ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นครบวงจร มาตรฐานระดับสากลมากว่า 35 ปี ด้วยศักยภาพกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่น 212 ล้านลิตรต่อปี และความสามารถในการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและยางมะตอยมากกว่า 3,600 ล้านลิตรต่อปี พร้อมระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นทางวัตถุดิบถึงปลายทางผู้บริโภคในพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ยึดมั่นมาตรฐานความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล ปัจจุบันมีปริมาณการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า 2,900 ล้านลิตรต่อปี ตอกย้ำเป้าหมาย "ศูนย์กลางพลังงานระดับภูมิภาค" ล่าสุดได้ต้อนรับคณะผู้บริหารกรมธุรกิจพลังงานเยี่ยมชมพื้นที่ปฏิบัติงานที่สมุทรสาคร สะท้อนความเชื่อมั่นภาครัฐกับมาตรฐานคุณภาพน้ำมันหล่อลื่นของ PSP ตลอดกระบวนดำเนินงาน

นายเสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP ผู้นำด้านโซลูชันผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร เปิดเผยว่า คลังน้ำมันเชื้อเพลิงและยางมะตอยของ PSP ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร บนพื้นที่กว่า 60 ไร่ มีกำลังความจุรวมมากกว่า 70 ล้านลิตร ครอบคลุมผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงหลัก ได้แก่ น้ำมันดีเซล B7, B10, แก๊สโซฮอล์ E20, E85 น้ำมันเบนซิน และยางมะตอย โดยมีระบบรับน้ำมันผ่านท่าเทียบเรือของบริษัทเองที่สามารถรองรับเรือบรรทุกขนาด 3,000 - 4,000 ตันกรอส พร้อมระบบจ่ายน้ำมันผ่านรถขนส่งมากกว่า 400 คันต่อวัน เพื่อกระจายไปยังเครือข่ายสถานีบริการ ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบนและภาคตะวันตก
"PSP มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานให้ทันสมัย โดยนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติแบบรวมศูนย์มาบริหารจัดการการทำงานของคลังทั้งหมดผ่านระบบ SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) ควบคู่กับระบบวัดระดับน้ำมันอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ (Automatic Tank Gauging) ระบบโหลดน้ำมันแบบ Bottom Loading ที่ปลอดภัยและแม่นยำ พร้อมทั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติและระบบตรวจจับการรั่วไหลที่ครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อเสริมความปลอดภัยทั้งต่อบุคลากร ชุมชน และสิ่งแวดล้อม" นายเสกสรร กล่าว
นอกจากนี้ PSP ยังให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยได้จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันภายในคลัง ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 ด้านคุณภาพ ISO 14001 ด้านสิ่งแวดล้อม ISO 45001 ด้านความปลอดภัย และเป็นไปตามเกณฑ์ของหน่วยงานรับรองระดับประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำมันที่ส่งถึงมือลูกค้าแต่ละลิตรมีคุณภาพตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด โดยระบบที่นำมาใช้สามารถช่วยลดเวลาการจ่ายลงได้เฉลี่ยถึง 20% และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งในห่วงโซ่อุปทานได้อย่างชัดเจน
ด้านศักยภาพขององค์กร PSP มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมากว่า 35 ปี พร้อมกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่นมากกว่า 212 ล้านลิตรต่อปี มีปริมาณการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและยางมะตอยมากกว่า 3,600 ล้านลิตรต่อปี ครอบคลุมทั้งธุรกิจผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและระบบคลังน้ำมันแบบครบวงจร พร้อมเชื่อมโยงการให้บริการในทุกมิติของห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่กระบวนการรับวัตถุดิบ การจัดเก็บและการผลิตในระบบอัตโนมัติ การควบคุมคุณภาพด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีขั้นสูง จนถึงการกระจายสู่มือผู้บริโภค โดยตลอดระยะกว่า 2 ปีที่ผ่านมา PSP ยังได้รับการรับรองและรางวัลสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน อาทิ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก.17025 (ISO/IEC 17025) ซึ่งตอกย้ำการยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
ในมิติของพลังงานทางเลือก บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพและน้ำมันผสมยางชีวภาพ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในระดับโลก ทั้งยังให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมกับชุมชนรอบพื้นที่ดำเนินงานอย่างยั่งยืน
ล่าสุด PSP ได้ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารจากกรมธุรกิจพลังงาน นำโดย นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงานพร้อมคณะกว่า 20 คน เข้าเยี่ยมชมพื้นที่ของบริษัทฯ ทั้งศูนย์กระจายน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์หล่อลื่น โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่น และศูนย์กระจายสินค้า ณ จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการผลิต การกำกับดูแลและควบคุมคุณภาพของน้ำมันหล่อลื่น ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของกรมธุรกิจพลังงานในการกำกับดูแลและควบคุมคุณภาพของน้ำมันหล่อลื่น รวมถึงความปลอดภัยของการใช้สถานที่ผลิตและสถานที่จัดเก็บน้ำมันหล่อลื่น พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน การเยี่ยมชมในครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากภาครัฐ และตอกย้ำบทบาทของ PSP ในฐานะผู้ประกอบการที่ดำเนินงานตลอดกระบวนการผลิต ตั้งแต่การจัดเก็บวัตถุดิบก่อนเข้าการผลิต จนถึงการควบคุมคุณภาพของน้ำมันหล่อลื่นด้วยมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล