วาโก้เผยกลยุทธ์การขายที่ไม่เพียงแต่ผลิตสินค้าตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม แต่ยังมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า รวมถึงการดูแลกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนเพื่อให้วาโก้เป็นผลิตภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
นายประณต เวสารัชวิทย์ กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการขายวาโก้ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายแบรนด์ชุดชั้นในชั้นนำที่มีการดำเนินงานในประเทศไทยมานานกว่า 55 ปี เปิดเผยถึงแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคหลังสถานการณ์โควิด-19 ว่า มีแนวโน้มใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ ยังคงมีทั้งภาวะเศรษฐกิจ การมองหาสินค้าที่มีคุณภาพ มีอายุการใช้งานได้ยาวนาน รวมถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมของแบรนด์
สำหรับกลุ่มลูกค้าหลักของวาโก้ ยังคงเป็นผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป และเพื่อให้วาโก้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกช่วงวัย จึงปรับกลยุทธ์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังนำ pain point ของลูกค้ามาแก้ปัญหาตัวสินค้า ทำให้ปัจจุบันไม่เพียงแต่มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั้ง inner wear และ outer wear แต่ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้หญิง ผู้ชาย กลุ่ม LGBTQ กลุ่มคนออกกำลังกาย นอกจากนี้ ช่องทางการสื่อสารจากแบรนด์ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย วาโก้ได้เลือกใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียทั้งหมดที่มี ได้แก่ Facebook, Instagram และ TikTok โดยใช้ Key Opinion Consumer: KOC ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม รวมถึงการรีวิวจากผู้บริโภคจริง ที่เป็นกลยุทธ์การตลาดแบบบอกต่อ ที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือมากที่สุดในการเป็นกระบอกเสียงไปยังกลุ่มเป้าหมาย
นอกจากนี้ วาโก้ยังให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดสารพิษ ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคต้องการจากผลิตภัณฑ์ อีกทั้งวาโก้ยังมีโครงการ "วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ" ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้านำชุดชั้นในเก่าทุกแบรนด์ เปลี่ยนจากการทิ้งมาเป็นการบริจาคให้กับวาโก้ เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีด้วยการเผาในระบบปิดที่บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นการเผาแบบ Zero Waste แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานเชื้อเพลิงทดแทนการใช้ถ่านหินในการผลิตกระแสไฟฟ้า ที่นอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะแล้ว ยังช่วยลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 และลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เพราะวัสดุโพลิเมอร์ที่เป็นส่วนประกอบของชุดชั้นในนั้นต้องใช้เวลาในการย่อยสลายมากกว่า 400 ปี การนำไปกำจัดไม่ถูกวิธีจะก่อให้เกิดปัญหาด้านมลพิษและยังเพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของโลกร้อนอีกด้วย วาโก้ทำโครงการนี้มาปีนี้เป็นปีที่ 14 (ปี 2568) โดยตั้งแต่เริมก่อตั้งโครงการ พ.ศ. 2555-2567 ได้ช่วยลดปริมาณขยะชุมชนไปได้แล้วกว่า 121 ตัน เปรียบเท่ากับการปลูกต้นไม้มากกว่า 65,448 ต้น
สำหรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะ AI นั้น วาโก้จะนำมาใช้ช่วยในด้านการออกแบบรวมถึงช่วยมิกซ์แอนด์แมทช์สินค้า แต่ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นชุดชั้นใน ทำให้ลูกค้ายังคงต้องการการสัมผัสและการลองสวมใส่ก่อนตัดสินใจซื้อ ทำให้พนักงานขายหน้าร้านยังคงมีความสำคัญ เพราะไม่ได้เป็นเพียงพนักงานขาย แต่ทำหน้าที่ Bra Advisor ที่สามารถให้คำแนะนำและช่วยเหลือลูกค้าในการเลือกไซซ์ชุดชั้นในที่เหมาะสม รวมถึงทำหน้าที่ปิด pain point ที่ลูกค้าอาจจะเคยได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีมาจากที่อื่น ซึ่งลูกค้าจะมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของวาโก้มีคุณภาพและสามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าทุกรายได้จริง
