สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) เผยผลสำรวจฉบับที่สามประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ.2568 ชี้ ภาพรวมครึ่งปีแรกของคนไทยยังคงทรงตัว ไม่สุขเกินไป ไม่ใช้จ่ายเยอะเกินไป ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังรอบคอบ แม้จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่สะเทือนใจคนทั้งประเทศ แต่ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับเรื่องร้าย ๆ มากมายแค่ไหน ก็ยังมีเรื่องดี ๆ ที่ทำให้เห็นว่า คนไทยไม่เคยทิ้งกัน
ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนมิถุนายน นับได้ว่าผ่านมากว่าครึ่งปีแล้วที่คนไทยฝ่าฟันทุกอุปสรรค เจอศึกหนักจากประเด็นเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น เรื่องมาตราการกำแพงภาษีนำเข้าจากอเมริกา และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้มีแนวโน้มใช้จ่ายลดลง -2 เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนที่ผ่านมา (63 Vs 65) ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า คนไทยยังระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น ซื้อเฉพาะของจำเป็น ซื้อของฮีลใจแต่ในขณะเดียวกันก็ยังเก็บเงินสำรองจ่ายสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
ในสถานการณ์ที่คนไทยหลาย ๆ คน ต่างกุมเงิน กุมมือ เพื่อเตรียมพร้อมรับตั้งรับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ในช่วงเวลาแบบนี้เอง แบรนด์เองควรจะต้องเริ่มออกมาช่วยผู้บริโภคชาวไทยเพื่อกระตุ้นให้ออกมาใช้ชีวิตเติมความสุขให้กับตนเองและครอบครัว คุณอรุณโรจน์ เหล่าเจริญวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ได้ให้คำแนะนำกับแบรนด์เพื่อนำไปปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ ดังนี้
1.จับใจผู้บริโภคหลังแผ่นดินไหวด้วยความสบายใจที่ตรงจริตแต่ละวัย
20 - 29 ปี แพนิคนิดหน่อยแต่ใช้ชีวิตตามเดิม: วัยนี้เพิ่งเริ่มใช้ชีวิต บ้าน/คอนโดหลังแรก ต้องมั่นใจเรื่องความปลอดภัย แบรนด์อสังหาฯ ควรชูจุดแข็งด้านโครงสร้างและการรับประกัน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค
30 - 39 ปี ตั้งสติเพราะต้องมีสตางค์: ในช่วงวัยนี้สนใจเรื่องการเงิน แบรนด์สินค้าจำเป็นควรออกโปรเพื่อช่วยลดภาระให้ต่อผู้บริโภค เช่น 'คุณจ่าย เราช่วย'
40 - 49 ปี ติดตามข่าวสารใกล้ชิดเพื่อคลายกังวล: วัยนี้ตามข่าวใกล้ชิด อยากใช้เวลากับครอบครัว แบรนด์ควรออกแคมเปญที่ช่วยสานสัมพันธ์ครอบครัว หรือลุ้นชิงโชคให้ครอบครัวได้ไปเที่ยวและใช้เวลาร่วมกัน
50 - 59 ปี รุ่นใหญ่ ใจต้องนิ่ง: ช่วงวัยนี้จะเน้นวางแผนการรับมือชีวิต แบรนด์ประกันภัยควรสร้าง Workshop ให้วัยเก๋า ได้เรียนรู้การรับมือเพื่อปล่อยวางและมีความสุขกับช่วงเวลาของวัยเกษียณ
2.ฟื้นฟูความสุขของคนไทย ด้วยแคมเปญ "หน่วยกู้ใจ"
การตลาดแบบ Feel Good เพื่อช่วยฟื้นพลังใจให้คนไทยยิ้มได้ ด้วยแนวคิด "หน่วยกู้ใจ" แบบเคลื่อนที่ โดยแบรนด์ต่าง ๆ สามารถ collab กับ อินฟลูเอนเซอร์ หรือศิลปิน T-Pop เพื่อจัดตั้งทีมหน่วยกู้ใจที่จะไปเซอร์ไพรส์แฟน ๆ หรือคนไทยในพื้นที่ที่ได้รับแจ้งว่ามีความเครียดอยู่สูง เช่น ป้ายรถเมล์, สถานีรถไฟฟ้า, สี่แยกไฟแดงที่รถติด, ตึกออฟฟิศ หรือ มหาวิทยาลัย เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะพาคนของใจไปเซอร์ไพรส์แล้วยังสามารถทำ Voucher หรือ Coupon ส่วนลดพิเศษของแบรนด์ไปแจกเพื่อสร้างยอดขายไปพร้อมกัน
เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คนไทยได้เจอกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแบบ once in a lifetime คนไทยก็จะมีสไตล์การเอาตัวรอดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในครั้งนี้ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน ประเทศไทย ได้มีคำถามพิเศษประจำฉบับนี้ไว้ว่า "คนไทยมีสไตล์การเอาตัวรอดอย่างไร?" ซึ่งรวบรวมคำตอบ Top 5 มาไว้ ดังนี้
Top 1 - สายเช็กข่าว: คนไทยกว่า 31% เป็นนักสืบมือถือ เจอแรงสั่นปุ๊บ มือไวปั๊บ! เพราะข้อมูลคืออาวุธในทุกสถานการณ์
Top 2 - สายโกย: คนไทยกว่า 23% เป็นนักวิ่งเอาตัวรอด วิ่งก่อนไม่เหลียวหลัง เอาชีวิตรอดก่อนค่อยถามว่าเกิดอะไรขึ้น
Top 3 - สายหิ้ว: คนไทยกว่า 8% เลือกที่จะรักษาของรัก หนึ่งมือหิ้วกระเป๋า อีกมือหิ้วของรัก แม้โลกจะพังแต่ของฉันต้องอยู่ครบ!
Top 4 - สายรวมทีม: คนไทยกว่า 6% เป็นหัวหน้าห้องพลังบวก ตะโกนเรียกรวมพล ยังไงก็ต้องรอดไปด้วยกัน
Top 5 - สายมึน: คนไทยกว่า 5% บอกว่าตัวเองยืนงง คนอื่นอาจจะหนี แต่คนนี้สมองว่างเปล่า ตาค้าง ขยับไม่ได้ มัวแต่งงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ถึงแม้คนไทยจะมีโหมดการเอาตัวรอดที่แตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่ายังไงคนไทยก็ไม่ทิ้งกัน ซึ่งแน่นอนว่าภัยพิบัติไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดี คือ น้ำใจในสายเลือดของคนไทย ที่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่ทิ้งกัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกันกระจายข่าวและช่วยเหลือกันแม้จะเป็นคนแปลกหน้าหรือคนต่างวัย คอยเป็นพลังบวกที่ช่วยชุบชูจิตใจของคนไทยให้มีกำลังใจเดินหน้าสู้ต่อไป
บทสรุปของแนวโน้มการใช้จ่ายของคนไทยในช่วงครึ่งปีแรกนี้พบว่า คนไทย "กุมมือ กุมเงิน" เน้นส่องไม่เน้นสอย คนไทยไม่รีบใช้จ่าย เพราะเจอทั้งของแพง เศรษฐกิจผันผวน ไหนจะน้ำท่วม แผ่นดินไหว คนไทยเลยกุมเงินแน่นใช้น้อยกว่าปีก่อน แม้จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลประจำปีอย่าง ตรุษจีน สงกรานต์ ก็ยังไม่มีแนวโน้มที่จะอยากใช้จ่าย ยิ่งเจอเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ยิ่งโยกเงินไปใช้สำหรับการดูแลบ้าน ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยมากกว่าการใช้จ่ายเพื่อซื้อของ พอเข้าสู่ช่วง Mid-month Sale เดือนมิถุนายน เลยกลายเป็นเพียงงานที่ให้ผู้คนได้เพียงมองผ่าน แต่คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งปีหลัง อาจจะได้ momentum การใช้จ่ายกลับมาจากเทศกาลวันแม่ หยุดยาวเดือนตุลาคม และเทศกาลปีใหม่
ภาพรวมระดับความสุขของคนไทยในครึ่งปีแรกนี้ มีความสุขแบบทรง ๆ เพราะโลกยังไม่น่าไว้ใจ ซึ่งระดับความสุขอยู่ที่ 64 Vs 64 เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คนไทยยังไม่มีโมเมนต์ได้ปลดล็อกอารมณ์ เหมือนปีที่แล้วที่มีทั้ง T-POP Fever และ Soft Power Boom รวมไปถึงยังคงมีปัญหาด้านอื่น ๆ มากมายที่รายล้อมสังคมไทยในปัจจุบัน สุขภาพใจของคนไทยจึงยังอยู่ในโหมดประคับประคอง รอให้มีสิ่งดี ๆ ที่ทำให้คนไทยได้ใจฟูเข้ามาเติมเต็มให้หัวใจอบอุ่น และรู้สึกถึงความหวังว่าชีวิตจะดีขึ้นได้
ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้ เกิดประเด็นมากมายขึ้นในสังคมไทย หลาย ๆ เรื่องราวที่เกิดขึ้นมักทำให้คนไทยเกิดความหวั่นไหวกับกระแสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีมุขใหม่มาหลอกเราตลอด หรือข่าวแผ่นดินไหวตึกถล่มที่ทำให้สะเทือนใจคนทั้งประเทศเป็นเวลานาน รวมไปถึงการจับตาข่าวการกลับมาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อาจเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกโดยเฉพาะนโยบายขึ้นภาษีนำเข้า ขอให้คนไทยเตรียมรับมือกับของแพงที่อาจตามมาโดยไม่รู้ตัว
KTAM เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ภัยพิบัติ "KT-CATBOND-UI และ KT-CATBONDUH-UI" IPO 14-21 ต.ค.นี้
TOA ผนึกบริษัทบริหารอาคารชั้นนำทั่วไทย จัดสัมมนาใหญ่ ยกระดับความปลอดภัยและฟื้นฟูอาคารจากภัยพิบัติ สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกบ้าน
เรียนฟรี! คอร์สออนไลน์ "แผ่นดินไหว" จากจุฬาฯ เพิ่มความตระหนัก รับมือภัยพิบัติปลอดภัย
"พฤกษา" สานต่อความสำเร็จในทำเลศักยภาพบางนา เปิดตัว "ภัสสร 2 บางนา-วงแหวน" บ้านเดี่ยวสไตล์ Neo Classic พร้อมรองรับแผ่นดินไหวด้วยนวัตกรรม "พรีคาสท์" เปิดพรีเซล 6-7 ก.ย.นี้ เริ่มต้น 8.99 ล้าน
Esri Thailand จัด TUC 2025 โชว์ล้ำเทคโนโลยี GIS ช่วยภารกิจ "ตึกถล่ม" ตอกย้ำพลังบูรณาการข้อมูล รับมือทุกความท้าทาย เร่งเครื่องพัฒนาประเทศทุกมิติ
กรุงเทพมหานครมอบ "เข็มนคราภิรักษ์" แก่ทรู คอร์ปอเรชั่น ตอกย้ำบทบาทเอกชน เคียงข้างสังคมในยามวิกฤต หนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว
LPP ตรวจสอบผลกระทบทันที ยืนยันกว่า 260 โครงการปลอดภัย หลังเหตุแผ่นดินไหว 5.4 แมกนิจูด นอกชายฝั่งเมียนมา