล และKFTHAIESGA ที่ไม่มีการจ่ายเงินปันผล"

"บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่า SSF/RMF และ Thai ESG ที่แนะนำได้คัดสรรมาแล้วว่าเหมาะกับเป้าหมายการลงทุนระยะยาวของผู้ที่ไม่ได้ต้องการเพียงสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเดียว แต่ต้องการเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนด้วยการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย มีศักยภาพการเติบโตของพอร์ตการลงทุนพร้อมบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะกับทุกช่วงเศรษฐกิจ" นางสุภาพร กล่าว

นอกจากนี้เมื่อลงทุนใน SSF/ RMF / Thai ESG ของ บลจ.กรุงศรี ที่ร่วมรายการรวมตลอดทั้งปีจนถึง 30 ธันวาคมนี้ จะได้รับหน่วยลงทุน KFCASH-A มูลค่า 100 บาทต่อยอดเงินลงทุนสะสมทุกๆ 50,000 บาทตามเงื่อนไขที่กำหนด

สอบถามเพิ่มเติมพร้อมขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่บลจ.กรุงศรี โทร. 02-657-5757 หรือ www.krungsriasset.com หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา


ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

KTAM ร่วมส่งเสริมการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี ปล่อย 3 กองทุน "Thai ESGX" IPO 2 - 8 พ.ค.นี้

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM) เปิดเผยว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพราะนอกจาก ThaiESG เดิมแล้ว เรายังได้สิทธิประโยชน์เพิ่มจาก Thai ESGX ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้มีการลงทุนระยะยาวเพิ่ม และเพื่อเป็นการรองรับการโอนจากกองทุน LTF อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทายของตลาดทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทย แต่เรามองว่าตลาดหุ้นไทยในตอนนี้ อยู่ในช่วงค่อนข้างลึกและอยู่ในช่วงสร้างฐานใหม่

บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4... บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4 กองทุนใหม่ Thai ESGX เปิดทางเลือกลงทุนแบบ Extra — บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4 กองทุนใหม่ Thai ESGX...

บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุนใหม่ "อีสท์สป... บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุนใหม่ "ES-GQG-UH" ลงทุนหุ้นคุณภาพดีทั่วโลก IPO 24-30 เม.ย. 68 นี้ — บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุนใหม่ "อีสท์สปริง Global Quality...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำก... บลจ.กสิกรไทย คว้า 5 รางวัลยอดเยี่ยม Best of the Best Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนของไทย — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กส...

บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่... กรุงศรีเปิดตัวกองทุน KF-EMXCN โอกาสเติบโตไปพร้อมกับ Emerging Market — บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่าความผันผวนจากสงครามการค้า ด้วยโอกาสลงทุนใน...

บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรร... บลจ.ทิสโก้เปิดกอง TGOV7M10 กองทุนรวมตราสารหนี้ อายุ 7 เดือน — บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรรัฐบาล 7 เดือน 10 (TGOV7M10) เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบ...

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไ... บลจ.กสิกรไทย ตอกย้ำ Trusted Asset Manager การบินไทย ไว้วางใจให้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ — กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่ง...