"โรคพาร์กินสัน" เรียนรู้และเข้าใจอาการเตือนที่ถูกมองข้าม อย่าปล่อยให้อาการเตือนเป็นเพียงภัยเงียบของการเกิดโรค

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

พาร์กินสัน หนึ่งในโรคที่เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาท แม้ว่าจะยังไม่มีการศึกษาได้อย่างชัดเจนถึงสาเหตุของการเกิดโรคนี้ แต่ก็มีหลายปัจจัยเสี่ยงที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุของการเป็นโรคนี้ นอกจากกรรมพันธุ์และอาการเสื่อมของระบบประสาทที่เป็นไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อีก อาทิ การมีประวัติการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเป็นเวลานาน หรือมีประวัติการได้รับการบาดเจ็บของสมองซ้ำๆ รวมถึงการเป็นโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมองและหัวใจ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ความผิดปกติของน้ำหนัก ฯลฯ

"โรคพาร์กินสัน" เรียนรู้และเข้าใจอาการเตือนที่ถูกมองข้าม อย่าปล่อยให้อาการเตือนเป็นเพียงภัยเงียบของการเกิดโรค

แต่ไม่ว่าสาเหตุของการเป็นโรคพาร์กินสันจะเกิดจากอะไรก็ตาม การรับรู้และภาพจำเกี่ยวกับโรคพาร์กินสันของคนทั่วไปคือ พาร์กินสันเป็นโรคที่เกิดในคนอายุมากกว่า 60 ปี และมีอาการสั่น

แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการของโรคพาร์กินสัน ยังมีอาการเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของร่างกายและอาการเกี่ยวกับทางระบบประสาทด้วย แต่การที่ความเข้าใจของคนส่วนใหญ่รู้จัก "อาการสั่น" ก็เพราะอาการสั่นจะเป็นอาการที่มองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า และมักเป็นอาการที่ผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยตัดสินใจพาผู้ป่วยเข้ามาพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษา

โรคพาร์กินสันมีระยะการดำเนินโรค รวมระยะที่มีอาการเตือนก่อนการดำเนินโรคเฉลี่ยนานมากกว่า 10-20 ปี ในผู้ป่วยพาร์กินสันจะมีอาการผิดปกติหลายระบบในร่างกายไม่แต่เฉพาะการเคลื่อนไหวผิดปกติ แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มอาการที่นอกเหนือจากการเคลื่อนไหวผิดปกติอีกหลายอาการ เช่น อาการเดินเกร็ง แขนขาเกร็ง เคลื่อนไหวผิดปกติ ทรงตัวผิดปกติ ปัญหาการนอนละเมอ ออกท่าทาง หรือออกเสียง ที่มักสัมพันธ์กับเนื้อหาความฝัน ปัญหาระบบประสาทอัตโนมัติ ปัญหาทางพุทธิปัญญา อาการท้องผูกเรื้อรัง รับกลิ่นได้ลดลง อาการซึมเศร้า รวมถึงอาการง่วงนอนผิดปกติในช่วงเวลากลางวัน ฯลฯ โดยมีลักษณะการดำเนินโรคในลักษณะเรื้อรัง และอาการจะรุนแรงมากขึ้นเมื่อมีการดำเนินโรคมากขึ้น

การรักษาโรคพาร์กินสันในอดีต จะเป็นในลักษณะของการตั้งรับ คือรอให้ผู้ป่วยมีอาการที่ชัดเจนก่อนจึงมาพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยว่าเป็นพาร์กินสัน ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการรักษา ที่มีทั้งการใช้ยารูปแบบต่างๆ ไปจนถึงการผ่าตัด ซึ่งผู้ป่วยที่มาพบแพทย์นั้นส่วนใหญ่จะมีอาการที่ค่อนข้างรุนแรงแล้ว ทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบัน มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถวินิจฉัยโรคได้ละเอียด แม่นยำ และรวดเร็วมากขึ้น แต่กว่าที่ผู้ป่วยจะตัดสินใจมาพบแพทย์ ก็มักจะมีอาการไปแล้วระดับหนึ่ง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษายังคงสูงอยู่

แม้ว่าโรคพาร์กินสันจะยังไม่มีวิธีป้องกัน รักษา หรือวัคซีนที่จะช่วยป้องกันได้ อีกทั้งการรักษาก็ยังไม่สามารถทำให้หายขาดจากโรคได้ เป็นได้แต่เพียงชะลอการดำเนินของโรคหรือลดอาการไม่ให้รุนแรงมากขึ้นจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ วงการแพทย์ยังพบว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การบริโภคอาหารที่ดี และการนอนที่มีคุณภาพจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคพาร์กินสันได้ในคนที่ยังไม่ได้เป็นโรคนี้ ส่วนคนที่เป็นโรคนี้ การปรับพฤติกรรมในเรื่องดังกล่าวจะช่วยชะลอระยะเวลาการดำเนินของโรคให้ยาวขึ้นได้

ปัจจุบันพบว่า ผู้ป่วยพาร์กินสันไม่ได้มีแต่เพียงกลุ่มคนที่อายุมากกว่า 60 ปีเท่านั้น แต่พบผู้ป่วยพาร์กินสันที่อายุน้อยกว่า 40 ปีแล้ว ทำให้วงการแพทย์ได้ศึกษาเกี่ยวกับโรคพาร์กินสันมากขึ้น และพบว่า โรคพาร์กินสัน จะมีสัญญาณเตือนก่อนการดำเนินโรคที่ค่อนข้างใช้เวลานานเป็นสิบปี ดังนั้น ผู้ที่มีอาการผิดปกติเรื้อรัง เช่น อาการท้องผูกเรื้อรัง การรับกลิ่นลดลง การนอนละเมอ รวมถึงอาการง่วงนอนผิดปกติในช่วงเวลากลางวันโดยที่ไม่ได้มีการอดนอนหรือพักผ่อนไม่เพียงพอแต่อย่างใด ถือเป็นสัญญาณเตือนภัยของความเสี่ยงที่จะเป็นโรคพาร์กินสันได้

