ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประกาศเดินหน้าแผนระยะยาวครั้งสำคัญ ชูกลยุทธ์ "AI-native" ขับเคลื่อนความยั่งยืนและบริหารจัดการพลังงาน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประกาศเดินหน้าแผนระยะยาวครั้งสำคัญ ชูกลยุทธ์"AI-native" ขับเคลื่อนความยั่งยืนและบริหารจัดการพลังงาน

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประกาศเดินหน้าแผนระยะยาวครั้งสำคัญ ชูกลยุทธ์ "AI-native" ขับเคลื่อนความยั่งยืนและบริหารจัดการพลังงาน
  • แผนระยะยาวครั้งนี้จะสร้างหมวดหมู่ของผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ โดยผสานการทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาดด้วยระบบนิเวศที่มีผู้ช่วยหรือตัวแทนอัจฉริยะ (Agentic AI) ทำงานเสมือนตัวแทนที่ขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่น สร้างผลลัพธ์เหนือคู่แข่งในตลาด พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน
  • ตอกย้ำจุดยืนการเป็นผู้นำของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ใน 3 แนวคิดสำคัญ นวัตกรรมดิจิทัล การบริหารจัดการพลังงาน และการสร้างความยั่งยืน
  • ฌูเลียน ปิโกด์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ ประกาศเดินหน้าแผนระยะยาว ที่มุ่งมั่นสร้างระบบนิเวศแบบบูรณาการแนวใหม่สำหรับความยั่งยืนและการจัดการพลังงาน โดยได้รับการขับเคลื่อนจากกลยุทธ์การเติบโตที่สำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์และสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่งและตอบโจทย์อนาคต

หัวใจสำคัญของแผนระยะยาวนี้คือเทคโนโลยี AI แนวใหม่ที่เรียกว่า Agentic AI โดยผู้ช่วยหรือตัวแทนเหล่านี้เป็นซอฟต์แวร์รูปแบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานอย่างอิสระ หรือทำงานร่วมกับลูกค้าและที่ปรึกษา เพื่อคาดการณ์ความต้องการและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืนยุคใหม่ที่ถูกทำให้ง่ายขึ้นและเป็นแบบอัตโนมัติยิ่งขึ้น ในขณะที่ซอฟต์แวร์แบบเดิมถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถปฏิบัติงานต่างๆ ได้ด้วยการควบคุมและสั่งการโดยตรง ซึ่งจะแตกต่างจากซอฟต์แวร์ลักษณะผู้ช่วยหรือตัวแทน (Agentic software) ในระบบนิเวศแบบ AI-native ที่สามารถทำงานแทนผู้ใช้ได้อย่างอัตโนมัติ

ระบบนิเวศเจนเนอเรชั่นใหม่ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะพลิกโฉมการบริหารจัดการพลังงานและความยั่งยืน โดยทำหน้าที่เป็นทั้งศูนย์บัญชาการและหน่วยงานด้านประสานงานสำหรับการวางกลยุทธ์และการตัดสินใจ ด้วยการผนวกเหล่าผู้ช่วยหรือตัวแทน AI อัจฉริยะเข้ากับกระบวนการทำงานที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ สอดรับกับการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์และระบบขององค์กรอย่างราบรื่น ระบบนี้จึงถูกวางไว้ เพื่อเปลี่ยนความพยายามด้านความยั่งยืนที่กระจัดกระจาย ให้กลายเป็นระบบนิเวศอัจฉริยะที่ปรับปรุงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องและขับเคลื่อนผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืน

"วิสัยทัศน์ของเราคือ การทำงานร่วมกันอย่างอัจฉริยะ โดย Agentic AI ทำงานเคียงข้างผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์เสมือนเป็นเพื่อนร่วมทีมดิจิทัลอย่างแท้จริง" สตีฟ วิลไฮท์ ประธานฝ่ายธุรกิจความยั่งยืน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว "เทคโนโลยีนี้ช่วยให้เราสร้างผลลัพธ์ได้แบบทวีคูณ โดย Agentic AI วิเคราะห์ข้อมูลและงานที่ซับซ้อนอย่างอัตโนมัติ ทำให้ลูกค้าของเรามีเวลาทุ่มเทให้กับแผนงานเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรมที่จะนำไปสู่ผลกระทบเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานซึ่งจะส่งผลต่อวิธีการทำงานขององค์กร สามารถเร่งการดำเนินการด้านพลังงานและการลดคาร์บอนได้"

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แต่งตั้ง ฌูเลียน ปิโกด์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นผู้ดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะยาวครั้งนี้ ฌูเลียน ปิโกด์ เข้าร่วมงานกับ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ด้วยประสบการณ์ในด้านความเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์และการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งเน้นที่นวัตกรรมดิจิทัลและ AI ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพทางธุรกิจและการจัดการทรัพยากรและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างชาญฉลาด ทั้งนี้ ฌูเลียน ปิโกด์ จะเป็นผู้ริเริ่มปรับปรุงการทำงานหลักจากแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค พร้อมทั้งผสานคุณสมบัติใหม่จาก EcoAct ซึ่งได้เข้าซื้อกิจการเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีคุณสมบัติดังนี้ :

  • กลยุทธ์การลดคาร์บอน (Decarbonization Strategy)
  • การวิเคราะห์สถานการณ์จำลอง (Scenario Analysis)
  • การเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ บริการและกระบวนการทำงาน (Benchmarking)
  • การจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emissions Management)
  • การรายงานและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (Reporting & Compliance)
  • การประเมินและจัดการความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Risk)
  • การมีส่วนร่วมกับคู่ค้า ซัพพลายเออร์ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ (Value Chain Engagement)
  • การบริหารจัดการด้านพลังงาน (Energy Management)
  • การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด (Resource Efficiency)
  • การเชื่อมโยงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ การนำระบบอัตโนมัติมาใช้ และการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ (Data Integration, Automation, & Visualization)
  • สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ให้ทันสมัย (Modernized User Experience)

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือผู้นำด้านการจัดหาโซลูชั่นสำหรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานระดับโลก และจากประสบการณ์ที่มากกว่าสองทศวรรษในการช่วยเหลือบรรษัทข้ามชาติหลายพันแห่งทั่วโลกให้บรรลุเป้าหมายด้านพลังงานและความยั่งยืน ความเชี่ยวชาญนี้เป็นรากฐานสำคัญของระบบนิเวศใหม่ และจะช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ในมิติที่กว้างและในเชิงลึก ซึ่งเป็นการผนวกรวมสิ่งที่ดีที่สุดระหว่าง AI และศักยภาพของมนุษย์เข้าด้วยกัน

"ในสาขาเฉพาะทาง เช่น พลังงานและความยั่งยืน Agentic AI จะมีประสิทธิภาพได้ก็ต่อเมื่อมีการออกแบบให้ความเชี่ยวชาญมีมิติที่ลึกแบบเฉพาะทาง" เอมี่ เครเวนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ซอฟต์แวร์ด้านความยั่งยืนและ ESG ของ IDC กล่าว "ด้วยประสบการณ์หลายทศวรรษและทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาระดับลึก ชไนเดอร์ อิเล็คทริคกำลังสร้างระบบนิเวศ Agentic AI ที่จะกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการจัดการความยั่งยืน ซึ่งจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ ซึ่ง Agentic AI ในยุคต่อไปจะเปลี่ยนการจัดการข้อมูลให้กลายเป็นระบบปฏิบัติการแห่งอนาคตได้อย่างง่ายดาย"

ความเป็นผู้นำระดับโลกด้านความยั่งยืนและจริยธรรมซึ่งเป็นที่ยอมรับของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในโลกโดย Corporate Knights และได้รับการยกย่องถึง 14 ครั้ง ให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการดำเนินการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ

"เราตระหนักถึงปริมาณพลังงานที่ AI ใช้ ดังนั้น เราจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและนำการลงทุนนี้ไปใช้ โดยเน้นที่ประสิทธิภาพในการประมวลผลและการใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ ด้วยการบูรณาการหลักการของ Frugal AI เรากำลังออกแบบระบบที่ให้ความอัจฉริยะสูงสุดด้วยการใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด ซึ่งหมายถึงการใช้โมเดลที่เรียบง่ายกว่า อัลกอริธึมที่มีประสิทธิภาพ และโครงสร้างพื้นฐานที่ปรับปรุงให้เหมาะสม เพื่อลดการใช้พลังงาน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกและต้นทุน

โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ" แดน ไวท์เซลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแผนกธุรกิจความยั่งยืน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว

การประกาศนี้เป็นการต่อยอดจากประวัติความสำเร็จอันเป็นที่ประจักษ์ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในด้านนวัตกรรม AI ซึ่งครอบคลุมถึง Resource Advisor Copilot เพื่อข้อมูลเชิงลึกด้านความยั่งยืนระดับองค์กร ศูนย์กลาง AI ระดับโลกที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการปรับปรุงประสิทธิภาพถึง 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สิทธิบัตร AI กว่า 18 รายการ และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Nvidia เพื่อให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความยั่งยืนในโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่


ข่าวชไนเดอร์ อิเล็คทริค+บริหารจัดการพลังงานวันนี้

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประกาศเปิดตัว "สถาปัตยกรรมอ้างอิง" ใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมระบบจัดการพลังงานและควบคุมการระบายความร้อนด้วยของเหลว รองรับ NVIDIA Mission Control และ NVIDIA GB300 NVL72

สถาปัตยกรรมอ้างอิงสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI รุ่นแรกที่ผสานรวมการควบคุมระบบบริหารจัดการพลังงานและความร้อนด้วยของเหลวเข้ากับซอฟต์แวร์ NVIDIA Mission Control และแอปพลิเคชั่นระดับองค์กรได้อย่างไร้รอยต่อ สถาปัตยกรรมอ้างอิงด้านพลังงานและการระบายความร้อนสำหรับ NVIDIA GB300 NVL72 ที่ ชไนเดอร์ อิเล็ค ทริค พัฒนาร่วมกับ NVIDIA เพื่อรองรับการใช้งาน Blackwell GPU รุ่นใหม่ สถาปัตยกรรมอ้างอิงทั้งสองรุ่น ช่วยผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ เร่งการปรับใช้โครงสร้างพื้นฐาน AI สำหรับ "AI Factories" ได้ทุกที่ทั่วโลก ชไน

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ปลูกความรู้ให้นักศึกษาอาชีวะ ต่อยอดช่างไฟยุคดิจิทัล — ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำระดับโลกด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน...