ธ.ไทยเครดิต เดินหน้าสร้างองค์ความรู้ทางการเงินแก่ผู้ประกอบการ OTOP ยุคใหม่ จังหวัดระยอง เสริมแกร่งเศรษฐกิจของชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ธ.ไทยเครดิต เดินหน้ากลยุทธ์ "ธนาคารเพื่อความยั่งยืน" ร่วมกับจังหวัดระยองและสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดระยอง เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ OTOP ผ่านหลักสูตร "ตังค์โต Know-how เปิดโลกธุรกิจชุมชน: ติดปีกความสำเร็จสำหรับผู้ประกอบการ OTOP" มุ่งสร้างความรู้ทางการเงิน การบริหารธุรกิจ และการเข้าถึงแหล่งทุนอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของชุมชนให้เติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวสลารีวรรณ ทัพทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธี พร้อมทั้ง นางจีราภา บุญไชโย ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน และนางสาวเขมฤทัย อัศวนนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการ ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมในพิธี โดยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ณ โรงแรมโกลเดน ซิตี้ ระยอง

ธ.ไทยเครดิต เดินหน้าสร้างองค์ความรู้ทางการเงินแก่ผู้ประกอบการ OTOP ยุคใหม่ จังหวัดระยอง เสริมแกร่งเศรษฐกิจของชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน

นายกมลภู ภูริดิฐสกุล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริหารธุรกิจไมโครไฟแนนซ์และสาขาสินเชื่อ ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ธนาคารไทยเครดิตมีเป้าหมายสำคัญในการเป็น "ธนาคารเพื่อความยั่งยืน" (Sustainability Banking) ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเศรษฐกิจชุมชน ที่มีผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการ OTOP เป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับชุมชน ผ่านการเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรในพื้นที่อย่างรู้คุณค่า แต่คงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ท้องถิ่น

โดยธนาคารได้มีการการอบรมครั้งนี้ขึ้น เพื่อเน้นเนื้อหาเชิงปฏิบัติการที่ช่วยเสริมความเข้าใจการพัฒนาธุรกิจชุมชน การบริหารจัดการเงิน การวางแผนลงทุน และการจัดการธุรกิจให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ที่เข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค การพัฒนาช่องทางการตลาดเท่าทันเทคโนโลยีอย่างรอบด้าน ถือเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มกับสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดยุคใหม่ การอบรมในครั้งนี้มีผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดระยองเข้าร่วมกว่า 100 ราย" นายกมลภูกล่าว

ด้านนางสาวศรุตา สุภวงษ์ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ โต้ ตอม ตั้น (ToTomTon) เล่าถึงประสบการณ์ว่า "หลักสูตรนี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ในการทำธุรกิจ ทั้งด้านการวางระบบบัญชี เช่น การแยกรายรับรายจ่ายระหว่างส่วนตัวกับธุรกิจ การคำนวณต้นทุนที่แท้จริง ไปจนถึงการตั้งเป้าหมายธุรกิจอย่างชัดเจน ทำให้สามารถวางแผนบริหารเงินทุนหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือได้รู้จักช่องทางแหล่งเงินทุนที่เหมาะกับผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการต่อยอดธุรกิจให้เติบโต"

เช่นเดียวกับ นางสาวอมลรุจี โสภณปฏิมา เจ้าของร้าน Choco Hard เปิดเผยว่า "การอบรมครั้งนี้ ทำให้เข้าใจการสร้างสินค้าให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่รสชาติดี แต่ต้องมีแบรนด์ มีเรื่องราว และภาพลักษณ์ที่น่าสนใจ พร้อมทั้งต้องวางแผนการเงินให้ดี เพราะแม้ว่าจะขายสินค้าได้ดี แต่ถ้าไม่มีเงินทุนสำรอง ก็อาจพลาดโอกาสพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้นได้"

นอกจากนี้ บรรยากาศภายในงานธนาคารได้มีการนำเสนอให้ข้อมูล "สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ OTOP" ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการท้องถิ่นโดยเฉพาะ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนอย่างมีความรับผิดชอบ เสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการบริหารเงินทุนและขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยความร่วมมือกับกับจังหวัดระยองและสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดระยองในครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงกิจกรรมฝึกอบรม แต่เป็นส่วนหนึ่งของการบูรณาการ ภาครัฐ ภาคการเงิน และภาคธุรกิจชุมชน เพื่อร่วมกันวางรากฐานของระบบเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพและยั่งยืน เกิดเป็นระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการเติบโตในทุกภาคส่วน สะท้อนปรัชญาการดำเนินงานของธนาคารภายใต้แนวคิด "Everyone Matters ทุกคนคือคนสำคัญ" ที่มุ่งให้ทุกคนเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม

ผู้ประกอบการที่สนใจสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ OTOP สามารถติดต่อได้ที่สาขาธนาคารไทยเครดิตทุกจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 02-6975454 และเว็บไซต์ www.thaicreditbank.com


ข่าวธนาคารเพื่อความยั่งยืน+สำนักงานพัฒนาชุมชนวันนี้

กรุงไทยเดินหน้าสู่ Net Zero เปลี่ยนรถยนต์ธนาคารทั้งหมดเป็นรถ EV ภายในปี 2573

ธนาคารกรุงไทย มุ่งก้าวสู่ธนาคารเพื่อความยั่งยืน เดินหน้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2573 โดยล่าสุด ธนาคารเร่งปรับเปลี่ยนยานพาหนะ ที่ใช้งานในธนาคารจากรถยนต์ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล มาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามแผนงาน Net Zero Pathway เพื่อช่วยลดมลพิษและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ธนาคารได้ทยอยนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้แทนรถยนต์เชื้อเพลิงฟอสซิล พร้อมติดตั้งสถานีชาร์จ รองรับ ส่งผลให้ในช่วงปี 2565-2567 สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปแล้วกว่า 238 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และประหยัดพลังงานไฟฟ้า

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ตอกย้ำความสำเร็... ทีทีบี ได้รับคัดเลือกเข้าสู่ทำเนียบ S&P Global Sustainability Yearbook 2025 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 — ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ตอกย้ำความสำเร็จการเป็น"ธ...