อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยว เผยผลสำรวจจากนักดำน้ำประจำปี 2568 เจาะลึกพฤติกรรม ความชอบ และแรงบันดาลใจของนักดำน้ำทั่วเอเชีย ตั้งแต่จุดหมายปลายทางในฝัน ไปจนถึงการดำน้ำที่ตอบโจทย์ด้านงบประมาณ ซึ่งผลสำรวจครั้งนี้ไม่ได้แค่เผยว่า "นักดำน้ำอยากไปที่ไหน" แต่ยังสะท้อนเทรนด์ใหม่ ๆ ที่กำลังพลิกโฉมประสบการณ์ท่องเที่ยวใต้น้ำให้สนุก ตื่นเต้น และน่าค้นหากว่าที่เคย
การสำรวจครั้งนี้ได้จัดทำขึ้นใน 11 ประเทศทั่วเอเชีย สะท้อนให้เห็นถึงความโดดเด่นของภูมิภาคนี้ในฐานะแหล่งดำน้ำระดับโลก โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังคงเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักดำน้ำ ด้วยความหลากหลายของแหล่งดำน้ำ ความอุดมสมบูรณ์ของโลกใต้ท้องทะเล และทัศนียภาพใต้น้ำที่งดงามน่าหลงใหล
เชิงลึกจากผลสำรวจในครั้งนี้ เผยให้เห็นถึงพฤติกรรมและแรงจูงใจของนักดำน้ำที่กำลังเปลี่ยนแปลง พร้อมเปิดมุมมองว่าอะไรคือแรงจูงใจเบื้องหลังการผจญภัยใต้ท้องทะเลของเหล่านักดำน้ำ
อินโดนีเซียครองอันดับหนึ่งในฐานะจุดหมายปลายทางในฝันของนักดำน้ำชาวเอเชียด้วยความงดงามของแนวปะการังและความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล อย่างไรก็ตาม นักดำน้ำชาวไทยยังคงชื่นชอบในแหล่งดำน้ำในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะสิมิลันหรือเกาะเต่า ซึ่งงดงามไม่แพ้ที่ใดในโลก ในขณะเดียวกันนักเดินทางชาวไทยก็ยังให้ความสนใจกับการดำน้ำในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งแหล่งดำน้ำแต่ละที่ต่างมอบประสบการณ์การดำน้ำที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จุดหมายปลายทางเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์อันล้ำค่าของโลกใต้ทะเลในภูมิภาคเอเชีย ที่ยังคงดึงดูดนักดำน้ำจากทั่วทุกมุมโลกให้แวะเวียนมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับนักดำน้ำจำนวนมาก ท้องทะเลคือพื้นที่แห่งความสงบที่ช่วยเยียวยาความเครียด เกือบหนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสำรวจ (30%) ระบุว่า "การผ่อนคลาย" คือเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาออกไปดำน้ำ โดยเฉพาะนักดำน้ำจากฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และไทยที่ให้ความสำคัญกับเหตุผลนี้เป็นพิเศษ ในขณะเดียวกัน การได้สำรวจชีวิตใต้ทะเลก็เป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจสำคัญ โดย 24% ของนักดำน้ำระบุว่าความหลงใหลในสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลคือเหตุผลหลักที่พวกเขาเลือกออกผจญภัยในโลกใต้น้ำ
แม้ว่า "ความคุ้มค่า" จะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนทริปดำน้ำ แต่นักเดินทางในปี 2568 กลับแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่พร้อมจะใช้งบประมาณมากขึ้นเพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง อุปกรณ์ หรือที่พัก นักดำน้ำจำนวนไม่น้อยยอมเพิ่มงบเพื่อให้ได้ทริปที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและความทรงจำที่คุ้มค่า โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 40% ระบุว่า พวกเขาใช้จ่ายกับทริปดำน้ำมากกว่าทริปท่องเที่ยวทั่วไปประมาณ 15-30%
นักดำน้ำเกือบครึ่ง (48%) เลือกออกทริปที่ใช้เวลา 4-7 วัน ขณะที่อีก 41% นิยมทริปสั้นช่วงสุดสัปดาห์ ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าทริปดำน้ำแบบกระชับแต่เข้มข้น กำลังตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่ที่มีเวลาจำกัดแต่ยังอยากสัมผัสประสบการณ์ใต้น้ำอย่างเต็มที่
