ฟอกสีฟัน Zoom VS ฟอกสีฟัน Cool Light เลือกอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

การมีฟันขาวสะอาดไม่เพียงแค่ทำให้คุณดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการพบปะผู้คน และเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีได้อีกด้วย การฟอกสีฟันเป็นทางเลือกที่หลายคนเลือกทำเพื่อให้ฟันขาวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการฟอกสีฟันในคลินิกที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ฟอกสีฟัน Zoom และ ฟอกสีฟัน Cool Light ทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีความแตกต่างในหลาย ๆ ด้าน หากคุณกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกใช้บริการฟอกสีฟันแบบไหน บทความนี้จะช่วยให้คุณทำความเข้าใจและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของทั้งสองระบบ เพื่อให้การเลือกทำฟอกสีฟันนั้นตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด

ฟอกสีฟัน Zoom VS ฟอกสีฟัน Cool Light เลือกอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง

การฟอกสีฟัน Zoom คืออะไร

การฟอกสีฟัน Zoom คือการใช้เทคโนโลยีการฟอกสีฟันด้วยแสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อกระตุ้นการทำงานของเจลฟอกสีฟันให้แทรกซึมลึกเข้าสู่ผิวฟันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการฟอกสีฟัน Zoom จะช่วยปรับสีฟันให้ขาวขึ้นภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น โดยที่ระบบนี้เป็นที่นิยมในคลินิกฟันทั่วโลก เนื่องจากมีการใช้แสงที่เหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ฟอกสีฟัน Zoom VS ฟอกสีฟัน Cool Light เลือกอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง

ข้อดีของการฟอกสีฟัน Zoom

  • เห็นผลได้ชัดเจนทันที : การฟอกสีฟัน Zoom สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้ถึง 3-8 ระดับหลังจากการฟอกครั้งแรก
  • เสียวฟันน้อย : การใช้แสงจากระบบ Zoom พบว่าอาการเสียวฟันน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการฟอกฟันด้วยวิธีอื่น ๆ
  • ใช้เวลาไม่นาน : กระบวนการฟอกฟันใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสีฟันเดิมร่วมด้วย
  • ปลอดภัย : การฟอกสีฟัน Zoom ได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยสูงสุด ไม่มีผลกระทบต่อเหงือกและฟัน

ข้อระวังของการฟอกสีฟัน Zoom

  • ค่าใช้จ่ายสูง : การฟอกสีฟันด้วย Zoom มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์เฉพาะทางในการฟอกสีฟัน
  • ทำได้แค่ในคลินิก : การฟอกสีฟัน Zoom ต้องทำภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ในคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น
  • การดูแลหลังการฟอก : หลังจากฟอกสีฟัน Zoon ต้องมีการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดี หากดูแลรักษาอย่างไม่ถูกต้องสีฟันที่ฟอกอาจจะอยู่ได้ไม่นาน

การฟอกสีฟัน Cool Light คืออะไร

การฟอกสีฟัน Cool Light คือการใช้แสงเย็นที่ไม่สร้างความร้อนในการกระตุ้นการทำงานของเจลฟอกฟัน ซึ่งทำให้ฟันขาวขึ้นได้โดยไม่ทำให้เกิดความร้อนที่อาจกระทบต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก ระบบนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และสามารถทำได้โดยไม่เกิดอาการเจ็บ ฟอกสีฟัน Zoom VS ฟอกสีฟัน Cool Light เลือกอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง

ข้อดีของการฟอกสีฟัน Cool Light

  • เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก : หลังจากการฟอกสีฟันครั้งแรก ฟันของคุณจะค่อย ๆ ขาวขึ้น
  • ไม่มีอาการเจ็บหรืออันตราย : เนื่องจากแสงที่ใช้ไม่ร้อน จึงไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือผลกระทบต่อเหงือกรอบ ๆ
  • สามารถทำฟอกที่บ้านต่อได้ : หากคุณได้รับชุดฟอกสีฟันจากทันตแพทย์ คุณสามารถทำการฟอกสีฟันต่อเนื่องที่บ้านได้ ซึ่งจะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่นานสูงสุดถึง 3 ปี

ข้อระวังของการฟอกสีฟัน Cool Light

  • อาจมีอาการเสียวฟันบ้าง : หากน้ำยาฟอกฟันแบบ Cool Light มีความเข้มข้นสูง อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้ แต่จะหายไปเองเมื่อประสาทฟันปรับสภาพได้
  • ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน : สีฟันที่ขาวขึ้นจะคงอยู่เพียง 6-12 เดือน หากต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น ต้องทำการฟอกฟันเองที่บ้านอย่างต่อเนื่อง
  • ค่าใช้จ่ายสูง : การทำฟอกสีฟันที่คลินิกด้วยระบบ Cool Light มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการฟอกฟันเองที่บ้าน

ความแตกต่างระหว่างการฟอกสีฟันทั้งสองแบบ

การฟอกสีฟัน Zoom และ ฟอกสีฟัน Cool Light มีการใช้แสงในการกระตุ้นการทำงานของน้ำยาฟอกสีฟัน แต่มีความแตกต่างในหลายประการ ดังนี้ ฟอกสีฟัน Zoom VS ฟอกสีฟัน Cool Light เลือกอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง

  1. ประเภทของแสง : การฟอกสีฟัน Zoom ใช้แสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง ในขณะที่การฟอกสีฟันแบบ Cool Light จะใช้แสงเย็นที่ไม่ทำให้เกิดความร้อน
  2. ความสะดวกในการทำ : การฟอกสีฟัน Zoom ต้องทำในคลินิกเท่านั้น ในขณะที่การฟอกสีฟัน Cool Light มีความสะดวกกว่าที่สามารถทำได้ทั้งในคลินิกและที่บ้าน (หากมีชุดฟอกสีฟันที่ทันตแพทย์ให้)
  3. ผลลัพธ์ : การฟอกสีฟันแบบ Zoom สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้ 3-8 ระดับในครั้งแรกที่ทำ ส่วนการฟอกสีฟันแบบ Cool Light ผลลัพธ์อาจค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นหลังจากทำต่อเนื่อง

สรุป

การเลือกใช้บริการ ฟอกสีฟัน Zoom หรือ ฟอกสีฟัน Cool Light ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพฟันของแต่ละคน หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นผลได้ทันที ฟอกสีฟัน Zoom เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะสามารถปรับความเข้มของแสงได้ตามสภาพฟันและให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นในเวลาสั้น ๆ ในขณะที่ฟอกสีฟัน Cool Light เหมาะสำหรับคนที่ต้องการวิธีที่ปลอดภัยและไม่เจ็บปวด รวมถึงสามารถทำที่บ้านต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น ทั้งสองเทคโนโลยีต่างก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการ


ข่าวเสริมสร้าง+เทคโนโลยีวันนี้

เข็มเหล็ก จับมือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาและยกระดับเทคโนโลยีฐานรากเสาเข็มเหล็ก หนุนอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยก้าวสู่สากล

บริษัท เข็มเหล็ก จำกัด (KEMREX) และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) เพื่อขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเสาเข็มเหล็ก และส่งเสริมการใช้นวัตกรรมฐานรากในภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างของไทยอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับมาตรฐานวิศวกรรมของประเทศในระยะยาว โดยจัดขึ้น ณ ห้องประชุมสวนรวมใจ อาคารวิศวกรรมศาสตร์ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ประกาศก... สิงห์ เอสเตท ประกาศการเปลี่ยนแปลงผู้นำเพื่อเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน — บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ประกาศการแต่งตั้ง นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ข...

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) คว้าสัญญาระยะยาวก... อีริคสันคว้าสัญญาร่วมบริหารเครือข่ายระยะยาวกับ Bharti Airtel ของอินเดีย — อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) คว้าสัญญาระยะยาวการให้บริการด้านการจัดการในศูนย์ปฏิบัติก...

'ไทยประกันชีวิต' ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน เดินหน้าโครงการ "เสริมโอกาส สร้างอาชีพ" ปีที่ 3

เดินหน้าเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนไทยอย่างต่อเนื่อง หลังประสบความสำเร็จจากโครงการ "ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สร้างอาชีพ" ในปีแรกและปีที่สอง บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จึงเดินหน้าโครงการฯ ต่อเนื่อง...