ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ และ บมจ. เอสซีบี เอกซ์ ที่ 'BBB' และ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และ ที่ 'BBB' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA+(tha)' โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต มีเสถียรภาพ

นอกจากนี้ฟิทช์ยังได้คงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ของทั้ง 2 บริษัทที่ 'bbb' และคงอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล (Government Support Rating: GSR) ของ SCB และ SCBX ที่ 'bbb' และ 'bbb-' ตามลำดับ พร้อมกันนี้

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตของ SCB พิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินและอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศของ SCB มีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากทั้งโครงสร้างเครดิตของตัวธนาคารเอง ซึ่งสะท้อนจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน และอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ 'F2' ของ SCB เป็นตัวเลือกที่สูงกว่า เนื่องจากโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนมีความแน่นอนกว่าในระยะสั้น

อันดับเครดิตพิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่ม: SCBX เป็นบริษัทโฮลดิ้งของกลุ่ม โดยมี SCB เป็นธนาคารลูกหลักที่มีบทบาทสำคัญต่อภาพรวมทางการเงินของกลุ่ม โดย SCB มีสัดส่วนประมาณ 95% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของกลุ่ม อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBX ได้รับการจัดอันดับที่ระดับเดียวกันกับอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินรวมของกลุ่มและของ SCB (ซึ่งอยู่ที่ 'bbb') ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของฟิทช์ว่า SCBX จะสามารถรักษาอัตราส่วน Common Equity Double Leverage ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 120% ได้

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ SCBX อยู่ที่ระดับ 'F3' ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ต่ำกว่า เนื่องมาจากอันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างด้านความสามารถในการระดมเงินและสภาพคล่องของกลุ่มยังไม่จัดอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้อันดับที่สูงกว่า

ภาวะอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่อ่อนแอลง: อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำในปี 2568 ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเนื่องจากเป็นระบบเศรษฐกิจแบบเปิด (open economy) ที่มีสัดส่วนการค้าระหว่างประเทศค่อนข้างสูง สถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นข้อจำกัดต่อโอกาสการเติบโตและผลการดำเนินงานของธนาคาร ฟิทช์ให้อันดับคะแนนปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ 'bbb' ซึ่งเป็นในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับอันดับคะแนนตามเกณฑ์เนื่องจากฟิทช์เชื่อว่ารัฐบาลไทย (BBB+/Stable) มีบทบาทสำคัญในการสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงิน อาทิ มาตรการกำกับดูแลและมาตรการทางการคลังที่นำมาใช้ระหว่างช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

สถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง: SCB มีสถานะเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินฝากอยู่ที่ 14% อีกทั้ง SCB ยังมีฐานลูกค้าที่หลากหลาย และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ทางกลุ่มยังมีผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจร โดยมีจุดแข็งพิเศษในธุรกิจธนาคารรายย่อย ซึ่งช่วยสนับสนุนการขายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย (cross selling) และสนับสนุนความสามารถในการหารายได้ของกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์พิจารณาแล้วเห็นว่าสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่อาจจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบมากขึ้นในการจำกัดผลการดำเนินงานในระยะยาวของธนาคารไทย (through the cycle) ดังนั้น ฟิทช์จึงปรับลดอันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างธุรกิจของ SCBX เป็น 'bbb' จาก 'bbb+'

แรงกดดันต่อโครงสร้างความเสี่ยง: ฟิทช์ปรับแนวโน้มของอันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างความเสี่ยงของกลุ่มเป็น 'แนวโน้มเป็นลบ' จาก 'แนวโน้มมีเสถียรภาพ' เนื่องจากฟิทช์เชื่อว่าอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญในด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ฟิทช์เคยดาดการณ์ไว้ในปีก่อนหน้านี้ว่าจะปรับตัวดีนั้นอาจจะไม่เป็นไปตามคาด แรงกดดันต่อคุณภาพสินทรัพย์อาจยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงในช่วงอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งอาจนำไปสู่ความท้าทายต่อเนื่องในด้านการบริหารความเสี่ยง

ยังคงมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์: ฟิทช์ได้ปรับลดแนวโน้มของอันดับคะแนนปัจจัยด้านคุณภาพสินทรัพย์ของกลุ่มเป็น 'แนวโน้มเป็นลบ' จาก 'แนวโน้มมีเสถียรภาพ' เนื่องจากโครงสร้างคุณภาพสินทรัพย์มีความสอดคล้องลดลง ณ ระดับอันดับคะแนนปัจจุบัน (reduce headroom) และยังต้องเผชิญกับแรงกดดันต่อเนื่องของการปรับตัวเพิ่มขึ้นของสินเชื่อด้อยคุณภาพ อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของ SCBX ทรงตัวที่ 4.0% ในไตรมาส 1 ปี 2568 (ทรงตัวในระดับใกล้เคียงกับ สิ้นปี 2567 และสิ้นปี 2566) ซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่รายอื่นในประเทศ อันดับคะแนนปัจจัยด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ 'bbb-' อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ เนื่องจากอัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ แม้ว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม (SCBX: 150% ในไตรมาส 1 ปี 2568; ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม 173%)

ความสามารถในการทำกำไรมีแนวโน้มลดลง: ฟิทช์คาดว่ารายได้ของ SCBX จะเผชิญแรงกดเพิ่มขึ้นในช่วงสองปีข้างหน้า จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญอาจยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงจากความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม SCBX น่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษีต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Operating profit/Risk Weighted Assets หรือ OP/RWA) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2.7% ในไตรมาส 1 ปี 2568 (ปี 2567: 2.4%) แม้ผลประกอบการจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้น ฟิทช์คาดว่า OP/RWA น่าจะสามารถทรงตัวที่ระดับสูงกว่า 2% ได้และยังคงสอดคล้องกับอันดับคะแนนในปัจจุบันที่ 'bbb-'

เงินกองทุนอยู่ในระดับแข็งแกร่ง: อันดับคะแนนปัจจัยด้านเงินกองทุนของ SCBX ที่ระดับ 'bbb+' สะท้อนถึงฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) อยู่ที่ 17.6% ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 (ค่าเฉลี่ยของภาคอุตสาหกรรม: 17.0%) และอยู่ในระดับที่ค่อนข้างคงที่ตั้งแต่ปี 2564 ฟิทช์คาดว่าฐานะเงินกองทุนของ SCBX จะยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากกำไรที่เพียงพอและแนวโน้มการเติบโตในอัตราต่ำในช่วงสองปีข้างหน้า

สภาพคล่องโดยรวมมีเสถียรภาพ: ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของ SCBX น่าจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากระดับปัจจุบันมากนักในอีก 2-3 ปีข้างหน้า (ไตรมาส 1 ปี 2568: 99.2%, สิ้นปี 2567: 98.2%) อันดับคะแนนปัจจัยด้านการระดมเงินและสภาพคล่องของกลุ่มได้รับแรงสนับสนุนจากฐานเงินฝากในประเทศที่แข็งแกร่งของ SCB และการมีสัดส่วนบัญชีกระแสรายวันและออมทรัพย์ที่สูง (คิดเป็น 77% ของเงินฝากทั้งหมด) ซึ่งช่วยให้กลุ่มมีแหล่งเงินทุนที่มั่นคงและต้นทุนต่ำ

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลสะท้อนความสำคัญเชิงระบบ: อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCBX และ SCB มีปัจจัยหลักในการพิจาณาอันดับเครดิตจากขนาดและความสำคัญของกลุ่มธุรกิจที่มีต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทย โดย SCB เป็นหนึ่งในสี่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทยที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับการกำหนดให้เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (D-SIB) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCBX ที่ 'bbb-' นั้นอยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCB หนึ่งอันดับ ซึ่งสะท้อนมุมมองของฟิทช์ว่ารัฐบาลมีแนวโน้มที่จะให้การช่วยเหลือสนับสนุน SCB ในระดับที่สูงกว่าเนื่องจากธนาคารมีการรับฝากเงินจากประชาชน

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน): อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศ

SCBX:

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่คล้ายกับการเปลี่ยนแปลงของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินกลุ่ม ดังนั้นการปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่มจะส่งผลกระทบในลักษณะเดียวกันต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX

นอกจากนี้การปรับอันดับเครดิตจะพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างเครดิตของ SCBX กับธนาคารและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ SCBX อาจถูกปรับลดอันดับลงเป็น 'B' หากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของบริษัทถูกปรับลดอันดับลงไปต่ำกว่า 'BBB-' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นอาจถูกปรับลดอันดับได้หากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวถูกปรับลดอันดับลงไปต่ำกว่า 'AA-(tha)'

SCB:

การปรับลดอันดับของทั้งอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลและอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินพร้อมกันจะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวอาจได้รับการปรับลดอันดับเป็น 'AA(tha)' หากฟิทช์มองว่าโครงสร้างเครดิตของธนาคารปรับตัวด้อยลงเมื่อเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศโดยฟิทช์

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

SCBX และ SCB

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBX และ SCB อาจถูกปรับลดอันดับเครดิตลง หากภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญและส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องมีการทบทวนการประเมินอันดับคะแนนปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานของอุตสาหกรรมธนาคาร และรวมถึงปัจจัยในการพิจารณาอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินด้านอื่นของกลุ่ม เช่น อันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างธุรกิจและอันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างความเสี่ยง

นอกจากนี้ อาจมีการปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่ม หากฐานะการเงินรวมของกลุ่มปรับตัวด้อยลง ส่งผลให้มีการปรับอันดับคะแนนปัจจัยในหลายด้าน ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านเงินกองทุนปรับตัวด้อยลง หรือประสิทธิภาพการทำกำไรที่อ่อนแอลงจนกระทบต่อความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในระดับที่เพียงพอ ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวอาจแสดงให้เห็นโดยอัตราส่วน OP/RWA เฉลี่ยสี่ปีลดลงต่ำกว่า 1.5% (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2.2%) อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพเฉลี่ยสี่ปีเพิ่มขึ้นเกิน 6% (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4.2%) อัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงต่ำกว่า 120% และอัตราส่วน CET1 ลดลงต่ำกว่า 13% (ไตรมาส 1 ปี 2568: 17.6%)

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBX อาจถูกปรับลดอันดับให้ต่ำกว่าอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCB ได้หากฟิทช์พิจารณาปรับแนวทางการจัดอันดับระหว่าง SCBX กับธนาคารหลักของกลุ่ม ซึ่งคือ SCB ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่อัตราส่วน common-equity double leverage SCBX มีแนวโน้มปรับตัวสูงกว่า 120% อย่างเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง นอกจากนี้ การลดลงของสัดส่วนสินทรัพย์ของ SCB ที่มีต่อกลุ่มลงไปในระดับที่ต่ำกว่า 75% อาจบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงจากธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคาร และอาจทำให้ความเสี่ยงในการไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ของธนาคารและบริษัทโฮลดิ้งมีความแตกต่างกันมากขึ้น

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล

SCBX และ SCB

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลอาจถูกปรับลดอันดับหากฟิทช์เชื่อว่าความสามารถที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนนั้นลดลง เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยถูกปรับลดอันดับ

นอกจากนี้การปรับลดอันดับเครดิตยังอาจเกิดขึ้นได้หากฟิทช์เชื่อว่าโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ SCB ปรับตัวลดลง เช่น จากการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับความสำคัญของธนาคารที่มีต่อระบบ อย่างไรก็ตามฟิทช์ไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับความสำคัญต่อระบบในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง

ความแตกต่างของอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลระหว่าง SCBX กับ SCB อาจปรับตัวห่างมากขึ้นได้ หากฟิทช์มีการทบทวนการประเมินว่าแผนการแก้ไขปัญหาทางการเงินของธนาคารในภาวะวิกฤติ (resolution) อาจมีความแตกต่างกันอย่างมากในการที่ทางการจะให้การช่วยเหลือแก่ธนาคารเมื่อเทียบกับกิจการส่วนที่เหลือของกลุ่ม ตัวอย่างเช่น หากมีสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นซึ่งบ่งชี้ว่าทางการจะให้การสนับสนุนเฉพาะกับธนาคารเท่านั้น ในกรณีดังกล่าวอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCBX อาจถูกปรับลดอันดับลงได้หลายอันดับ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน): อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศ

SCBX:

การปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่ม น่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน ทั้งนี้การปรับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวจะพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างเครดิตกับธนาคารและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย

SCB:

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCB อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลหรืออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่มได้รับการปรับเพิ่มอันดับ ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCB จะพิจารณาโครงสร้างอันดับเครดิตของธนาคารเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

SCBX และ SCB

โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBX และ SCB ในระยะสั้นยังคงจำกัด เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับได้ในระยะยาว หากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานของธนาคารในประเทศไทยปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้แนวโน้มของผลประกอบการปรับตัวดีอย่างต่อเนื่องตลอดวัฎจักรของธุรกิจ โดยอาจสะท้อนผ่านการปรับตัวดีขึ้นในอัตราส่วนทางการเงินหลายด้านอย่างต่อเนื่อง เช่น อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงเฉลี่ย 4 ปี ที่ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 3.0% อย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเฉลี่ย 4 ปีที่ต่ำกว่า 3% และการรักษาความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านอื่นที่สำคัญ เช่น การมีอัตราส่วนเงินกองทุน CET 1 ที่สูงกว่า 16%

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล

SCBX และ SCB

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลอาจเกิดได้หักรัฐบาลมีความสามารถเพิ่มขึ้นในการสนับสนุนธนาคารและสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบในประเทศ โดยอาจบ่งชี้ได้จากการปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย อย่างไรก็ตามการพิจารณาปรับเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลต้องคำนึงถึงโอกาสในการให้การสนับสนุนธนาคารว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เมื่ออันดับเครดิตของประเทศสูงขึ้น

หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในอันดับเครดิตของประเทศไทย อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCB ก็ไม่น่าจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับขึ้นอีก อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCBX อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับได้หากฟิทช์ประเมินแล้วเห็นว่ากฎเกณฑ์ในการแก้ไขสถานการณ์ในกรณีที่เกิดปัญหาด้านสถานะทางการเงิน (resolution scenario) สำหรับ SCB และ SCBX น่าจะมีแนวทางที่คล้ายกันมาก ตัวอย่างเช่น หากมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่า SCBX มีนัยสำคัญต่อระบบภายในประเทศเพิ่มขึ้นด้วยตัวบริษัทเอง (โดยไม่พิจารณารวม SCB)

อันดับเครดิตของตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

SCBX:

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันและโครงการหุ้นกู้ MTN มูลค่า 1.5 แสนล้านบาทของ SCBX อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวและระยะสั้นของ SCBX เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท

SCB:

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ของ SCB ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ 'BBB' ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคาร เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (Short-Term IDR(xgs)) ของ SCB เทียบได้กับ 'F3(xgs)' เนื่องจากอันดับคะแนนปัจจัยด้านความสามารถในการระดมเงินและสภาพคล่องของธนาคารไม่สอดคล้องกับตัวเลือกอันดับที่สูงกว่า ตามเกณฑ์การพิจารณาอันดับเครดิตของฟิทช์

อันดับเครดิตของตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

SCBX:

การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX น่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ MTN และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของ SCBX ได้รับการปรับลดอันดับลงเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ MTN ไม่น่าจะถูกปรับลดอันดับเครดิต เว้นแต่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX ถูกปรับลดอันดับลงไปที่ 'A+(tha)' หรือต่ำกว่า

SCB:

การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCB จะส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ถูกปรับลดอันดับเช่นกัน

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCB น่าจะถูกปรับลดอันดับลง หากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารถูกปรับลดอันดับลงไปที่ 'bb+' หรือต่ำกว่า

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

SCBX:

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX น่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ MTN และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัทได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ MTN นั้นเป็นระดับที่สูงสุดแล้ว จึงไม่มีปัจจัยใดที่จะส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับ

SCB:

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCB จะส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCB อาจถูกยกเลิกได้หากอันดับความแข็งแกร่งของธนาคารได้รับการปรับเพิ่มอันดับ หรือ อันดับคะแนนปัจจัยด้านการระดมเงินและสภาพคล่องได้รับการปรับเพิ่มขึ้นเป็น 'bbb+' เนื่องจากอันดับเครดิตสากลทั้งหมดของธนาคารจะพิจารณาจากโครงสร้างทางเครดิตของตัวธนาคารเองเท่านั้น

บริษัทลูกและบริษัทร่วม: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

ฟิทช์ประกาศให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ 'BBB' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพแก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาหมู่เกาะเคย์แมน (SCBCI) โดยอันดับเครดิตอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของ SCB เนื่องจาก SCBCI มีสถานะเป็นนิติบุคคลเดียวกันกับ SCB

ฟิทช์คงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ มูลค่า 500 ล้านเหรียญฯ ที่ออกภายใต้ SCB ที่ 'BBB' โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะถูกโอนไปยัง SCBCI ในฐานะผู้ออกหุ้นกู้

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCB จะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCBCI และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ถูกปรับลดอันดับเครดิตเช่นกัน

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCB จะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCBCI และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตเช่นกัน

การปรับคะแนนของปัจจัยในการพิจารณาอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

อันดับคะแนนที่ให้แก่ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ 'bbb' อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 'bb' เนื่องจากการปรับเพิ่มคะแนนด้วยปัจจัยด้าน 'อันดับเครดิตของประเทศ'

อันดับคะแนนที่ให้แก่ปัจจัยด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ 'bbb-' อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 'bb' เนื่องจากการปรับเพิ่มคะแนนด้วยปัจจัยด้าน 'หลักประกันและระดับสำรองหนี้สูญ'

อันดับเครดิตที่เชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCBCI เชื่อมโยงกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCB

แหล่งข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อการพิจารณาอันดับเครดิต

แหล่งที่มาของข้อมูลหลักที่ใช้ในการประเมินอันดับเครดิตมีรายละเอียดเปิดเผยอยู่ในเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้องของฟิทช์

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตามสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม หาได้จาก www.fitchratings.com/esg

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้SCBCI:

  • ให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'BBB'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

SCBX:

  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว คงอันดับเครดิตที่ 'BBB' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น คงอันดับเครดิตที่ 'F3'
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ 'AA+(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ 'F1+(tha)'
  • อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ 'bbb'
  • อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลคงอันดับเครดิตที่ 'bbb-'
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ 'AA+(tha)'
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ 'F1+(tha)'

SCB:

  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'BBB'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F2'
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ 'AA+(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ 'F1+(tha)'
  • อันดับความเข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ 'bbb'
  • อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลคงอันดับเครดิตที่ 'bbb'
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมการสนับสนุนจากรัฐบาลที่คงอันดับ 'F3(xgs)'
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ 'BBB'

ข่าวธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด+ธนาคารไทยพาณิชย์วันนี้

กลุ่มเอสซีบีเอกซ์จัดพิธีแสดงความอาลัยและตักบาตรถวายพระราชกุศลสัตตมวาร แด่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

กลุ่มเอสซีบีเอกซ์จัดพิธีแสดงความอาลัยและตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 93 รูป อุทิศถวายพระราชกุศลสัตตมวาร (7 วัน) แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ โดยมี นายประสัณห์ เชื้อพานิช รองประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะกรรมการ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) คณะกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) คณะผู้บริหารและพนักงานบริษัทในกลุ่มเอสซีบี

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้... ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25% มีผลวันที่ 15 สิงหาคม 2568 — ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25% ต...