PwC ประเทศไทย เผยผลสำรวจล่าสุดพบ องค์กรไทยยังละเลยในการให้ความสำคัญกับฝ่ายงานปฏิบัติตามกฎระเบียบของตน โดยน้อยกว่าครึ่งขาดอำนาจในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ขณะที่ผู้บริหารจำนวนมากไม่มีแผนลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อการตรวจสอบด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการตีความข้อบังคับ แนะธุรกิจไทยวางกลยุทธ์และแผนการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ชัดเจน มีผู้นำด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสม และลงทุนเทคโนโลยี เพื่อเอาชนะการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่จะยิ่งทวีความซับซ้อนมากขึ้น
นางสาว สินสิริ ทังสมบัติ หุ้นส่วนสายงานตรวจสอบบัญชี บริษัท PwC ประเทศไทย เปิดเผยถึง "รายงานผลสำรวจการปฏิบัติตามกฎระเบียบทั่วโลกประจำปี 2568 ฉบับประเทศไทย: ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การปฏิบัติตามกฎระเบียบ" ว่า องค์กรไทยส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญต่อฝ่ายปฏิบัติตามกฎระเบียบ (compliance function) ของตนไม่เพียงพอ โดยมีเพียง 42% ของผู้นำฝ่ายปฏิบัติตามกฎระเบียบของไทยเท่านั้นที่กล่าวว่า พวกเขามีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ขององค์กร เปรียบเทียบกับผู้นำฝ่ายปฏิบัติตามกฎระเบียบในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ 51%
"การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของกฎระเบียบข้อบังคับ ระบบนิเวศอุตสาหกรรม และความเสี่ยงทั้งในระดับมหภาคและจุลภาค อีกทั้งความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทำให้การดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดิม ๆ ไม่ยั่งยืนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้บริหารจึงควรต้องผลักดันให้ฝ่ายปฏิบัติตามกฎระเบียบของตนเป็นศูนย์กลางของการสร้างโมเดลการปฏิบัติตามกฎหมายใหม่อย่างแท้จริง ซึ่งการให้อำนาจในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์นั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้บริษัทสามารถมองเห็น ยอมรับ และจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม และยังช่วยปกป้องและสร้างมูลค่าให้กับองค์กรในระยะยาว" นางสาว สินสิริ กล่าว
ทั้งนี้ รายงานฉบับประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของ "รายงานผลสำรวจการปฏิบัติตามกฎระเบียบทั่วโลกประจำปี 2568" ที่ PwC ได้สำรวจผู้บริหารจำนวนทั้งสิ้น 1,802 ราย ซึ่งรวมถึงผู้บริหารจากประเทศไทยจำนวน 36 รายในช่วงระหว่างเดือนกันยายน ถึงพฤศจิกายน 2567
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า 61% วางแผนที่จะให้ฝ่ายปฏิบัติตามกฎระเบียบของตนมีส่วนร่วมในนวัตกรรมรูปแบบธุรกิจ (business model innovation) ขณะที่ 58% ต้องการให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีการตรวจสอบด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการตีความข้อบังคับ นางสาว สินสิริ กล่าวต่อว่า การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบของธุรกิจในประเทศไทยในปัจจุบันนั้นยังคงตามหลังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยรายงานระบุว่า 72% ของผู้ตอบแบบสำรวจ ใช้เทคโนโลยีในการฝึกอบรมด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (เทียบกับ 81% ในเอเชียแปซิฟิก) ขณะที่ 62% ใช้เทคโนโลยีในการเปิดเผยข้อมูลตามข้อบังคับ (เทียบกับ 71% ในเอเชียแปซิฟิก) และ 57% ใช้เทคโนโลยีในการติดตามประเด็นปัญหา (เทียบกับ 66% ในเอเชียแปซิฟิก) ตามลำดับ
