"โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล" โชว์กำไรสุทธิปี 67 ที่ 159.7 ลบ. โต 21% สอดคล้องรายได้เพิ่ม YOY หลัง Skin Care โตแรง ยอดขายในประเทศพุ่ง ตั้งเป้ารายได้รวมแตะ 4,000 ลบ. เดินหน้าธุรกิจต่างประเทศเพิ่มสัดส่วนเป็น 20% ของยอดขายรวมในปี 73 ปันผล 0.12 บาทต่อหุ้น XD 30 เม.ย.68
คุณคอร์ราโด จาควินโต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ในปี 2567 อยู่ที่ 159.7 ล้านบาท เติบโต 21.6% จากปี 2566 มาจากยอดขายผลิตภัณฑ์เดิม และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค กลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ การสร้างมูลค่าของแบรนด์ที่กระตุ้นยอดขาย การบริหารด้านต่างๆ รวมถึงต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการที่บริษัทได้เข้าถือหุ้นสามัญของบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด หรือ HIB ในสัดส่วน 100% ทำให้ HIB เป็นบริษัทย่อย จึงทำให้รายการส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมลดลงจากปีที่ผ่านมา
ขณะที่บริษัทมีรายได้รวม 1,169.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 205 ล้านบาท คิดเป็น +21.2% จากปี 2566 เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หรือ Skincare โดยเฉพาะแบรนด์หลักอย่าง Rojukiss ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2567 ยอดขายของแบรนด์ Rojukiss เติบโตสูงถึง 42% เทียบกับปี 2566 โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง เช่น Rojukiss Face Eye Neck Cream, Rojukiss Gluta Vit C, Rojukiss Phyto-retinol Serum นอกจากนนี้ยังเติบโตจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ Rojukiss Reju-PDRN Gel Cream, Rojukiss Phyto-retinol Firm Smooth Cream และ Rojukiss Sleeping Mask Rojukiss Bio Hydrogel Melting Masks
รวมถึงยอดขายภายในประเทศเติบโต 42% จากปี 2566 โดยสามารถสร้างการเติบโตในทุกช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ e-Commerce ที่เติบโตถึง 196% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยได้ประโยชน์จาก กลยุทธ์การทำการตลาดแบบดิจิทัล เน้นการรีวิวสินค้าโดย KOL หรือ Key Opinion Leader การขายทาง Live Streaming และพันธมิตรเครือข่ายออนไลน์ Affiliate ส่วนช่องทางออฟไลน์เติบโต 32.5% โดยเป็นการเติบโตทั้งในช่องทางร้านค้า Modern Trade และ General Trade
โดยในปี 2568 บริษัทให้ความสำคัญกับการขยายตลาดในประเทศเป็นหลัก โดยมีแบรนด์ Rojukiss และ Sis2Sis เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโต Rojukiss ยังคงเป็นแบรนด์ชั้นนำในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ยวางเป้าหมารายได้แตะ 4,000 ล้านบาทภายในปี 2573 ในขณะที่ธุรกิจต่างประเทศ คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ 20% ของยอดขายภายในปี 2573 ซึ่งในปี 2568 บริษัทวางแผนขยายการจัดจำหน่ายเชิงลึก และการสร้างแบรนด์ผ่านช่องทางขายตรงกับผู้จัดจำหน่ายใน Modern Trade และ E-commerce ชั้นนำในเวียดนาม กัมพูชา และลาว ก่อนจะขยายไปยังตลาดสำคัญอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.12 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผลหรือ XD ในวันที่ 30 เม.ย. 2568 และจ่ายปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568
KISS เติบโตโดดเด่นทั้งรายได้และกำไรระดับสองหลักหนุน
KISS เปิดตัว "Rojukiss Skin Lab" ศูนย์นวัตกรรมแห่งใหม่ ร่วมกับพันธมิตร
"KISS" นำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนในงาน Opportunity Day พร้อมเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ
KISS กวาดรายได้ครึ่งปี 68 ที่ 512 ลบ. กำไร 59 ลบ. พร้อมการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระดับสองหลักของยอดขายหน้าร้าน (Sell Out) ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดมาสก์หน้า และแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในเวียดนามและลาว
"KISS" ร่วมโชว์ศักยภาพธุรกิจความงามระดับสากลในงาน Cosmoprof CBE ASEAN Bangkok 2025
KISS อนุมัติ 60 ลบ. ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 15 ล้านหุ้น สะท้อนความเชื่อมั่น การเติบโตของธุรกิจในอนาคต
"KISS" โชว์ศักยภาพใน Opp Day Q1/68 พร้อมปรับกลยุทธ์เสริมความแข็งแกร่งแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศ"
KISS กวาดรายได้ไตรมาสแรกปี 68 โต 15% กำไรพุ่ง 12% ครองแชร์เบอร์ 1 Facial Masks
ผู้ถือหุ้น KISS ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.12 บาทต่อหุ้น ย้ำเป้าหมายเป็นแบรนด์ดูแลผิวหน้าชั้นนำของไทย