ไทย-กัมพูชา ประชุมหารือทวิภาคีด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ มุ่งยกระดับความร่วมมือผ่าน MoU ระหว่างสองประเทศเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านน้ำอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการจัดการอุทกภัยและภัยแล้ง
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ให้การต้อนรับ ฯพณฯ ธาว เชตฐา (H.E. Mr. Thor Chetha) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำและอุตุนิยมวิทยาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและประชุมหารือความร่วมมือทวิภาคีด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา ณ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร B ห้องรับรองต่างประเทศ ชั้น 9 จากนั้นในช่วงบ่าย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำและอุตุนิยมวิทยาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และคณะ ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน
ณ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการจัดการข้อมูล รวมถึงการแลกเปลี่ยนและแบ่งปันข้อมูลด้านน้ำกับหน่วยงานด้านทรัพยากรน้ำของประเทศไทย เลขาธิการ สทนช. เปิดเผยว่า การประชุมหารือความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชาในครั้งนี้เกิดขึ้น เนื่องจากประเทศกัมพูชามีความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทย จึงมีความประสงค์หารือแนวทางพัฒนาความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างไทย - กัมพูชา โดยประสงค์จัดทำบันทึกความเข้าใจ (MoU) กับ สทนช. เพื่อความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขับเคลื่อนความร่วมมือเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างทันท่วงที รวมถึงการพัฒนาความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับการบูรณาการข้อมูลด้านทรัพยากรน้ำ
โดยรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) ได้กล่าวเน้นย้ำการยกระดับความร่วมมือผ่านการจัดทำ MoU เพื่อเป็นกลไกและกรอบในการขับเคลื่อน ความร่วมมือด้านการจัดการทรัพยากรน้ำข้ามพรมแดน การแลกเปลี่ยนทางวิชาการและองค์ความรู้ รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สามารถนำมาปรับใช้ในบริบทของสองประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การทำฝนเทียม การบริหารจัดการทะเลสาบ และการพัฒนาบุคลากรด้านการจัดการข้อมูลและสารสนเทศด้านน้ำ นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการประหยัดน้ำ การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ร่วมหารือประเด็นการบริหารจัดการน้ำข้ามพรมแดน ในพื้นที่ลุ่มน้ำโตนเลสาบของไทยและกัมพูชา ซึ่งได้มีการดำเนินโครงการบริหารจัดการอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่ชายแดน (9C-9T) ซึ่งเป็นลุ่มน้ำย่อยของลุ่มน้ำโตนเลสาบ บริเวณจังหวัดสระแก้วและจันทบุรี ของไทย และจังหวัดบันเตียเมียนเจย พระตะบองและไพลิน ของกัมพูชา ภายใต้กรอบความร่วมมือของ MRC มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 โดยมุ่งพัฒนาการบริหารจัดการความเสี่ยงจากอุทกภัยและภัยแล้งข้ามพรมแดนให้มีประสิทธิภาพ ลดความเสื่อมโทรมของลุ่มน้ำ และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไทยและกัมพูชาได้ร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือภายใต้กรอบ MRC ในหลายมิติ
การมาเยือนประเทศไทยและหารือร่วมกันในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านน้ำอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของลุ่มน้ำและชุมชนในพื้นที่ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำ อันจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศและเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคอีกด้วย
"รมต.ภราดร" เผยไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 32 มุ่งสานต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลบริหารจัดการเขื่อน ลดผลกระทบจากระดับน้ำเปลี่ยนแปลงฉับพลัน
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศฉบับที่ 25/2568 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ช่วงวันที่ 9-18 ต.ค.นี้
สทนช. รุกเปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง จับมือทุกหน่วยเตรียมรับมือมวลน้ำจากภาคเหนือและฝนชุดต่อไป
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศฉบับที่ 15/2568 เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง วันที่ 7 - 13 สิงหาคม 2568
สทนช. ร่วมขับเคลื่อน "โครงการพระราชดำริด้านน้ำ" เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เดินหน้าสืบสานพระราชปณิธาน นำร่องต่อยอด 22 โครงการ