กรมวิชาการเกษตร แนะใช้สารรมอีโคฟูม และสารรมเวเปอร์ฟอสกำจัดแมลงศัตรู หลังการเก็บเกี่ยว หลังวิจัยพบสารรมทั้ง 2 ชนิดสามารถกำจัดแมลงศัตรูหลังการเก็บเกี่ยว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชูจุดเด่น ลดระยะเวลาการรม ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพผลผลิต มีความปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะโฆษกกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร ได้ดำเนินการศึกษาวิจัยการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เกิดความเสียหายกับผลิตผลเกษตรที่เก็บรักษาในโรงเก็บ โดยแมลงศัตรูหลังการเก็บเกี่ยว จะกัดกินผลิตผลเกษตรส่งผลให้สูญเสียน้ำหนักและคุณภาพ นอกจากนี้ แมลงยังปล่อยมูลออกมาทำให้ผลิตผลเกษตรสกปรก หากนำผลิตผลเกษตรเหล่านี้ไปเป็นวัตถุดิบในการแปรรูปอาหารจะเกิดการปนเปื้อน กรณีที่ประเทศคู่ค้าตรวจพบแมลงหรือเศษชิ้นส่วนของแมลงปนเปื้อนกับผลิตผลเกษตรอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกได้ ดังนั้นการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูหลังการเก็บเกี่ยวจึงมีความสำคัญอย่างมาก
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร (กวป.) กรมวิชาการเกษตร ได้ทำการศึกษาวิจัยการใช้สารรมอีโคฟูม และสารรมเวเปอร์ฟอส ในการกำจัดแมลงศัตรูหลังการเก็บเกี่ยว ที่สำคัญชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ด้วงงวงข้าวโพด มอดแป้ง มอดหนวดยาว มอดข้าวเปลือก และมอดฟันเลื่อย สำหรับการรมผลิตผลเกษตรชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ข้าวสาร ข้าวเปลือก และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จนได้อัตราการใช้ที่เหมาะสม ในการกำจัดแมลงศัตรูหลังการเก็บเกี่ยวอย่างมีประสิทธิภาพมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ และไม่กระทบต่อคุณภาพผลผลิตเกษตร
โฆษกกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า สารรมอีโคฟูม และสารรมเวเปอร์ฟอส มีจุดเด่น คือ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ติดไฟ และสามารถนำมาใช้ในการรมผลิตผลเกษตรได้หลายชนิด เช่น ธัญพืช ผลไม้แห้ง ใบยาสูบ และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธัญพืช โดยการใช้สารรมทั้ง 2 ชนิด สามารถลดระยะเวลาการรม โดยเพิ่มอัตราการใช้สารรมได้ ซึ่งแตกต่างจากการใช้สารรมฟอสฟีนในรูปของแข็งที่ต้องใช้ระยะเวลาการรมผลิตผลเกษตรนาน 7-14 วันและไม่สามารถลดระยะเวลาในการรมได้ เนื่องจากการกำหนดความเข้มข้น ของก๊าซฟอสฟีนภายในกองผลิตผลเกษตรทำได้ยาก นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของการติดไฟและ การเกิดระเบิดเมื่อใช้สารรมฟอสฟีนในรูปของแข็งในปริมาณมาก ๆ อีกทั้งยังพบปัญหาที่ฟอสฟีนแตกตัวออกมาไม่หมด โดยจะเหลือตกค้างประมาณ 3 - 5% หากไม่มีการกำจัดอย่างเหมาะสมอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานได้ ดังนั้น การใช้สารรมอีโคฟูม และสารรมเวเปอร์ฟอส ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ ในการทดแทนการใช้สารรมเมทิลโบรไมด์ และสารรมฟอสฟีนในรูปของแข็ง
ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตร มีแผนที่จะจัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหัวข้อ "เทคนิคการใช้สารรมฟอสฟีน สารรมอีโคฟูม และสารรมเวเปอร์ฟอส เพื่อกำจัดแมลงศัตรูหลังการเก็บเกี่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ" ในวันที่ 19 มิถุนายน 2568 สำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับการฝึกอบรมสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวพืชไร่ กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 0 2579 7813-4 ต่อ 14
"แอล ดับเบิลยู เอสฯ" แนะ ภาคอสังหาฯ ใช้วัสดุคอนกรีตก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนประเทศสู่ Net Zero ในปี 2608
แสนสิริ จับมือ 11 แบงก์ชั้นนำ มอบสินเชื่อบ้านรักษ์โลก สนับสนุนประเทศสู่สังคม Net-Zero ยั่งยืน
SABINA เปิดตัว "กรีน ลีฟวิ่ง สโตร์" ต้นแบบร้านยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อม ปักหมุดสาขาแรก ณ พุทธมณฑลสาย 5 ตอกย้ำแบรนด์แฟชั่นรักษ์โลก
ทีทีบี ผนึก แสนสิริ ออก "สินเชื่อบ้านรักษ์โลก" ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 2.75% ต่อปี เดินหน้าสร้างสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง LBM ในเครือปูนอินทรีเปิดวิสัยทัศน์ "Innovating Sustainable Building Solutions" ขับเคลื่อนแนวทางวัสดุก่อสร้าง ตอบโจทย์เทรนด์ก่อสร้างยุคใหม่สู่ความยั่งยืน
GPSC ผนึก Axens ศึกษาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอน DMX(TM) มุ่งสู่การลดคาร์บอนภาคการผลิตไฟฟ้าอย่างยั่งยืน
สอน. ลงพื้นที่ขอนแก่น เดินหน้าขับเคลื่อนอุตฯ อ้อยและน้ำตาลสีเขียว วางแนวทางลดเผาอ้อย - ลด PM 2.5 สอดรับนโยบายรัฐบาล
SACIT ยกระดับศิลปหัตถกรรมไทย ที่ผ่านการรับรองภายใต้ SACIT Craft Collection 2025 คัดสรร 120 ผลงาน พัฒนาคุณภาพในทุกด้านสู่ระดับสากล