เอสซีจี ร่วมกับ ทช. เดินหน้าฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเลอย่างยั่งยืน ดำเนินโครงการ "การจัดการขยะปากแม่น้ำตรังและชายฝั่งแบบมีส่วนร่วมและยั่งยืน" ด้วยการส่งมอบ "ทุ่นกักขยะลอยน้ำ "SCGC - DMCR Litter Trap Gen 3" จำนวน 12 ชุด สำหรับติดตั้ง 12 จุด บริเวณเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจุดต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำตรัง เพื่อกักเก็บขยะก่อนหลุดสู่ทะเล ตัวทุ่นผลิตจากเม็ดพลาสติก HDPE เกรดพิเศษ ใช้งานได้นานกว่า 25 ปี รองรับขยะได้ถึง 700 กก.ต่อชุด ซึ่งมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อจัดการปัญหาขยะทะเลอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ ลดภาระขยะชายฝั่ง และปกป้องสัตว์ทะเลอย่างยั่งยืน
ดร.ชนะ ภูมี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ การบริหารความยั่งยืน เอสซีจี กล่าวการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมถือเป็นภารกิจสำคัญของเอสซีจี โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนควบคู่กับการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม โดยเอสซีจีได้ดำเนินโครงการ "รักษ์ภูผา มหานที" ซึ่งครอบคลุมการฟื้นฟูทรัพยากรน้ำและป่าต้นน้ำ การจัดการน้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน และการฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การปลูกป่าโกงกาง ปลูกหญ้าทะเล สร้างบ้านปลา และวางบ้านปะการัง เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของทะเลไทย และสนับสนุนวิถีชีวิตของชุมชนประมงพื้นบ้าน อีกหนึ่งโครงการสำคัญ คือ โครงการจัดการขยะปากแม่น้ำและชายฝั่งแบบมีส่วนร่วมและยั่งยืน ซึ่งเอสซีจีร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รับผิดชอบการดำเนินงานในพื้นที่แม่น้ำตรัง โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเอสซีจี ในการส่งเสริม Inclusive Green Growth ผ่านความร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน เพื่อลดขยะลงสู่ทะเล ฟื้นฟูและรักษาระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน ผ่าน 5 แนวทางสำคัญ โดย เอสซีจี ร่วมกับชุมชน ในการสร้างจิตสำนึกเรื่องการจัดการขยะชุมชน และให้ความรู้เรื่องการแยกขยะตั้งแต่ต้นทางเพื่อนำไปผลิตเป็นเชื้อเพลิง RDF ที่โรงงานปูนทุ่งสง ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะฝังกลบและสร้างรายได้ให้ชุมชน รวมถึงนำเทคโนโลยี Drone Solution เข้ามาใช้ในการสำรวจและติดตามภาพรวมของปัญหาขยะในแม่น้ำตรัง เพื่อให้เห็นสภาพพื้นที่จริง เข้าใจข้อจำกัด และนำข้อมูลเชิงพื้นที่มาร่วมวางแผนกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพในการติดตั้งทุ่นดักขยะ โดยในปี 2567 มีการส่งขยะชุมชนเข้าสู่ระบบ RDF แล้วกว่า 1,100 ตันตอกย้ำแนวคิด Inclusive Green Growth สร้างสิ่งแวดล้อมดีควบคู่เศรษฐกิจยั่งยืน
คุณกษิดิศ แสงจันทร์ ผู้อำนวยการกองช่างสุขาภิบาล เทศบาลทุ่งสง กล่าวว่าการดำเนินการจัดการขยะของเทศบาลทุ่งสง ปัจจุบันเทศบาลเมืองทุ่งสง มีขยะมูลฝอยเกิดขึ้นในพื้นที่ประมาณ 40 ตัน/วัน ส่วนใหญ่เป็นขยะอินทรีย์ (ขยะเปียก) ในส่วนของลำคลองสาขาที่อยู่ในพื้นที่เทศบาลเมืองทุ่งสง ช่วงฝนตก น้ำหลาก ขยะบางส่วนมักจะหลุดรอดลงแหล่งน้ำ ไปติดในท่อ เป็นปัญหาต่อการระบายน้ำ ทุ่นกักขยะลอยน้ำ จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยดักขยะในลำคลอง เพื่อลดผลกระทบของขยะที่จะไหลลงสู่ทะเลต่อไป
ด้าน นายธนคม ทองอินทร์ ปลัดอาวุโส อำเภอทุ่งสง กล่าวแสดงความขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ พร้อมให้กำลังใจเครือข่ายและชุมชนที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลทรัพยากรของท้องถิ่น
การส่งมอบทุ่นกักขยะลอยน้ำ SCGC - DMCR Litter Trap Gen 3 ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของเอสซีจี ที่ไม่เพียงแต่พัฒนาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมขั้นสูง แต่ยังเดินหน้าสร้างความร่วมมือเพื่อส่งต่อสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับคนรุ่นถัดไปอย่างยั่งยืน คุณชนะ ภูมี กล่าวทิ้งท้าย
"สินเชื่อกรุงไทยบ้านแลกเงิน" จัดคาราวานลงพื้นที่ภาคใต้ หนุนประชาชนเข้าถึงบริการการเงินอย่างทั่วถึง
เคทีซีสานต่อพันธกิจเพื่อสังคม ส่งต่อความรู้ด้านกฎหมายสู่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม ชวนเยาวชนบุกฐานบัญชาการลับ ถอดรหัสพลิกฟื้น คืนสมดุลโลก ในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ ปี 68
พยาบาล ม.วลัยลักษณ์ จับมือ 65 หน่วยงานพันธมิตรทั่วภาคใต้ สร้างระบบบริการสุขภาพและสุขภาวะที่เข้มแข็ง
ศูนย์ต้นแบบเครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ต.เกาะขันธ์ จ.นครศรีธรรมราช นำเทคโนโลยีโดรนร่วมภารกิจบรรเทาภัยพิบัติ เสริมความเข้มแข็งด้วยวิจัยและนวัตกรรม
"ซูเลียน" เปิดเกมรุกภาคใต้ โชว์ยอดครึ่งปีแรงทะลุเป้า พร้อมแจกโบนัสกระหน่ำทั่วประเทศ
เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ร่วมกิจกรรม "คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ" หนุนเกษตรกรภาคใต้ ส่งผลไม้สดถึงผู้บริโภคทั่วไทย
มวล.-กสศ.-อบจ.นครศรีฯ เอ็มโอยูร่วมผลิตผู้ช่วยพยาบาล ให้ทุนเรียนฟรี!จนสำเร็จการศึกษา