นายประณตกล่าวต่อไปอีกว่า ในการจัดทำรายการส่งเสริมการขายนั้น วาโก้จะไม่เน้นกลยุทธ์การลดแลกแจกแถมทั่วไป แต่จะเน้นผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่ลูกค้าสามารถนำไปใช้งานได้จริง โดยผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่นำมาจัดรายการนั้น จะเน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็น limited edition เช่น ผ้าขนหนู หรือกระเป๋าที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ที่ไม่ได้มีวางจำหน่ายทั่วไป เป็นต้น รวมถึงการตลาดแบบ loyalty program ทั้งการสะสมแต้มแลกผลิตภัณฑ์หรือแลกรับส่วนลด ก็ยังคงใช้ได้ผลดีในปัจจุบัน
นอกจากนี้วาโก้ยังเน้นทำการตลาดเชิงประสบการณ์ ด้วยการมีส่วนร่วม (collaps) กับแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ โดยที่ผ่านมาได้ร่วมกับแบรนด์และดีไซเนอร์ชั้นนำหลายแบรนด์ เช่น การคอลแลปส์กับแบรนด์ Sirivannavari ในชุดชั้นในคอลเลกชัน Princess Collection ที่รายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเต้านมและการจัดกิจกรรมให้ความรู้และการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม หรือการคอลแลปส์กับดีไซเนอร์ที่ออก คอลเลกชัน "Wacoal x Phannapast Chinese New Year 2025" ไปเมื่อช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา และต้อนรับซัมเมอร์กับคอลเลกชัน Wacoal Summer Breeze เลานจ์แวร์คอลเลกชันใหม่ สงกรานต์นี้ต้องมีสไตล์ใส่ได้ทั้งครอบครัว ในรูปแบบ Unisex และล่าสุดวาโก้ยังได้เปิด "Wacoal Yaowarat Space" ที่มีพื้นที่สำหรับการจัดแสดงงานศิลปะ พื้นที่สำหรับการทำเวิร์กช็อปและคาเฟ่ที่มีทั้งพื้นที่นั่งดื่ม พบปะสังสรรค์ และจุดสำหรับสำหรับถ่ายภาพของสายแชะรีวิว นับเป็นช็อปวาโก้แห่งแรกของโลกที่มีพื้นที่สำหรับกิจกรรมที่หลากหลาย นอกเหนือจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ
"การร่วมมือกับแบรนด์อื่นๆ หรือร่วมมือกับศิลปิน ดีไซเนอร์ชื่อดังนั้น เป็นแนวทางหนึ่งในการขยายฐานลูกค้าของวาโก้ที่จะช่วยให้เราได้กลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ วาโก้ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทุกเพศ ทุกวัย ภายใต้แนวคิด Wacoal For All วาโก้สำหรับทุกคน ทุกวัย ทุกไซซ์ ทุกคัพ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทย และมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน" นายประณตกล่าวสรุป
วาโก้ จับมือ เดอะมอลล์ กรุ๊ป และโครงการ Opal for Her มอบวาโก้บาลานซิ่งบราพร้อมเต้านมเทียม และสนับสนุนเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเต้านมด้อยโอกาส
เปิดแล้ว Wacoal Shop Mega Bangna โฉมใหม่ ใหญ่กว่าเดิม พร้อมเปิดประสบการณ์ขาช้อป กับโปรโมชันสุดพิเศษในช่วงเฉลิมฉลองเปิดร้าน
Wacoal ออกคอลเลกชันใหม่ Wacoal x Phannapast "Candy Wrappers Collection" ต้อนรับช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง พร้อมเปิด Pop Up Store ใจกลางสยามเซ็นเตอร์
วาโก้แฟชั่นโชว์ อลังการยืน 1 นำเสนอภารกิจรักษ์โลกอย่างยั่งยืน ผ่าน WACOAL FOR ALL MODEL เวทีแห่งความหลากหลายและเท่าเทียม ในงานสหกรุ๊ปแฟร์
วาโก้ เปิดตัว WACOAL MOOD POP UP STORE ชุดชั้นในคอลเลกชัน "DO IT YOUR MOOD" พร้อมนำเสนอความสนุก ด้วยสีสันสดใสเอาใจกลุ่มวัยรุ่น
ตุลาคม เดือนรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม "วาโก้" จัดกิจกรรมโมแกรมการกุศล มอบสิทธิ์ตรวจมะเร็งเต้านมฟรี เพื่อสตรีด้อยโอกาสทั่วประเทศ
วาโก้ ครองแชมป์ชุดชั้นในอันดับ 1 ของไทย 11 ปีซ้อน จากผลสำรวจทั่วประเทศ
วาโก้ จับมือ พาซาญ่า เปิดตัวคอลเลกชัน WACOAL X PASAYA: Best for Rest ที่สุดของการพักผ่อนอย่างแสนสบาย ประสบการณ์ใหม่ของชุดนอน กลิ่นอาย Sleep to Street