PROSPECT REIT พร้อมให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมและประชาชนทั่วไปจองซื้อหน่วยใหม่ 19-23 พ.ค.นี้ ราคาเสนอขายสุดท้าย 7.2 บาทต่อหน่วย คาดเพิ่มผลตอบแทนปีแรกเป็น 0.87 บาทต่อหน่วย โชว์อัตราการเช่าพื้นที่ทรัพย์สินเฉลี่ย Q1/68 สูงกว่า 96%

นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ PROSPECT REIT เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ PROSPECT REIT ซึ่งเป็นกองทรัสต์ที่ลงทุนในทรัพย์สินกลุ่มอุตสาหกรรม เตรียมลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 3 ในทรัพย์สินใหม่ 3 โครงการ เพื่อเพิ่มศักยภาพสร้างรายได้และผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ได้แก่ (1) โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 1 ถนนบางนา-ตราด กม.23 จะลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงที่ดินและสิทธิการเช่าอาคาร เป็นระยะเวลาไม่เกิน 15 ปี มีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 158,315 ตารางเมตร (2) โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 ถนนเทพารักษ์ จะลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงที่ดินเป็นระยะเวลาไม่เกิน 26 ปี และลงทุนในกรรมสิทธิ์อาคาร มีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 12,481 ตารางเมตร และ (3) โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 ถนนบางนา-ตราด กม.9 จะลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดินและอาคารของโครงการ มีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 50,882 ตารางเมตร

ทรัพย์สินใหม่ทั้ง 3 โครงการ มีจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ โดยโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 1 และโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 มีพื้นที่บางส่วนเป็นเขตปลอดอากร หรือ Free Zone ทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ดังกล่าวได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการนำเข้าและส่งออกสินค้า รวมถึงมีบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในฐานะสปอนเซอร์ ซึ่งมีประสบการณ์พัฒนาโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนมากกว่า 15 ปีเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์

ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 ทรัพย์สินใหม่ทั้ง 3 โครงการดังกล่าว มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยระดับสูงที่ 96.9% 96.9% และ 100.0% ตามลำดับ โดยภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ จะส่งผลให้ประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนปีแรกของ PROSPECT REIT เพิ่มขึ้นจาก 0.72 บาทต่อหน่วย เป็น 0.87 บาทต่อหน่วย รวมถึงจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) เป็น 31.4% จากปัจจุบัน 29.2% ของมูลค่าประเมินทรัพย์สิน ทำให้กระแสรายได้ของกองทรัสต์ฯ มีความมั่นคงยิ่งขึ้น

ขณะที่ทรัพย์สินปัจจุบันของ PROSPECT REIT มี 4 โครงการ ทั้งกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าอาคารคลังสินค้า โรงงานสำเร็จรูป และอาคาร Built-to-suit มีพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 292,332 ตารางเมตร บนที่ดินรวมประมาณ 294 ไร่ ได้แก่ โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 1, โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2, โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 และโครงการ X44 ย่านบางนา-ตราด และเทพารักษ์ ซึ่งเป็นทำเลศูนย์กลางอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่สำคัญของประเทศ สามารถเชื่อมต่อกับสนามบิน ท่าเรือ และทางด่วน โดยไตรมาส 1 ปี 2568 PROSPECT REIT มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งแม้ภาพรวมเศรษฐกิจโลก ได้รับผลกระทบการประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา โดยมีรายได้ 143 ล้านบาท และกำไรจากการลงทุนสุทธิ 76 ล้านบาท ส่วนอัตราการเช่าพื้นที่ทรัพย์สินเฉลี่ยสูงถึง 96% และมีอัตราการต่อสัญญาเช่าสูงถึง 100% สะท้อนถึงศักยภาพและความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานสำเร็จรูปซึ่งเป็นทรัพย์สินของกองทรัสต์ฯ

ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีศุลากรกับหลายประเทศทั่วโลกที่เกินดุลการค้ารวมถึงประเทศไทย ผู้จัดการกองทรัสต์ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ปัจจุบัน PROSPECT REIT ยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้เช่าที่ส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ เป็นตลาดหลัก มีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับพื้นที่เช่าทั้งหมดของกองทรัสต์ และผู้เช่ายังคงดำเนินกิจการตามปกติ รวมถึงไม่มีแผนย้ายฐานการผลิตไปที่ประเทศอื่น เนื่องจากหลายประเทศในอาเซียนก็ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีครั้งนี้เช่นกัน และการย้ายฐานการผลิตต้องเผชิญกับต้นทุนสูง อย่างไรก็ตามผู้เช่าส่วนใหญ่ประเมินว่ามาตรการภาษีครั้งนี้อาจส่งผลกระทบระยะสั้น จึงปรับตัวหาตลาดอื่นทดแทน

นายคมกฤต รักษากุลเกียรติ หัวหน้าวาณิชธนกิจ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า PROSPECT REIT เป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมชั้นนำที่มีผลการดำเนินงานและจ่ายประโยชน์ตอบแทนอย่างสม่ำเสมอนับตั้งแต่จัดตั้งกองทรัสต์เมื่อปี 2563 โดยการลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 3 ของ PROSPECT REIT ครั้งนี้ มีมูลค่ารวมไม่เกิน 3,350 ล้านบาท จะมาจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์จำนวนไม่เกิน 310 ล้านหน่วย และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินไม่เกิน 1,450 ล้านบาท ล่าสุด พร้อมเปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อ (Record Date) เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา และประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมพร้อมกันระหว่างวันที่ 19 - 23 พฤษภาคม 2568 ที่ราคาเสนอขายสุดท้าย 7.2 บาทต่อหน่วย กำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิจองซื้อที่ 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.6648 หน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติม

โดยผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่ได้รับสิทธิ เปิดให้จองซื้อผ่านเว็บไซต์ https://www.tiscosec.com หรือ สำนักงานใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ส่วนนักลงทุนทั่วไปจองซื้อได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด และคาดว่าหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและเป็นที่สนใจของนักลงทุนสถาบันยิ่งขึ้น

• ข่าวการเช่าพื้นที่
• ข่าวคลังสินค้า
• ข่าวครั้งที่
• ข่าวo:editor
• ข่าวสุดท้าย