ยิ่งไปกว่านั้น รายงานระบุว่า 41% ของผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทยกล่าวว่า ตนไม่มีแผนลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อการตรวจสอบด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ขณะที่ 35% กล่าวว่า ไม่มีแผนลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อการระบุและตีความข้อบังคับต่าง ๆ โดยนางสาว สินสิริ กล่าวเสริมว่า สาเหตุหลักอาจเนื่องมาจากหน่วยงานการปฏิบัติตามกฎระเบียบของประเทศไทยยังคงพึ่งพาดุลยพินิจของบุคลากรในการตรวจสอบและการระบุข้อกฎหมายและการตีความเป็นหลัก "ความลังเลในการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อการดำเนินงานด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบของธุรกิจไทย เมื่อเปรียบเทียบกับในระดับภูมิภาคจะส่งผลต่อความสามารถของประเทศในการจัดการกับความท้าทายด้านกฎระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อบริษัทต้องการพัฒนานวัตกรรมของผลิตภัณฑ์และการดำเนินธุรกิจในรูปแบบใหม่ ๆ" นางสาว สินสิริ กล่าว
เมื่อพิจารณาถึงวัฒนธรรมองค์กรด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (compliance culture) ผลสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทย 44% กล่าวว่า วัฒนธรรมด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบขององค์กรของพวกเขาอยู่ในระดับปานกลาง โดยปัจจัยที่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างวัฒนธรรมองค์กรดังกล่าวให้แข็งแกร่งต้องอาศัยการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง (75%) การฝึกอบรมและการสื่อสารกับพนักงาน (53%) และการเน้นย้ำถึงความสำคัญของนโยบาย ขั้นตอน และแนวทางปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ชัดเจน (33%)
"เหนือสิ่งอื่นใด การปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ใช่เรื่องของการทำตามกฎเท่านั้น แต่เป็นการตระหนักถึงการทำในสิ่งที่ถูกต้องอย่างเป็นปกติโดยได้ต้องรับการสนับสนุนจากฝ่ายบริหารและมีวัฒนธรรมในการส่งเสริมการปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องและฝังอยู่ในการดำเนินงาน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้บริหารจะต้องคำนึงถึงการมีกลยุทธ์และแผนการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ชัดเจน มีการแต่งตั้งผู้นำด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบและให้อำนาจทีมงานที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม รวมทั้งมีการลงทุนในเทคโนโลยีที่จำเป็นซึ่งทั้งหมดจะเป็นวิธีที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับความท้าทายและความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น" นางสาว สินสิริ กล่าว
Weixin Pay จับมือ พร้อมเพย์ (PromptPay) เพิ่มความสะดวกในการชำระเงินข้ามพรมแดนสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน
PwC ประเทศไทย ชี้ธุรกิจต้องสร้างสรรค์และติดตามมาตรฐานใหม่ รับมือเมกะเทรนด์และประเมินผลกระทบทางการเงิน
เอกอัครราชทูตจีน ปาฐกถา ความสัมพันธ์ไทย-จีน กับธรรมาภิบาลโลก ในงานของสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน สถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย-จีน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) และ China Media Group (CMG)
สถาบันวิทยาการผู้นำไทย-จีน เปิดรับสมัครหลักสูตร วทจ. รุ่น 8 เสริมศักยภาพผู้นำยุคใหม่ เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจไทย-จีนอย่างยั่งยืน
"ข้อมูล" และ "AI" ยุทธศาสตร์ธุรกิจไทย ฝ่าเศรษฐกิจสู่การเติบโตระดับโลก
เจาะอินไซต์เครื่องมือบน LINE สร้าง Brand Efficiency ให้ธุรกิจไทย ชู LINE MINI App ช่วยลดต้นทุน สู้ศึกผู้บริโภคไม่โหลดแอปเพิ่ม
ITD โชว์ศักยภาพในงาน ScaleFast Summit & Expo 2025 เปิดตัว 'ITD Expert Anywhere' พร้อมโชว์ผลงานเด่นและผู้ประกอบการ SMEs ไทยร่วมออกร้าน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต
"อมตะ" เปิดมุมมองผ่านเวที Thailand-China Cooperation Expo 2025 สานความสำเร็จสะพานเชื่อมเศรษฐกิจฐานผลิตเชิงยุทธศาสตร์