ถึงเวลาที่หลายคนรอคอย! การมาถึงของ iPhone 17 ไม่ได้เป็นเพียงการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ แต่เปรียบเสมือนอีเวนต์ประจำปีที่ทุกคนต่างจับจ้องและเฝ้ารอ ทันทีที่งานเปิดตัวเริ่มต้นขึ้น (9 ก.ย. 68) ทุกแพลตฟอร์มก็พร้อมใจกันกลายเป็นสมรภูมิแห่งการแสดงความคิดเห็น ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า iPhone ไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์สื่อสาร แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อป (Pop Culture) ที่สามารถกำหนดทิศทางบทสนทนาและสะท้อนความต้องการของผู้คนในยุคดิจิทัลได้อีกด้วย
บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้รวบรวมข้อมูลจากโซเชียลมีเดียผ่านเครื่องมือ dxt:360 เพื่อติดตามและรับฟังเสียงสะท้อนของผู้บริโภคในสังคมออนไลน์ (Social Listening) ในระหว่างวันที่ 21 สิงหาคม - 22 กันยายน 2568 ซึ่งครอบคลุมทั้งช่วงก่อนและหลังการเปิดตัว iPhone 17 Series เพื่อนำมาวิเคราะห์และหา Insight จากกระแสตอบรับของผู้บริโภคที่เกิดขึ้นจริงบนโลกออนไลน์
ตลอดช่วงเวลาการเก็บข้อมูล (21 สิงหาคม - 22 กันยายน 2568) พบว่า การพูดถึง iPhone 17 บนโซเชียลมีเดียสร้างยอด Engagement รวมกว่า 8,614,245 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการกดไลก์ แชร์ คอมเมนต์ หรือการรีโพสต์ สะท้อนว่าความสนใจของผู้บริโภคต่อ iPhone ยังคงเหนียวแน่น และกลายเป็น Topic ใหญ่ที่ทุกแพลตฟอร์มพร้อมใจกันพูดถึงและมีส่วนร่วมกับทุกความเคลื่อนไหวของการเปิดตัวในครั้งนี้
#iPhone17: เมื่อกระแสถูกผลักดันผ่านแฮชแท็ก
ในยุคโซเชียลมีเดีย แฮชแท็กถือเป็นตัวขับเคลื่อนบทสนทนาและกำหนดเทรนด์ของผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน สำหรับการเปิดตัว iPhone 17 พบว่า Top Hashtags ที่ถูกใช้มากที่สุด ได้แก่
#iPhone17 #iPhone17Pro - พูดถึงตัวเครื่องรุ่นใหม่โดยตรง ทั้งรีวิว ฟีเจอร์ และความคิดเห็นส่วนตัว
#Apple - ครอบคลุมการพูดถึงแบรนด์ Apple โดยรวม ทั้งผลิตภัณฑ์และกิจกรรมต่าง ๆ
#AppleEvent - แสดงให้เห็นความสนใจในงานเปิดตัว รูปแบบการนำเสนอ และความตื่นเต้นของผู้ชม
โดยทั้ง Top Hashtags รวมกันคิดเป็น 55.2% ของการใช้แฮชแท็กทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีแฮชแท็กอื่น ๆ ที่ถูกใช้บ่อย เช่น #iPhoneAir และ #iPhone17ProMax ที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสนใจกับแต่ละโมเดลเป็นพิเศษ โดยโพสต์ส่วนใหญ่ที่ได้รับ Engagement สูง มักมีการใช้แฮชแท็กร่วมด้วย แสดงให้เห็นว่าแฮชแท็กไม่เพียงสร้างการมองเห็น แต่ยังช่วย "ขยายวงสนทนา" และทำให้คอนเทนต์ถูกแชร์ต่ออย่างกว้างขวาง
ส่อง 8 ประเด็นร้อน iPhone 17: ยอด Engagement 'ดีไซน์' ทิ้งห่าง 'ฟีเจอร์' เกือบเท่าตัว!
ข้อมูลจาก dxt:360 ชี้ให้เห็นว่าการเปิดตัว iPhone 17 Series ได้สร้างการพูดถึงบนโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง โดยมีประเด็นหลักที่ผู้คนหยิบยกขึ้นมาพูดถึงแตกต่างกันไป ทั้งในเชิงความคาดหวังและการวิจารณ์ ซึ่งสามารถจัดลำดับตามสัดส่วนของ Engagement ได้ดังนี้
Review (19.5%): หลังจบงานเปิดตัว กระแสรีวิวจากกูรู อินฟลูเอนเซอร์ และสื่อต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทอย่างมาก ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ด้วย Engagement สูงถึง 19.5% ผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างหยิบรีวิวเหล่านี้มาอ้างอิง แชร์ต่อ หรือใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการถกเถียง ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบกับข่าวลือและความคาดหวังช่วงก่อนเปิดตัว ไปจนถึงความรู้สึกจากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสและใช้งานตัวเครื่องจริง ทำให้ "รีวิว" กลายเป็นประเด็นหลักที่จุดประกายความสนใจบนโลกออนไลน์อย่างมากภายหลังการเปิดตัว
Comparison (17.1%): การเปรียบเทียบยังคงเป็นประเด็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในตลาดสมาร์ทโฟน โดยสามารถแบ่งเป็นการเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนแบรนด์คู่แข่ง (14.1%) และการเปรียบเทียบกับ iPhone ด้วยกันเอง (3%) ซึ่งสะท้อนว่าผู้บริโภคไม่เพียงแต่มองหาความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าของ iPhone แต่ยังต้องการชั่งน้ำหนักว่า iPhone 17 มีจุดแข็งหรือจุดด้อยอย่างไรเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ ในตลาด
Appearance & Design (16.8%): ดีไซน์ภายนอกเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงมาก ด้วย Engagement สูงถึง 16.8% โดยผู้บริโภคให้ความสนใจกับ "การปรับตำแหน่งกล้อง", "วัสดุการผลิตที่เปลี่ยนไป" และสีใหม่อย่าง "ส้มคอสมิก" ที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นจุดขายสำคัญที่จุดกระแสการพูดคุยบนโซเชียล ทั้งในมุมชื่นชมความโดดเด่นและการเปรียบเทียบกับ iPhone รุ่นก่อน
Price (14.1%) และ Promotion (8%): ราคายังคงเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ราคาของ iPhone 17 ถูกนำมาเปรียบเทียบกับทั้งรุ่นก่อนหน้าและสมาร์ทโฟนจากคู่แข่ง โดยเฉพาะในประเด็น "ความคุ้มค่า" พร้อมกับเสียงจากผู้บริโภคที่ตั้งข้อสงสัยว่า แม้ค่าเงินบาทจะแข็งขึ้น แต่ราคาของ iPhone ในไทยกลับไม่ถูกลงตามที่คาดหวัง ประเด็นนี้จึงยิ่งกระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถามต่อกลยุทธ์การกำหนดราคาของ Apple และสร้างแรงกดดันด้าน perception ว่า iPhone 17 มีความคุ้มค่าเพียงใด
นอกจากนี้ กระแสในโซเชียลมีเดียยังให้ความสนใจกับแคมเปญส่งเสริมการขายและโปรโมชั่นจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ที่ถูกแชร์ต่อในโซเชียล ซึ่งยังมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการโน้มน้าวใจและการตัดสินใจซื้อในช่วงหลังการเปิดตัว
รวมถึงประเด็นอื่น ๆ ที่ได้รับความสนใจจากโซเชียล Features (10.9%) บางส่วนมองว่าเป็นการอัปเกรดที่ช่วยยกระดับประสบการณ์และเพิ่มความคุ้มค่าให้ผู้ใช้งาน แต่ก็มีความเห็นที่แตกต่างว่าหลายฟีเจอร์อาจยังไม่โดดเด่นพอจะสร้างความแตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง
Apple Event (8.2%) ผู้บริโภคจำนวนมากให้ความสนใจกับการเล่าเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์ของ Apple รูปแบบการนำเสนอที่ไหลลื่นเข้าใจง่าย และ Gadget and Other Devices (5.4%) ที่ความเห็นส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับ "การใช้งานร่วมกันเป็น ecosystem" ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของ Apple ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าไม่ได้ซื้อแค่สมาร์ทโฟน แต่ซื้อ ประสบการณ์แบบครบชุด
จากสัดส่วน Engagement เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า กระแสการพูดถึง iPhone 17 ไม่ได้จำกัดแค่ตัวสินค้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง "ประสบการณ์รอบด้าน" ตั้งแต่วิธีการเล่าเรื่องในงานเปิดตัว ไปจนถึงการใช้งานจริงและการตัดสินใจซื้อ
ประสบการณ์จริงหลังรับเครื่อง: เมื่อความคาดหวังถูกทดสอบด้วยการใช้งานจริง
หลังจากที่ผู้บริโภคเริ่มได้รับเครื่อง iPhone 17 วันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา กระแสการสนทนาบนโซเชียลมีเดียก็ได้ขยับจากความตื่นเต้นในวันเปิดตัว มาสู่ "เสียงสะท้อนจากการใช้งานจริง" จากการรวบรวมข้อมูลบนโซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์ม พบว่าบางประเด็นกลายเป็นข้อถกเถียง โดยเฉพาะปัญหาจากการใช้งานที่ถูกพูดถึงบ่อย เช่น
- รอยถลอกและสีลอกง่าย: ผู้ใช้บางส่วนแชร์ภาพเครื่องที่เกิดรอยขีดข่วนหรือสีหลุดลอก แม้เพิ่งใช้งานไม่นาน ทำให้หลายคนรู้สึกผิดหวังที่วัสดุไม่ทนทานเท่าที่คาดหวังและไม่สมกับราคาที่จ่ายไป
- ปัญหาเครื่องร้อนและสีเปลี่ยนเมื่ออุณหภูมิสูง: พบปัญหาเครื่องร้อนในบางการใช้งาน โดยเฉพาะการเล่นเกมหรือใช้ฟีเจอร์ประมวลผลหนัก ๆ อีกทั้ง มีการพูดถึงว่าเครื่องบางสีมีการเปลี่ยนโทนเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น สร้างทั้งความแปลกใจและความกังวล รวมถึงกระทบต่อความมั่นใจในการใช้งานระยะยาว
- โครงสร้างที่เปราะบางของ iPhone 17 Pro Series: มีกรณีผู้ใช้แชร์ภาพตัวเครื่องที่แตกและหักตรงข้อต่อเสาอากาศ ซึ่งถูกโยงกับดีไซน์ใหม่แบบ unibody ที่ Apple นำโมดูลกล้องมาติดเข้ากับเสาอากาศพลาสติกก่อนเชื่อมกับตัวเครื่อง แม้การออกแบบนี้ช่วยให้การรับสัญญาณดีขึ้น แต่ก็ทำให้บริเวณดังกล่าวกลายเป็นจุดเปราะบางที่อาจเสียหายได้ง่าย จนหลายความเห็นบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า "ใช้วัสดุและโครงสร้างเดิมก็อยู่แล้ว อย่างน้อยทนทานกว่า"
เสียงเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึง ความคาดหวังของผู้บริโภคที่สูงเป็นพิเศษต่อ Apple เนื่องจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่สื่อสารเสมอว่าผลิตภัณฑ์มาพร้อมมาตรฐานสูงสุดทั้งด้านดีไซน์และคุณภาพ แม้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงบางกรณี แต่ก็ถูกขยายผลอย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย และกลายเป็นจุดตั้งคำถามว่า "Apple ยังคงรักษามาตรฐานที่เคยเป็นจุดแข็งได้จริงหรือไม่"
ท้ายที่สุด กระแสเหล่านี้ทำให้เห็นว่า เสียงของผู้ใช้งานจริง ไม่เพียงแต่ส่งผลโดยตรงต่อ ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ แต่ยังกลายเป็นบททดสอบความสามารถของแบรนด์ในการรับมือกับความคาดหวังและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในระยะยาว
ข้อมูลทั้งหมดที่นำมาวิเคราะห์หา Insight รวบรวมข้อมูลจาก dxt:360 (Social Listening and Media Monitoring Platform) ของบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด โดยเก็บข้อมูลระหว่าง 21 สิงหาคม - 22 กันยายน 2568
หมายเหตุ: บทความฉบับเต็มพร้อมข้อมูลเชิงลึก การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้โซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์ม พร้อมกราฟฟิกประกอบ สามารถติดตามอ่านได้ที่เว็บไซต์ www.dataxet.co/insights
เกี่ยวกับ dxt:360
dxt:360 เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสารได้ทั้งจากโซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์ สื่อบรอดคาสท์ และสื่อสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นเสียงของผู้บริโภค (Consumer Voices) คอนเทนต์จาก Influencers และ KOLs ไปจนถึงข่าวจากสื่อมวลชน ที่รวบรวมเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน มีการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบ Dashboard ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละราย (Customizable Dashboard) จึงทำให้เข้าใจและเห็น Insight ในประเด็นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยให้เห็นทิศทางการสื่อสารของแบรนด์ต่าง ๆ สามารถนำมาต่อยอดเพื่อพัฒนากลยุทธ์การสื่อสารขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดตัว "Alibaba Cloud Academy AI Lab" ห้องปฏิบัติการ AI แห่งแรกของประเทศไทย
Sirisoft เปิดตัว "Work DD Recruitment" รุกตลาดแรงงานไทยยุคดิจิทัล ยกระดับบริการสรรหาและจัดการบุคลากรแบบครบวงจร "งานดี สวัสดิการดี ซัพพอร์ตดี"
เอ็มจี นำกลยุทธ์ Music Marketing เชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ กับ NEW MG S5 EV เปิดตัวเพลย์ลิสต์เพลง "รถใครครับ?" พร้อมเสิร์ฟ 3 เวอร์ชัน
กรุงไทยเสริมแกร่งร้านค้าถุงเงินทั่วประเทศ รับสแกนจ่ายจากนักท่องเที่ยวจีน ไม่มีค่าธรรมเนียม หนุนเศรษฐกิจดิจิทัล
โรงพยาบาลเลิดสิน เปิดตัวศูนย์กลางเทคโนโลยี 3 มิติทางการแพทย์แห่งแรกของกรมการแพทย์ พลิกโฉมการแพทย์ไทยสู่ยุคดิจิทัล ด้วยพลังแห่งนวัตกรรม 3D Printing
โครงการ GDCC Open Data โดย สดช. คว้ารางวัลจาก GovInsider ตอกย้ำความโดดเด่นในการใช้เทคโนโลยีพัฒนาภาครัฐสู่ยุคดิจิทัลในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
กรุงไทย สนับสนุนงาน Siriraj X MIT Hacking Medicine 2025 ร่วมขับเคลื่อนระบบสุขภาพไทยสู่ยุคดิจิทัล
อักษรฯ จุฬาฯ เปิดสอนรายวิชา "Dracula and Modern Culture" จากวรรณกรรมสยองขวัญสู่กระจกสะท้อนวัฒนธรรมร่วมใหม่