คนวัยหนุ่มสาวจึงไม่ควรชะล่าใจ และมองว่าอาการผิดปกติเรื้อรังดังที่กล่าวมาเป็นเรื่องปกติ แต่ควรเข้าพบแพทย์เพื่อขอรับคำปรึกษา และตรวจวินิจฉัย ว่าอาการดังกล่าว จะใช่สัญญาณเตือนของการเป็นโรคพาร์กินสันหรือไม่

เพราะพาร์กินสัน ไม่ได้เป็นโรคที่เกิดแต่กับผู้สูงวัยเท่านั้น และยังเป็นโรคที่ส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าเป็นสิบปี ดังนั้น จึงเป็นการดีที่หากพบสัญญาณเหล่านี้ล่วงหน้า แล้วรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไปในขณะที่อาการยังไม่รุนแรงมากนัก

พาร์กินสัน แม้จะเป็นโรคที่รักษาไม่หาย แต่เป็นโรคที่ป้องกัน และรักษาเพื่อชะลออาการรุนแรงของโรคได้ หากตรวจพบได้เร็ว


ข่าวความดันโลหิตสูง+โรคพาร์กินสันวันนี้

"ใครกรนต้องรู้! มจธ. พัฒนา 'หมอนรองคออัจฉริยะ' สั่นเตือนก่อนคุณหยุดหายใจ"

"การกรน" เป็นสัญญาณของภัยเงียบที่ร้ายแรงกว่าที่หลายคนคิด เพราะคือเสียงเตือนของ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea OSA) ที่กำลังเป็นปัญหาด้านสุขภาพของคนทั่วโลก โดยเฉพาะเพศชาย อายุ 30 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือผู้ที่มีโครงสร้างทางเดินหายใจแคบ ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้ส่งผลเฉพาะด้านการนอนเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงของ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง และอุบัติเหตุจากการหลับใน ในประเทศไทยเอง งานวิจัยของ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ประชากรไทยมากถึง 10-30%

มิติใหม่ของการรักษาโรคลิ้นหัวใจ ด้วยแนวทางการบริหารจัดการตลอดช่วงชีวิตเพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

โรคหัวใจและหลอดเลือด (CVDs) กำลังกลายเป็นภัยคุกคามด้านสุขภาพที่สำคัญ โดยเฉพาะกับผู้ที่อายุน้อยกว่า 60 ปี แม้โรคนี้จะเคยพบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุจากความเสื่อมตามวัย แต่ปัจจุบันพฤติกรรมการใช้ชีวิตสมัยใหม่...

อายุ 30 ปีขึ้นไป "ไต" เสื่อมลงทุกปี รู้ทั... อายุ 30 ปีขึ้นไป "ไต" เสื่อมลงทุกปี รู้ทันสัญญาณเตือน ชะลอได้ ถ้ารู้วิธี — อายุ 30 ปีขึ้นไป "ไต" เสื่อมลงทุกปี รู้ทันสัญญาณเตือน ชะลอได้ ถ้ารู้วิธี หลายคน...

"ความดันโลหิตสูง" ปล่อยไว้นานเสี่ยง! "โรค... "ความดันโลหิตสูง" ปล่อยไว้นานเสี่ยง! "โรคหัวใจ" — "ความดันโลหิตสูง" ปล่อยไว้นานเสี่ยง! "โรคหัวใจ" หลายคนอาจมองว่า "ความดันโลหิตสูง" เป็นเรื่องเล็กน้อย ...

ทำไม? การลดน้ำหนักจึงสำคัญต่อสุขภาพโรคอ้ว... "ผ่าตัดกระเพาะอาหาร" ทางเลือกรักษาโรคอ้วน ป้องกันโรคเรื้อรัง — ทำไม? การลดน้ำหนักจึงสำคัญต่อสุขภาพโรคอ้วน ไม่ใช่แค่เรื่องของรูปร่างแต่เป็นสาเหตุสำคัญที่นำ...

พญ.วรัฏฐา สุภาวุฒิกุล จักษุแพทย์เฉพาะทางต... ต้อหินภัยร้าย ! อาจสูญเสียการมองเห็น — พญ.วรัฏฐา สุภาวุฒิกุล จักษุแพทย์เฉพาะทางต้อหิน ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า.. สุขภาพของดวงตาเป็น...

พญ.วรัฏฐา สุภาวุฒิกุล จักษุแพทย์เฉพาะทางต... ต้อหินภัยร้าย ! อาจสูญเสียการมองเห็น — พญ.วรัฏฐา สุภาวุฒิกุล จักษุแพทย์เฉพาะทางต้อหิน ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า..สุขภาพของดวงตาเป็น...

เช็กให้ชัวร์!.. "ต้อหิน" อันตรายที่อาจทำใ... เช็กให้ชัวร์!.. "ต้อหิน" อันตรายที่อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นถาวร — เช็กให้ชัวร์!.. "ต้อหิน" อันตรายที่อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นถาวร โรคต้อหิน เป็นหนึ่งในโ...