การดำน้ำตามแนวปะการังเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับนักสำรวจใต้น้ำ โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจถึง 75% แสดงความสนใจในจุดหมายปลายทางเหล่านี้ ระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์และปะการังสีสันสวยงามในเอเชีย ยังคงดึงดูดนักดำน้ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวปะการังกลายเป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนสำหรับผู้ที่หลงใหลในโลกใต้ท้องทะเล
เกเด กันดาวัน ผู้อำนวยการประจำประเทศอินโดนีเซียของอโกด้า กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียเป็นแหล่งของจุดหมายปลายทางสำหรับการดำน้ำที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก และยังคงเป็นที่โปรดปรานของนักดำน้ำอยู่เสมอ ที่อโกด้าเรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้นักเดินทางได้สัมผัสประสบการณ์ใต้น้ำที่น่าประทับใจ ด้วยการมอบดีลสุดคุ้มทั้งที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้การสำรวจโลกใต้ทะเลเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 อโกด้าเปิดตัวแคมเปญ Scuba Deals มอบส่วนลดเพิ่มอีก 10% สำหรับที่พักที่เข้าร่วมรายการในจุดหมายปลายทางดำน้ำยอดนิยมทั่วอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม นักเดินทางสามารถจองที่พักในราคาสุดคุ้ม เพื่อสัมผัส
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการซื้อของฝากจากการท่องเที่ยว โดยเก็บจากกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 1,156 กลุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูลในวันที่ 9 13 ธันวาคม 2566 กลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ใช้เกณฑ์ตารางสำเร็จรูปของ Taro Yamane กำหนดว่า ประชากรเกิน 100,000 คนต้องการความเชื่อมั่น 95% และความผิดพลาดไม่เกิน 3% ต้องใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,111 กลุ่มตัวอย่าง
คน กทม ไปเที่ยวจ่าย 5,000- 10,000 บาทต่อคน จังหวัดยอดนิยม เชียงใหม่ ขอนแก่น ระยอง เพชรบุรี อยุธยา กระบี่
—
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันวิจั...
คน กทม 80 % เคยไปสะเดาะเคราะห์ 87.5 % คิดว่าสะเดาะเคราะห์ทำให้ชีวิตดีขึ้น 73.6 % อยากให้รัฐควบคุมสถานที่สะเดาะเคราะห์เพื่อป้องกันการหลอกลวง
—
ศูนย์สำรวจคว...
ผลสำรวจของบีจีไอ จีโนมิกส์ เผยหญิงสาวชาวไทย 61.6% ไม่ตรวจแปปเสมียร์เพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเพราะอายหมอ
—
61.6% ของหญิงไทยอายุ 21-25 ปี ไม่ได้เข้ารับการต...
ปับลิซีส เซเปียนท์เผยข้อมูลลึกจาก Global Banking Benchmark Study 2022 ธนาคารในประเทศไทยและ SEA
—
ปับลิซีส เซเปียนท์ (Publicis Sapient) บริษัทผู้เชี่ยวชาญร...
62.7 % คน กทม ให้ความสำคัญในวันลอยกระทง 93.3% อยากให้รัฐบาลมีการรณรงค์ให้มีการกระทงมาจากวัสดุธรรมชาติ 100 %
—
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันว...
อีเลคโทรลักซ์เผยเยาวชนไทยเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
—
ผลสำรวจเชิงลึกล่าสุดที่อีเลคโทรลักซ์ได้ทำการศึกษาในกลุ่มเยาวชนเกื...
คน กทม 68.6 % ไม่เชื่อว่าล็อกดาวน์ จะทำให้ผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ลดลง 55.6 % อยากให้รัฐบาลมีโครงการ เราชนะ เพื่อเยียวยาด้านเศรษฐกิจให้กับประชาชน
—
ศูนย์สำรวจค...
55.9 % คนกทม ให้ความสำคัญในวันวาเลนไทน์ และไม่เห็นด้วยว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันที่เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ 54.5 %
—
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถา...